17 พ.ค. 2021 เวลา 19:25 • ปรัชญา
“หน้าที่ของชาวพุทธ คือคันถะธุระ และวิปัสสนาธุระ”
ธรรมะรุ่งอรุณ ☀️
๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๔
ภาระหน้าที่หรือธุระที่พระพุทธเจ้าทรงมอบหมายให้ทำกันนี้มีอยู่ ๒ ธุระด้วยกัน คือ ๑.คันถะธุระ ๒.วิปัสสนาธุระ นี่คือธุระหน้าที่ที่พระพุทธเจ้าต้องการให้พวกเราชาวพุทธมากระทำกัน เพื่อประโยชน์อันสูงสุดของจิตใจที่จะเกิดขึ้นตามมานั่นเอง เกิดกับพวกเราเกิดกับผู้ที่ทำหน้าที่นี้ ไม่ได้เกิดกับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ต้องการอะไรจากพวกเรา เพราะพระพุทธเจ้าทรงมีพร้อมหมดแล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงต้องการ ไม่มีอะไรที่พระองค์ทรงต้องการจากใครอีกต่อไป สิ่งที่พระพุทธเจ้าต้องการก็คือให้พวกเราได้มีสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงมีนั่นเอง คือมีความสุขเต็มเปี่ยมอยู่ภายในหัวใจปราศจากความทุกข์ต่างๆ นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงปรารถนาต้องการมอบให้กับพวกเรา แต่พวกเราต้องเป็นผู้กระทำหน้าที่ของพวกเรา ทำธุระของพวกเรา ๒ ธุระนี้ พวกเราจึงจะสามารถได้รับความสุขอันยิ่งใหญ่ที่ปราศจากความทุกข์ต่างๆ ที่ยังมีอยู่ภายในหัวใจของพวกเราอยู่ในขณะนี้ ถ้าเราทำหน้าที่ของเราแล้ว ความทุกข์ต่างๆ ที่เรามีกันอยู่นี้จะหายไปหมด จะไม่วุ่นวายไม่เดือดร้อนกับอะไรต่างๆ นี่คือสิ่งที่เราจะได้รับจากการมาทำหน้าที่ของชาวพุทธ คือคันถะธุระ และวิปัสสนาธุระ คันถะธุระนี้เป็นหน้าที่อันดับที่ ๑ ที่เราต้องทำก่อน ก่อนที่เราจะไปทำหน้าที่อันดับที่ ๒ คือวิปัสสนาธุระได้ คันถะธุระนี้แปลว่าอะไร คือการศึกษาคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นเอง
เราต้องเรียนรู้ก่อนว่าพระพุทธเจ้าทรงรู้อะไร แล้วนำเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงรู้ทรงเห็นนี้มาเผยแผ่สั่งสอนให้กับพวกเราที่ยังไม่รู้กัน ดังนั้นสิ่งแรกเราต้องเรียนกัน ศึกษาคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อจะได้รู้ว่าพระพุทธเจ้านี้ทรงสอนให้พวกเราไปรู้อะไรไปเห็นอะไร สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงรู้ทรงเห็นและทรงอยากให้พวกเรารู้ให้เห็นกัน ก็คือเรื่องบุญเรื่องบาป เรื่องผลของบุญของบาปคือสวรรค์และนรก เรื่องของการเวียนว่ายตายเกิดของพวกเรา และเรื่องของการยุติการเวียนว่ายตายเกิดของพวกเรา ที่พวกเราสามารถที่จะทำให้เกิดขึ้นมาได้ พอเราเรียนรู้แล้วว่าเราต้องไปหาดูบุญหาดูบาป หาดูผลของบุญของบาป หาดูเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดของพวกเรา และหาดูเรื่องของการยุติการเวียนว่ายตายเกิดของพวกเรา สิ่งที่เราต้องทำขั้นที่ ๒ ก็คือ เราต้องไปทำความรู้ที่เราได้เรียนรู้นี้มาให้เป็นความรู้แจ้งเห็นจริงขึ้นมา เรียกว่าวิปัสสนาธุระ วิปัสสนาธุระนี้คือการทำให้มีการรู้แจ้งเห็นจริงในสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ทรงรู้ทรงเห็น แต่ตอนนี้พวกเรายังไม่ได้รู้ไม่ได้เห็น แต่เราสามารถที่จะรู้และเห็นได้เหมือนกับที่พระพุทธเจ้าทรงรู้ทรงเห็นด้วยการกระทำวิปัสสนาธุระ ก็คือการปฏิบัติธรรมตามขั้นตอนต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราปฏิบัติกันนั่นเอง ถ้าเราปฏิบัติธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ปฏิบัติ เราก็จะมีดวงตาเห็นธรรม มีดวงตาเห็นบุญเห็นบาป เห็นนรกเห็นสวรรค์ เห็นการเวียนว่ายตายเกิดของพวกเรา เห็นการสิ้นสุดของการเวียนว่ายตายเกิดที่จะตามมาต่อไป
เกิดจากการทำธุระข้อที่ ๒ คือวิปัสสนาธุระ ที่จะต้องเรียนรู้ก่อนจากธุระข้อที่ ๑ คือเรียนรู้ว่าเราต้องไปรู้อะไร ต้องไปพิสูจน์อะไร เราต้องไปเรียนไปพิสูจน์ว่าบุญนี้มีจริงไหม บาปนี้มีจริงไหม ผลของบุญคือสวรรค์มีจริงไหม ผลของบาปคือนรกหรืออบายมีจริงไหม เราตายแล้วเรายังต้องไปเกิดต่อนี้เป็นความจริงไหม และถ้าเราเบื่อต่อการเวียนว่ายตายเกิด เราทำให้การเวียนว่ายตายเกิดนี้สิ้นสุดลงได้หรือไม่อย่างไร นี้คือสิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้กันก่อน เรียนว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของจริง บุญเป็นของจริง บาปเป็นของจริง ผลของบุญคือสวรรค์ ผลของบาปคือนรก หรืออบายเป็นของจริง การเวลาที่ร่างกายเราตายไปแล้วดวงจิตดวงใจของพวกเราจะกลายเป็นดวงวิญญาณที่จะไปอยู่ในโลกทิพย์ ไปรับผลบุญผลบาปในนรกในสวรรค์ และหลังจากที่ได้ใช้ผลบุญผลบาปแล้วก็จะไปเกิดได้ร่างกายอันใหม่ เกิดมา กลับมาเกิดมาแก่มาเจ็บกันใหม่ มาตายกันใหม่อีกรอบหนึ่ง และถ้าเราไม่อยากที่จะกลับมาเกิดมาแก่มาเจ็บมาตาย เราก็สามารถที่จะทำได้ถ้าเรารู้ว่าเหตุที่พาให้เรามาเกิดมาแก่มาเจ็บมาตายนั้นเกิดจากอะไร และถ้าเรารู้เหตุนั้นและรู้วิธีหยุดหรือกำจัดเหตุนั้นได้เราก็ไม่ต้องกลับมาเกิดมาแก่มาเจ็บมาตายกันอีกต่อไป นี่คือเรื่องที่เรามาเรียนรู้กัน
ธรรมะบนเขา
วันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
#พระจุลนายก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
โฆษณา