28 พ.ค. 2021 เวลา 02:17 • ไลฟ์สไตล์
สวัสดี หังโจว ตอนที่ 6
     และแล้วการเปิดเทอมวันแรกก็มาถึง
หอพักและห้องเรียนของเรา ใกล้กันมาก ห่างกันแค่ 2 ช่วงตึก และมีทางเชื่อมถึงกันเลย ฉะนั้นเรียน 8:00 น  เราตื่น7.00 น. ถือว่ามีเวลาเหลือเฟือมาก ไม่ต้องรีบตื่น เพื่อเดินไปอีก 3 กิโลเหมือนตอนอยู่ฮาร์บิน
เราอยู่Class C2 วันแรกก็จะมั่วๆหน่อยเพราะมีคนในห้องเยอะมาก เกือบ 30 คน แต่กวาดสายตาแล้วมีคนไทยแค่ 2 คนคือเราและพี่อีกคนหนึ่ง ในใจนี่คือดีใจมากเพราะอย่างน้อยเราฟังไม่ออกยังพอมีคนคอยช่วยเราและ
นอกนั้น ที่เยอะก็คือเกาหลีและกลุ่มตะวันออกกลาง (เยเมน ซูดาน ฯ)นอกนั้นก็จะมีพวกรัสเซียและยุโรปบนมาบ้าง ถึงแม้ว่าเราจะรีบไปแต่เช้า แต่ก็ช้ากว่าคนอื่นอยู่ดี เพราะที่นั่งเต็มหมด หลังห้องถูกจองไปด้วยกลุ่มเกาหลี  เหลือเก้าอี้ว่างอยู่ที่เดียว ซึ่งอยู่หน้าสุด ข้างๆเป็นผู้ชายเยเมนตัวเล็กๆ ที่นั่งอยู่คนเดียวอยู่แล้ว คิดในใจเอาวะหน้าสุดก็หน้าสุด เพราะการเรียนที่จีนมาเทอมนึงแล้ว เรารู้แล้วแหละว่านั่งที่ไหนก็ไม่รอดเเหล่าซือเดินทั่วทั้งห้องจริงๆ
เรานั่ง ไม่ถึง 1 นาที รู้สึกได้ว่ามีเสียง ล้อเลียน อารมณ์แซว หนุ่มน้อยเยเมนข้างๆเรา ซึ่งน้องเขาท่าทางเขินเรามาก เหมือนจะขยับเก้าอี้ห่างจากเรา  (ไม่รู้เขินหรือรังเกียจ ) ยิ่งท่าทางน้องเค้าเขินเรามากขึ้น อีแก๊งค์เยเมน ก็ยิ่งเสียงดังแซวกัน  เป็นภาษาอาหรับมากขึ้น หนักขึ้นๆ 1ในนั้น ดีดฝาปากกาใส่เรา เราคิดในใจ จะเล่นใช่มะไอ้พวกเด็กน้อย  เรามองกลับด้วยสายตาพิฆาตพร้อมขว้างฝาปากกากลับไป ( เพื่อแสดงออกให้รู้ว่า กูเริ่มไม่พอใจนะ หยุดได้แล้ว ) จากเสียงดังๆ เริ่ม เงียบบบ  ในขณะที่เด็กข้างๆเรานั่งตัวงอกว่าเดิมแบบว่าเกรงใจที่เราโดนแซว ( พึ่งมารู้ทีหลังว่า ตอนสนิทกันพวกนางเล่าว่าพวกตะวันออกกลางเค้าจะไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิง และเค้าจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงเลยถ้ามีคือ แต่งงาน )
ตั้งแต่วันแรกแล้วคิดในใจว่าท่าจะไม่ค่อยดีแล้ว นี่กูต้องโดนพวกนี้แซวไปทั้งเทอมหรือเปล่า  แค่วันแรกก็ดีดฝาปากกาใส่ ต่อไปจะเจออะไรอีก และห้องเรา ถือว่ามีเยอะมากเกินครึ่ง  (ซึ่งเราอคติกับพวกตะวันออกกลางเกินไปจริงๆ)
 
