11 มิ.ย. 2021 เวลา 11:46 • นิยาย เรื่องสั้น
พบรักที่คาเฟ่
คำนำ
ถ้าคุณเป็นคนโสด อยู่ในโหมดเหงา ๆ เฝ้าแต่ถามหาว่า เขาคนนั้น คนของใจ ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน นิยายเรื่องนี้เหมาะกับคุณ อ่านเลย ฟินนิด จิกหน่อย อ่านแล้วก็จินตนาการไปว่า คุณคือนางเอกนะคะ
2
บทนำ
เรื่องราวของความรัก ที่จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ไหน ไม่มีใครรู้ แต่เมื่อใดที่คุณเจอใครคนนั้น คุณจะรู้เอง มันจะมีพลังงานบางอย่างบอกกับคุณว่า "แล้วเราก็หากันเจอ"
อย่างเช่นเรื่องราวของมาคัส กับลิต้า ที่อยู่ห่างไกลกันคนละขอบฟ้า คนละซีกโลก เมื่อถึงเวลา ทั้งสองก็ได้มาเจอกัน …
ช้าอยู่ทำไม อ่านสิคะ
2
สำนักพิมพ์ : LAKSAMONTRA
ผู้แต่ง : แสงอักษร
แนว : นิยายรักโรแมนติก
ตอนที่ 1 ฝันร้ายในคาเฟ่ (รีไรท์)
ในขณะที่เธอนั่งดื่มด่ำ สัมผัสกับกลิ่นกาแฟหอม ๆ ที่เธอหลงใหล เธอชอบกลิ่นกาแฟ และต้องเป็นกลิ่นกาแฟในคาเฟ่ด้วยนะ ถึงจะพอใจ
เมื่อชุดแก้วกาแฟแสนสวยที่จัดมาในถาดทรงกลมลวดลายฉลุสวยงาม พร้อมช่อดอกไม้สด น้ำเปล่า และขนมคุกกี้ที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ ๆ กลิ่นนมเนยหอมกรุ่น มาวางตรงหน้า เธอยิ้มให้พนักงานเสิร์ฟ และกล่าวคำขอบคุณด้วยรอยยิ้มสดใส
เธอยกแก้วกาแฟขึ้นมาสูดดม และจิบไปคำเบา ๆ เมื่อวางแก้วกาแฟลงบนที่ เธอก็ลองหยิบจับวางแก้วกาแฟไปรอบโต๊ะ เพื่อหามุมที่ดีที่สุดในการลั่นชัตเตอร์ พอได้มุม ได้แสงที่ต้องการแล้ว
เธอก็พร้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เอียงหน้า หามุม ทำองศา ยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป เซลฟี่ตัวเอง ในมุมต่าง ๆ กับกาแฟถ้วยโปรด และเมนูอาหารบนโต๊ะนั้น
ทันใดสายตาอันพร่าเลือน เพราะเผลอถอดแว่นสายตาวางไว้อีกมุมโต๊ะของเธอ ก็เห็นว่า มีชายหนุ่มรูปร่างสูง ผิวขาว แต่งตัวเซอร์ ๆ เดินเข้ามาหาเธอ ด้วยรอยยิ้มหวานเต็มหน้า ดูแล้วมีเสน่ห์ เป็นรอยยิ้มของความเป็นมิตร
"ยิ้มแบบนั้น ใครเห็นก็ใจละลายป่ะแกรรรร ไหนจะสไตล์เซอร์สุดมั่น นั่นอีก"
เธอพลันคิดขึ้นมาในใจว่า
"เขารักชั้น !"
2
ปฏิกิริยาทางกายไวเท่าความคิด เธอยิ้มตอบเขาไปทันที ด้วยท่าทางที่เขินอายนิด ๆ และแอบคิดในใจว่า "นี่หรือคือรักแรกพบ" !
