5 มิ.ย. 2021 เวลา 10:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
โบรกฯ อัพกำไรหุ้นโรงพยาบาลปี 64 ‘โควิด’ หนุนรายได้พุ่ง
"เอเชีย พลัส" คาดไตรมาส 2/64กำไรกลุ่มโรงพยาบาสนิวไฮ เหตุโควิตระบาคหนุนรายได้ตรวจ-รักษาเพิ่ม พร้อมเพิ่มเป้ากำไรทั้งปีแตะ 1.38 หมื่นล้าน "เมย์แบงก็ กิมเอ็ง" แนะเลือกลงทุนรายตัว เหตุราคาหุ้นแพง
โบรกฯ อัพกำไรหุ้นโรงพยาบาลปี 64 ‘โควิด’ หนุนรายได้พุ่ง
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ลายงานวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ได้ปรับเพิ่มกำไรปี 2564 ของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลมาอยู่ที่ 1.38 หมื่นสำนบาท โต 24.6% จากปีก่อนที่มีกำไร 1.1 1 หมื่นล้านบาท จากเดิมคาดว่ากำไร 1.36 หมื่นล้นบาท โดยหลักมาจากการปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรโรงพยาบาลที่มีรายได้จากประกันสังคม (โรงพยาบาลประกันสังคม) ภายหลังผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2564 เดิบโตเด่น
ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2ปี 2564 คาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสที่กำไรสุทธิจะทำจุดสูงสุด (นิวไฮ) เพราะได้ปัจจัยหนุนจากรายได้ที่มีความเกี่ยวข้องกับโควิด-19 ไต้แก่ บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) ปรับขึ้น 14.7% มาอยู่ที่ 1,042 ล้านบาท เติบโต 18.9%, บมจ.บางกอก เชนฮอสปิทอล (BCH) ปรับขึ้น 13.5% มาอยู่ที่ 1,473 ล้านบาท เติบโต 19.9% และ บมจ.โรงพยาบาลราชธานี (RJH) ปรับขึ้น 5.7% มาอยู่ที่ 426.7 ล้านบาท เติบโต 3.6% แต่ความโดนเด่นของโรงพยาบาลประกันสังคมจะเริ่มลดลงในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 เพราะการกระจายและการฉีดวัคซีนในไตรมาส 3 ปี 2564
ขณะที่โรงพยาบาลที่มีรายได้จากเงินสด (โรงพยาบาลเงินสด) ไต้แก่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS), บมจ.โรงพยาบาลพระรามเก้า (PR9) และ บมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) นอกจากรายได้จากการจำหน่ายวัคซีนโควิด- 19 จะมีรายได้จากการทยอยกลับมาของผู้ป่วยต่างประเทศ (Fly-in) กลับเข้ามาในช่วงไตรมาส 4 ปี 2564 ต่อเนื่องไปยังปี 2565
ดังนั้น สำหรับการลงทุนให้น้ำหนัก หุ้นโรงพยาบาลประกันสังคม "เท่ากับตลาต" (Neutral) เพราะราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาเร็ว สะท้อนประเด็นบวกไปมากแล้ว จึงแนะนำซื้อโรงพยาบาลเงินสดที่ราคาหุ้นยังปรับขึ้นไม่มาก (แลกการ์ด) แต่เริ่มเห็นการฟื้นตัวและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องไปยังปี 2565 โดยแนะนำซื้อ BDMS ราคาเหมาะสม 24 บาทต่อหุ้น
นางสาวยุวนีย์ พรหมาภรณ์ ผู้อำนวยการ ฝ่าย IS Research บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า คาดกำไรกลุ่มโรงพยาบาลปี 2564 (BDMS, BH, BCH และ CHG) อยู่ที่ 8.2 พันล้านบาท ลดลง 19.7% จากปีก่อนที่ 1.02 หมื่นล้านบาท เพราะผลกระทบจากโควิด-19 ระลอก 3 กตดันกำไรของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติสูง แต่โรงพยาบาลกลุ่มนี้มีโอกาลฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป จากการกระจายวัดซีนโควิต-19และการลับมาเปิดประเทศ
ขณะที่การลงทุน เม้ว่าโรงพยาบาลประกันสังคมจะมีแนวโน้มกำไรที่ดีกว่าในปี 2564 แต่พบว่ามูลค่า (Valuation) ปรับขึ้นสูง โดยตั้งแต่ตันปีถึงปัจจุบัน (ณ 28 พ.ค.) ราคาหุ้นปรับขึ้นแล้วประมาณ 40-50% จึงแนะนำซื้อหุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่ราคาหุ้นยังแลกการ็ด แต่มีโอกาสกลับมาทำกำไรจากการบินกลับเข้ามาใช้บริการของผู้ป่วยต่างชาติในระยะถัดไปโดยคาดหวังการเติบโตเต็มที่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ไต้แก่ BDMS ราคาเหมาะสม 24 บาทต่อหุ้น และ BH ราคาเหมาะสม 146 บาทต่อหุ้น
โฆษณา