         อ่ะตัดมาเรื่องเรียนก่อน วันแรกของการเรียนยังไม่มีการเช็คชื่อ เพลงแต่เหล่าซือจะอธิบายเรื่องกฏกติกาของการเรียนคร่าวๆ
แล้วก็ให้แต่ละคนแนะนำตัว ซึ่ง 2 วันแรกจะยังไม่มีการเรียนจริงจังเนื่องจาก เป็นช่วงที่แต่ละคนยังขอย้ายห้องไปมา  ซึ่งการเรียนที่นี่ก็เหมือนกับที่ฮาร์บินนั่นแหละค่ะคือแบ่งเป็นวิชาหลัก(แกรมม่า-เขียน-อ่าน)  วิชาฟัง วิชาพูด แต่ที่เพิ่มขึ้นมา คือวิชาอ่านพวกวรรณคดี  กลอน ประมาณนั้น และมีการสอบเขียนศัพท์ ก่อนเรียน หลังเรียน และ ศัพท์พรุ่งนี้ ทุกวัน ย้ำว่า ทุกวัน ฉะนั้น เรียนเสร็จเราต้องอ่านเตรียมตัวมันทุกวันแบบนี้ ไม่ค่อยได้ออกนอกลู่เท่าไหร่
เหล่าซือที่นี้ สอนดีมาก ใจดีมาก เน้นการออกเสียง และต้องใช้ความอดทนค่อนข้างสูงเนื่องจาก ห้องเรามี กลุ่มตะวันออกกลางเยอะ ฉะนั้นการเรียนการสอนจะ มี การถามตลอด ถกเถียง หรือคุยตลอดเวลา จนบางครั้งเราเองยังรำคาญ
ในห้องแบ่งออกเป็น 3 โซน โซนริมซ้าย ตรงกลางและโซนขวา โซนซ้ายส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มยุโรปเค้านั่งรวมกัน อิตาลี รัสเซีย ฮังการี ฯ เรียกได้ว่าโซนเทพก็ว่าได้ คือ เรียบร้อยเรียนเก่ง  ส่วนพี่คนไทยอีกคน ในห้องเรา ชื่อพี่นุ่น ซึ่งโชคดีไปได้นั่งโซนซ้าย จะคอยจดทุกอย่าง ซึ่งเวลาถ้าเราโดนเรียกถามก็จะมีพี่นุ่นกับหนุ่มอิตาลีข้างๆนี่แหละที่คอยกระซิบช่วยเรา
ต่อมาโซนขวาสุด จะเป็นโซนของ ทีมเกาหลี และขาจร คืออาจจะเป็นพวกนักเรียนทุนป.โท ที่ไม่ค่อยได้มา เพราะเวลาเรียนอาจจะไม่ตรงกัน  วนเวียนไปๆมาๆ
และส่วนกลาง ซึ่งเป็นโซนที่เราอยู่ ร้อยละ 98 เปอร์เซ็นต์คือตะวันออกกลาง มีเราคนไทย และเกาหลีอีก 3 คนที่หลงมา  ซึ่งตอนแรกเราก็ไปนั่งกองกับเกาหลีนั่นแหละ แต่ เวลาเรียนพวกเยเมน จะชอบพูดแข่ง เหล่าซือคงเล็งเห็น ฉากที่เราเควี้ยงปอกปากกาใส่ กลุ่มเยเมน คงวิเคราะห์มาแล้วแหละว่าอีนี่คงเอาอยู่ เลยจัดที่นั่งให้ใหม่โดยเอาเราไปนั่งคั่นกลางดงตัวจี๊ด เรียกได้ว่าซ้ายขวาหน้าหลังของเรา คือตะวันออกกลางทั้งหมด และที่โหดไปกว่านั้นคือ ให้เรานั่งคั่นกลาง ระหว่างเด็กน้อยที่ชอบถูกแซว กับเอาไอ้คนที่โยนปลอกปากกาใส่เรามานั่งข้างๆเราเลยจ้ะ