เธอเริ่มบิดตัวเขินอายไปมา ในความคิดของตัวเอง สองแก้มเริ่มเปล่งสีแดงอย่างกับปัดบลัชออนผิดโทนสีผิว
ในขณะที่ชายหนุ่ม ก้าวมาถึงโต๊ะที่เธอนั่ง และเอ่ยทักออกมาด้วยเสียงนุ่มทุ้ม ว่า "สวัสดีครับ"
ยิ่งทำให้เธอจิตใจหวั่นไหว ฝันไปถึงไหนต่อไหน
ตอบเขาไปด้วยเสียงอ่อนเสียงหวานว่า "สวัสดีค่ะ"
"มาคนเดียวเหรอครับ" ประโยคถัดมา ที่ชายหนุ่มถาม
ครั้งนี้เธอตอบไปด้วยเสียงตะกุกตะกัก เพราะความเขินอายเหลือจะพรรณาว่า “ขะ ขะ ขะ ค่ะ มาคนเดียวค่ะ”
"เอ่อ ถ้าไม่เป็นการรบกวน" เขายังพูดไม่ทันจบประโยค เธอชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า "ไม่รบกวนเลยค่ะ เชิญนั่งค่ะ"
ชายหนุ่มใช้มือจับที่พนักเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามที่เธอนั่ง พร้อมกับยิ้มให้เธออย่างสุภาพอ่อนโยน
นั่นยิ่งทำให้เธอใจละลาย เขินอายวางตัวไม่ถูก ได้แต่ลุ้นว่า เมื่อไหร่เขาจะนั่งลงสักที
"อยากรู้จักกันให้มากกว่านี้ ชื่อเล่น ชื่อจริง นามสกุล อะไร เรียนที่ไหน ทำงานอะไร หลังเลิกงานไปไหน วันหยุดชอบทำอะไร ลงทุนในหุ้นตัวไหน ใช้สื่อโซเชียลไหนบ้าง แล้วเราจะคบกันเลยไหม อร้ายยยยยยยย เธอยิ่งคิดก็ยิ่งเขิน"
ชายหนุ่มตรงหน้ายังคงยิ้มให้เธอ ด้วยความสุภาพอ่อนโยนเหมือนตอนแรกที่เขาเดินเข้ามา
และเหมือนเขาจะอ่านความคิดเธอออก เขาจึงตัดสินใจ พูดประโยคต่อมาว่า
"คือ เอ่อ ภรรยาผมให้มาขอเก้าอี้ตัวนี้ไปเสริมนะครับ พอดีโต๊ะผมมาหลายคน แล้วเก้าอี้นั่งไม่พอ"
OMG ! ในใจเธอกรี๊ดร้องคร่ำครวญ ฝันสลายเหมือนเศษกระจกที่โดนพายุทอร์นาโดพัดถล่ม เละ ไม่เหลือชิ้นดี
โต๊ะอื่นก็มีไหมคะ ทำไม ไม่ไปขอเขา อีตาบ้า ฮือออออ
เธออายในความคิดของตัวเองก่อนหน้านี้ ที่ฝันกลางวันในคาเฟ่ อาจเมากาแฟ เมาบรรยากาศ เธอเพ้อฝันไปไกลและสวยงาม
แต่ตอนนี้อายแทบมุดดินหนี
"สติค่ะซิส” ! เธอรีบบอกตัวเอง
พร้อมพูดออกไปว่า "ได้ค่ะได้ เชิญตามสบายค่ะ"
ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณ พร้อมยกเก้าอี้ตัวนั้นไปให้ภรรยาสุดที่รักของเขา
ฝันสลายลงตรงหน้า เธอรีบยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มกลบเกลื่อนร่องรอยแตกร้าวบนใบหน้า รอยยิ้มหวานมีเสน่ห์นั้นยังคงอยู่ในห้วงคำนึง ถึงเขาจะเดินหันหลังไปแล้วก็ตาม
 
รวดร้าวในความรู้สึก อกหักตั้งแต่ยังไม่ได้บอกรัก ไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำ
หน้าร้อนผ่าว ๆ
พระเจ้า ลูกอายเหลือเกิน เธอบอกกับตัวเอง
ตอนที่ 2 เฝ้ารักที่คาเฟ่
บอย เด็กพนักงานเสิร์ฟในร้าน ผู้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ยืนเกาหัวแกรก ๆ พึมพำกับตัวเองว่า อ้าว แล้วไหนบอสบอกจะเข้าไปจีบสาว ทำไมไปยกเก้าอี้สะงั้น
จะยกเก้าอี้ทำไมไม่บอกเรา ไปยกเองทำไม แล้วนี้ อุตส่าห์ เฝ้ารอกว่าพี่ลิต้าจะมาที่ร้าน เฮ้อ ชวดครั้งนี้ ก็ต้องรอไปวันหยุดหน้าอีก แล้วบอยก็ต้องทนฟังทนเห็นคนคลั่งรักเขาข้างเดียว เฮ้อ บอสนะบอส ทีเรื่องอย่างนี้ ทำไม่เป็น หรือต้องให้บอยสอน
1
ฝ่ายมาคัสนั้น เมื่อแผนการจีบสาวล่มไม่เป็นท่า เพราะดันปากหมา ไปบอกเขาว่ามีภรรยาแล้วนั้น ก็ได้แต่ด่าตัวเอง อยู่ในใจ "ไอ้-่า เอ้ย ภรรยา ! ! จะจีบสาวก็ยังไม่กล้า ยังจะไปบอกเขาว่า ภรรยาให้มาขอเก้าอี้ ผีที่ไหนเจาะปากมาพูดว่ะนี้ หมดกัน อุตส่าห์เตรียมคำพูดมาอย่างดี กูพูดอะไรไปว่ะเนี้ย
ไอ้ …"
คิดแล้วก็หัวเสีย หน้าบูดเดินเข้ามาในห้องครัว และทันได้ยินบอยพึมพำอยู่พอดี
ในขณะที่บอยบ่นพึมพำ นินทาเจ้านายตัวเองอย่างเห็นใจ บอสก็เข้ามาข้างหลัง ถามเสียงเข้มว่า "บ่นอะไรครับบอย ถ้วยจานรอล้างอยู่นะครับ"
บอยรีบหุบปาก แล้วตอบกลับไปว่า "เปล่าครับบอส แล้วเอ่อ บอสครับ จะยกเก้าอี้ ทำไมไม่บอกผม ไปยกเองทำไมครับ?"
มาคัสตอบมาด้วยหน้าเจื่อน ๆ มาคัส : "เปล่า ไม่ได้จะไปยกโต๊ะยกเก้าอี้อะไรหรอก แต่มือมันไปเอง"
1
มาคัสพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดหวัง แต่ในหน้านั้นก็ยังมีรอยยิ้ม ของคนแอบรักเจืออยู่
บอย : "พลาดครั้งนี้ ต้องรอ ไปอีกสัปดาห์หน้านะบอส แล้วก็ไม่รู้พี่ลิต้าเขาจะมาอีกหรือเปล่า"
มาคัส : เออนา รู้แล้ว พูดมากจริง ไปทำงานได้แล้ว
บอย : "ผมสอนจีบหญิงให้ไหมบอส"
มาคัส : "ทะลึ่งแล้วบอย ไปทำงานได้แล้ว"
…..
