11 มิ.ย. 2021 เวลา 22:43 • ท่องเที่ยว
วัดพระแก้ว .. อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
กำแพงเพชร ... ประวัติศาสตร์ไทยบันทึกไว้ว่า กำแพงเพชร เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรสุโขทัย มีฐานะเป็นเมืองลูกหลวง เป็นเมืองหน้าด่านทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ แต่กระนั้น ก่อนมีเมืองกำแพงเพชรเคยมีเมืองเก่ามาก่อน 2 เมือง คือเมืองชากังราว ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำปิง และเมืองนครชุม อยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำปิง
กำแพงเพชร ...เป็นที่ตั้งของเมืองเก่า เมืองแห่งประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ที่ปรากฎมีหลักฐานอยู่ในประวัติศาสตร์ไทยไม่น้อยกว่า 700 ปี เคยมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยทวารวดี รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณหลายเมือง เช่น เมืองชากังราว นครชุม ไตรตรึงษ์ เทพนคร และ เมืองคณฑี
สิ่งที่ยังคงเหลือเป็นร่องรอยอยู่จนปัจจุบัน ที่บ่องบอกถึงความสำคัญของเมือง นอกจากกำแพงเมืองและป้อมปราการจึงถูกสร้างอย่างแข็งแรงแล้ว ยังมีโบราณสถานของเมืองกำแพงเพชร ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนาลัทธิเถรวาทแบบลังกาวงศ์
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ... ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี 2534 แบ่งออกเป็นโบราณสถานฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง เป็นที่ตั้งเมืองกำแพงเพชร โบราณสถานจะสร้างด้วยศิลาแลงและมีขนาดใหญ่ ส่วนโบราณสถานฝั่งตะวันตก คือเมืองนครชุมก่อสร้างด้วยอิฐและมีขนาดเล็ก แต่รูปแบบศิลปะที่ปรากฏ มีลักษณะร่วมสมัยระหว่างสุโขทัยและอยุธยา
ภายในโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร มีโบราณสถานสวยงามและขนาดใหญ่มากมายที่มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น รูปแบบทางศิลปกรรมเป็นของแท้ดั้งเดิมที่แสดงถึงฝีมือและความเชื่อของบรรพชนในอดีต .. วันนี้เราจะพาไปชมเพียงแห่งเดียว
วัดพระแก้ว
วัดพระแก้ว .. เป็นวัดที่สำคัญตั้งอยู่กลางเมืองกำแพงเพชรในเขตกำแพงเมือง อยู่ติดกับบริเวณวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ ในอยุธยา หรือวัดมหาธาตุกลางเมืองสุโขทัย
แผนผังของวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนานไปกับกำแพงเพชร กำแพงวัดขาดเป็นตอน ๆ สิ่งก่อสร้างภายในใช้ศิลาแลงเป็นส่วนใหญ่ .. เป็นวัดขนาดใหญ่ที่มีสิ่งก่อสร้างเรียงเป็นแนวยาวในแกนทิศตะวันออก – ตะวันตก กำแพงวัดเป็นศิลาแลงกลมทั้งท่อนสูงประมาณเมตรเศษๆ และสิ่งก่อสร้างภายในใช้ศิลาแลงเป็นส่วนใหญ่
ด้านหน้าสุดทางทิศตะวันออกของวัดเป็นวิหารขนาดใหญ่ที่มีการยกพื้นสูงมาก ที่ฐานชุกชียังเหลือร่องรอยของโกลนพระพุทธรูปศิลาแลง
ด้านหลังวิหารเป็นอาคารที่มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนกันสันนิษฐานว่าเป็นมณฑป
ถัดจากนั้นเป็นฐานย่อมุม ๓ ชั้น ด้านบนพังพลายหมดแล้วซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นพระปรางค์ซึ่งฐานนี้เชื่อกันว่าเป็นฐานบุษบกที่เคยประดิษฐานพระแก้วมรกต
ถัดมาในส่วนตรงกลางของวัดเป็นเจดีย์ประธานทรงระฆังแบบลังกา ที่ฐานสี่เหลี่ยมทำเป็นซุ้มคูหาโดยรอบมีประติมากรรมพระพุทธรูปและรูปสิงห์อยู่ในซุ้มแต่น่าเสียดายที่ชำรุดหมดแล้ว
ถัดมาเป็นวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ๓ องค์
เป็นพระพุทธรูปไสยาสน์ ๑ องค์และพระพุทธรูปมารวิชัย ๒ องค์ซึ่งพระพักตร์ของพระพุทธรูปเป็นพระพักตร์เหลี่ยมซึ่งเป็นอิทธิพลจากศิลปะอยุธยาตอนต้น
ด้านหลังสุดของวัดเป็นกลุ่มเจดีย์ที่มีเจดีย์ประธานทรงระฆังที่มีฐานช้างล้อมรอบ เรียกกันว่า เจดีย์ช้างเผือก
จากการขุดแต่งวัดพระแก้วพบฐานเจดีย์แบบต่างๆ กัน รวม ๓๕ ฐาน วิหาร ๑๐ วิหาร ฐานโบสถ์ ๑ แห่ง แสดงถึงความเป็นวัดใหญ่และมีความสำคัญมากจากรูปแบบศิลปะและหลักฐานที่พบ สันนิษฐานว่าวัดพระแก้วมีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๒๐ – ๒๒ ในสมัยอยุธยาที่มีศิลปะสุโขทัยและอยุธยาผสมอยู่
ภายในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เคยยิ่งใหญ่ มีต้นไม้ใหญ่อยู่จำนวนมาก ความร่มรื่นได้ทำให้การเดินชมเป็นไปด้วยความรื่นรมย์ ... หากท่านมีโอกาสก็อยากจะชวนเชิฐให้มาเยื้อนที่นี่กันนะคะ
การเป็นแหล่งมรดกโลก
ในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2534 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้ประกาศให้อุทยานแห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลกร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและศรีสัชนาลัยภายใต้ชื่อว่า "เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร"
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา