22 พ.ค. 2021 เวลา 08:35 • ข่าว
#ส่องคดีโหดสะเทือนอิหร่าน
#ฆ่าหั่นศพลูกชายในไส้ทิ้งขยะเพราะไม่ยอมแต่งงาน
1
คดีสยองปนฉงนครั้งนี้ เกิดขึ้นในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่านที่ใครได้ฟังก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมยังมีวิถีความคิดแบบนี้คงอยู่บนโลก ก็คือคดีฆาตกรรม Babak Khorramdin ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอิหร่านวัย 47 ปี ที่เป็นที่รู้จักดีในแวดวงภาพยนตร์อินดี้ทั้งในและต่างประเทศ และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ผู้ที่เป็นคนลงมือสังหารเขาก็คือ นาย Akbar และ นาง Iran Khorramdin ซึ่งเป็นพ่อ และ แม่ บังเกิดเกล้าของเขาเอง
2
จุดเริ่มต้นของคดี เกิดขึ้นเมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ในบริเวณไซท์ก่อสร้างชานกรุงเตหะราน มีคนงานก่อสร้างพบชิ้นส่วนศพ บรรจุอยู่ในกระเป๋าเดินทางมาทิ้งไว้ในกองขยะ ในเขตห่างไกลชุมชน
1
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตหะรานเข้ามาตรวจชันสูตรศพ ก็พบว่าน่าจะเป็นผู้กำกับชื่อดังชาวอิหร่าน จึงตามไปสืบถึงบ้าน และได้พบกับพ่อ และ แม่ของเรารออยู่ที่บ้านแล้ว
และเมื่อนำทั้งคู่มาสอบสวน นาย Akbar พ่อเฒ่าวัย 81 ปีที่เป็นอดีตทหารประจำกองทัพอิหร่านก็สารภาพว่า เขาและภรรยาเป็นคนฆ่าหั่นศพลูกชายตัวเอง แล้วนำไปทิ้งเสียให้พ้นหู พ้นตา
โดยวันก่อเหตุ เขาได้วางยานอนหลับลูกชาย แล้วก็ใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะให้ขาดอากาศหายใจ และกระหน่ำแทงด้วยมีดหลายแผลจนลูกชายถึงแก่ความตาย เสร็จแล้วตัวเขากับภรรยาช่วยกันลากศพเข้าห้องน้ำ จัดการหั่นศพใส่ถุงขยะ บรรจุลงในกระเป๋าเดินทางแล้วจึงนำไปทิ้งที่เขตชานเมืองเตหะราน จนกระทั่งมีคนมาพบศพจนเป็นข่าว
เหตุจูงใจในการก่อเหตุ นั้นมามาความขัดแย้งอย่างรุนแรงในครอบครัว ที่ทั้งพ่อ และ แม่ ต้องการให้ลูกชาย หรือ ผู้กำกับ Badak แต่งงานมีครอบครัวเสียที ซึ่งตัวลูกชายปฏิเสธ บ่ายเบี่ยงมาหลายปีจนอายุย่างเข้าปีที่ 47 สุดท้ายพ่อเฒ่า Akbar ทนไม่ไหว ตัดสินใจปลิดชีพลูกชาย ที่เขาอ้างว่าเป็นการรักษาศักดิ์ศรีให้กับครอบครัว
1
คดียังพีคไม่จบ พ่อเฒ่า Akbar ยังยอมรับอีกว่า เคยฆ่าลูกเขยตัวเองเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เพราะเป็นคนสันดานหยาบช้า และอีก 7 ปีต่อมาก็ฆ่าลูกสาวตัวเอง เพราะเป็นคนดื่มเหล้า สำมะเลเทเมา ซึ่งทั้งหมดฆ่าด้วยวิธีการเดียวกัน คือหั่นศพแล้วเอาไปทิ้งนอกเมือง