1
เมื่อเข้ามาในห้องทำงานของตัวเอง เขาคิดไปถึงวันแรกที่เธอเดินเข้ามาในคาเฟ่ของเขา เธอช่างดูสดใส เหมือนว่าโลกทั้งใบเป็นของเธอผู้เดียว กับชุดกระโปรงยาวลายดอกไม้ ที่พลิ้ว ไหวไปตามแรงจังหวะการเดินของเธอ ทำให้โลกหยุดหมุน หัวใจของเขาหยุดเต้นไปชั่วขณะ
ยิ่งตอนเธอเปิดประตูเข้ามา เหมือนว่า เธอเปิดประตูให้เขาเข้าไปอยู่ในโลกของเธอ ใช่ เขาเต็มใจตกลงไปในโลกของเธอแล้ว
ตลอดเวลาที่เธอนั่งดื่มกาแฟในร้าน เขาแอบมองเธอแล้วเผลอยิ้มกับตัวเอง ตอนที่เห็นเธอยกมือถือขึ้นมาทำหน้ายิ้ม ใส่กล้องเขาก็เผลอคิดไปว่า เธอยิ้มให้เขา แถมยังเผลอยิ้มตอบไปอีก ไม่ว่าเธอจะหยิบจะจับอะไร ก็ดูถูกใจไปหมด ขนาดเธอทำกาแฟหกใส่ชุดกระโปรงสวย ๆ เขายังมองว่าน่าเอ็นดู
1
เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยว่า ทำไมหัวใจเขาถึงได้มีความสุขไปกับเธอด้วย ตั้งแต่วันนั้น ใจของเขาก็ไปอยู่ที่เธอแล้ว
1
ในครั้งที่สองที่เธอมาที่ร้าน เธอก็ทำให้เขาประหลาดใจ กับสไตล์การแต่งตัวที่ดูเป็นคนละคนกับครั้งก่อน กับเสื้อยึดกางเกงยีนส์รองเท้าแตะ แล้วไหนจะหน้าที่ไร้เครื่องสำอาง ผมยาวที่ปล่อยตามสบาย สยายเต็มแผ่นหลัง
ทำให้เขาเผลอคิดในใจว่า ใช่คนเดียวกันหรือเปล่า ?
หรือวันนี้เธออาจจะป่วย แต่ถึงอย่างนั้นใจหนึ่งเขาก็รู้สึกว่า อยากจะช่วยหวีผมให้เธอ อยากถามว่า "เป็นอะไรไหม สบายดีหรือเปล่า"
เขาเผลอคิดไปไกล เธอจะดูดีกว่านี้ขึ้นมาหน่อย ถ้าจับรวบมัดผมให้เธอได้ คงจะดี
เมื่อเห็นเธอมีความสุขกับกาแฟถ้วยโปรด ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทำหน้าตลกใส่มือถือเพื่อเซลฟี่ รอยยิ้มของเธอ ก็ทำให้เขาสบายใจอย่างบอกไม่ถูก และคลายความกังวลใจไปได้บ้าง
มาคัส หนุ่มลูกครึ่งไทย อังกฤษ เขาเติบโต เรียนหนังสือ และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่อังกฤษ แต่หลงรักประเทศไทย รักทุกอย่างที่เป็นไทย เพราะคุณแม่ของเขาปลูกฝังมาตลอดว่าเขาเป็นคนไทย ให้รักบ้านเกิดของตัวเอง
เมื่อเขาเรียนจบทำงานมาสักระยะแล้วจึงขอมาเที่ยวพักผ่อนที่เมืองไทย
แล้วก็ติดใจ คิดจะอยู่เมืองไทยยาว ๆ เขาจึงมองหาลู่ทางทำธุรกิจที่เมืองไทย ขอลงทุนกับญาติ ๆ มาเซ้งกิจการร้านกาแฟต่อจากเจ้าของเดิมที่ต้องการขายร้าน เพื่อย้ายไปอยู่ต่างประเทศ
ซึ่งร้านนี้ตกแต่งได้ตามสไตล์ที่เขาชอบพอดี
ตอนแรก พ่อแม่เขาก็ไม่เห็นด้วย แต่เมื่อเขาเลือกแล้ว ผู้เป็นพ่อแม่จึงทำได้แค่ เคารพการตัดสินใจของเขา
แล้วกามเทพก็แผลงศรรักปักอกเข้าให้
พรุ่งนี้มาลงตอนต่อไปให้นะคะ ถ้าใครใจร้อนก็ตามไปอ่านต่อได้ที่ลิงก์นี้
ขอบคุณทุกการต้อนรับสนับสนุน
โฆษณา