ซึ่งมันก็ได้ผลชะงัด มารู้ทีหลังคือ ในกลุ่มเยเมนยังมีระดับชั้นวรรณะกันอยู่ ไอ้แก๊งค์ที่ชอบแซวชาวบ้านเราพวกนั้นคือเป็นคนที่ค่อนข้างมีตังค์  ไอ้เด็กที่โดนแซว และโดนตีบ่อยๆ เป็นเหมือนเด็กในบ้านที่เขาส่งมาเพื่อมาดูแลลูกชาย ฉะนั้นจะโดนตบหัว ถูกแกล้ง ถูกด่าเป็นประจำ  การที่เหล่าซือ เอาเราไปนั่งคั่นกลาง มันช่วยให้เด็กน้อยคนนั้น ไม่ถูกรุมตบหัวนั่นเอง
1
เพราะเวลาที่พวกนางจะคุยตะโกนข้ามหัว เริ่มเสียงดัง เราก็จะถลึงตาใส่ทันที หรือเวลาที่เจ้า Mosefan (ตัวจี้ด) จะไปรังแกเจ้า Asamu (ตัวลูกน้อง) เราก็ด่าทันที ไม่มี nonstop ด่าไปด่ามา อ้าว สนิทกันเฉย 5555555  พี่นุ่นซึ่งเป็นคนไทยในห้องเลยตั้งฉายาให้เรา ว่าเจ้าแม่แขก และก็ไปสอน ให้บรรดาแก๊งค์แขกพวกนั้น เรียกเราว่าแม่ อีกด้วย แต่ละคนก็เอ็นดู เรียกเรา แม่ถาย่า (ชื่อจีนของเรา)
อีกสิ่งที่ทำให้ พวกตะวันออกกลางไม่ค่อยยุ่งกับเรา ไม่ใช่เป็นเพราะเราด่าอย่างเดียวหรอก ความน่ารักเราก็มี 55555  เพราะนิสัยเราหรือผู้หญิงคนอื่นทุกคนแหละ เวลาไปเรียน เก่งไม่เก่งไม่รู้แต่พร๊อบเรา ต้องแน่น สมุดปากกา คือมีเยอะมากซื้อมันทุกวัน มีทุกสี ถึงเวลาเข้าเรียน เราเอากล่องดินสอขึ้นมาที พวกบรรดาเยเมน แอนด์เดอะแก๊งค์ ก็จะรุมแย่งกันเพื่อยืมปากกาเราไปใช้ เรียนเสร็จก็วิ่งเอามาคืน เป็นแบบนี้ทั้งเทอม
 
       เรื่องเพื่อนร่วมclass ของเรา เรียกได้ว่า ไม่มีปัญหาเลย ถึงแม้จะคนละวัฒนธรรม ภาษา ถือว่าเข้ากันได้ดี ทุกคนน่ารัก ช่วยเหลือกันดีมาก วันหยุดไปปาร์ตี้ ไปเที่ยวกันเป็นประจำ
แต่เรื่องเรียนนี่ซิเริ่มมีปัญหาสำหรับเรา เพราะมันค่อนข้างหนัก อย่างที่เหล่าซือบอกตั้งแต่แรก เพราะเราดันข้ามขั้นมาเรียน ทำให้ศัพท์หลายๆตัวเราไม่รู้ เราอ่านไม่ค่อยออกตามเพื่อนไม่ค่อยทัน จนจิตตก ดราม่าไปหลายๆครั้ง การสอบเขียนศัพท์ทุกวันเราเขียนผิด ชนิดที่เรียกว่า แทบจะไม่ได้คะแนน ตกเกือบทุกวัน
จนทำให้เราได้มีจุดเปลี่ยนตัวเอง ครั้งใหญ่ ที่ทำให้เราเป็นเราทุกวันนี้เลยแหล่ะ เอาไว้เล่าตอนหน้านะคะ  ขอบคุณทุกคนที่อ่าน
1
สวัสดี
โฆษณา