จนกระทั่งมาถึงคดีของลูกชาย นาย Badak ที่ตอนนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ทั่วอิหร่าน เนื่องจาก Badak เป็นคนที่มีชื่อเสียง จากประวัติส่วนตัวของนาย Badak Khorramdin เขาเป็นนักเรียนศิลปะ และเรียนจบระดับปริญญาโทด้านภาพยนตร์ที่มหาวิทยาลัยเตหะราน ก่อนไปเรียนต่อด้านภาพยนตร์เพิ่มเติมในลอนดอน และมีผลงานเป็นหนังสั้นชื่อว่า Boor Bijadeh Rang ที่ได้รับรางวัลด้านภาพยนตร์มาพอสมควร ก่อนจะกลับมาอิหร่าน เพื่อเป็นอาจารย์สอนด้านภาพยนตร์ในมหาวิทยาลัย เขาเคยมีข่าวอื้อฉาวว่าเขาเคยมีสัมพันธ์กับนักเรียนคนหนึ่ง แต่ปัจจุบันก็ยังครองสถานะโสด
1
แค่เรื่องพ่อฆ่าลูกในไส้ เพราะขัดแย้งเรื่องการแต่งงานก็ว่าแปลกแล้ว แต่กระบวนการยุติธรรมในอิหร่านกับแปลกยิ่งกว่า เพราะด้วยข้ออ้างเรื่องการฆ่าเพื่อรักษาศักดิ์ศรี อาจทำให้ พ่อเฒ่า Akbar และภรรยารับโทษสถานเบา จำคุกไม่เกิน 10 ปี
2
เพราะในกฏหมายอิหร่าน ถึงแม้จะระบุโทษการฆาตกรรมไว้สูงสุดถึงประหารชีวิต แต่หากเป็นคดีที่พ่อ หรือ แม่ ฆ่าลูกแท้ๆของตัวเอง จะมีโทษเพียงจำคุก 10 ปี
2
ดังนั้นคดีเดียวที่จะพาพ่อเฒ่า Akbar ขึ้นตะแลงแกงแขวนคอได้ มีเพียงคดีเดียว คือ ฆาตกรรมลูกเขยเมื่อ 10 ปีก่อน ที่ก็ต้องรอเจ้าทุกข์ฝ่ายครอบครัวลูกเขยมาแจ้งความ แต่ความผิดจากการฆ่าลูกชาย ลูกสาวตัวเอง ที่จะได้รับโทษเพียงจำคุกเท่านั้น
เรื่องนี้เป็นประเด็นถกเถียงกันมานานในสังคมอิหร่าน ว่ากฏหมายมีส่วนสนับสนุนให้เกิดการกระทำรุนแรงในครอบครัว โดยเฉพาะพ่อ แม่ ที่มีสิทธิ์เหนือชีวิตลูก หากเห็นว่าทำผิดจารีตธรรมเนียม จะทารุณกรรมหนักหนาแค่ไหนก็ไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรง
1
ดังตัวอย่างคดีฆาตกรรมตัดศีรษะ Ali Fazeli Monfared นายแบบหนุ่มอิหร่าน โดยพี่ชายต่างมารดาของเขา เพียงเพราะรู้ว่าเขาเป็นเกย์
หรือการฆาตกรรม Romina Ashrafi เด็กสาววัย 14 ปี ด้วยน้ำมือพ่อของเธอเอง เพื่อต้องการล้างอายที่เธอหนีตามคนรักวัย 35 ปีไปเพราะพ่อไม่ยอมอนุญาตให้พวกเขาแต่งงานกัน
ถึงแม้ว่ารัฐบาลอิหร่านได้ออกกฏหมายคุ้มครองเด็กมาในปี 2020 แต่ก็ไม่ได้ช่วยเรื่องความรุนแรงในครอบครัวมากนัก หากกฏหมายอาชญากรรมหลักยังคงมี "ช่องโหว่" ในกรณีที่พ่อ/แม่ ฆ่าลูกตนเองได้โดยไม่ถูกลงโทษด้วยกฏหมายสูงสุด ดังนั้นการฆ่าเพี่อรักษาศักดิ์ศรีของครอบครัวก็ยังคงฝังรากลึกอยู่ในสังคมของอิหร่านอีกนาน แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม
แหล่งข้อมูล
โฆษณา