12 มิ.ย. 2021 เวลา 07:44 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
อาจจะช้าไป 6 ปีกว่าเราจะได้ดูและเขียนรีวิวถึงซีรี่ส์เกาหลี #Reply1988 (ซีรีส์เข้าฉายปี 2015) แต่เราคิดว่า มันเป็นซีรีส์ที่สนุกและควรค่าแก่การดูอย่างยิ่ง
ยอมรับว่าตอนแรกแอบขี้เกียจดูเพราะดูเป็นซีรีส์ดราม่า ความยาวก็ตั้ง 20 ep. แถมแต่ละ ep. ก็ความยาวเฉลี่ย 1 ชั่วโมงครึ่ง บาง ep. ก็ปาไปเกือบ 2 ชั่วโมง แต่พอได้เริ่มดูเข้าจริง เรากลับถูกกลืนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์อย่างไม่อยากออก แล้วพอดูจบแล้วก็ยังไม่สามารถ move on จากมันไปได้ เราจึงจำเป็นต้องเขียนถึงซีรีส์เขาสักหน่อยพอเป็นสังเขป
Reply 1988 เป็นเรื่องราวชีวิตของคน 5 ครอบครัวที่อยู่อาศัยในซอยเดียวกัน แต่ละครอบครัวจะมีลูกที่เกิดปีเดียวกันหรือไล่ ๆ กัน ก็เป็นเพื่อนกัน เน้นเล่าถึงชีวิตครอบครัว มิตรภาพ ความรัก และประเด็นสังคมในยุคนั้น
***Reply 1988 เป็นภาคที่ 3 ของแฟรนไชส์ ไทม์ไลน์หลักจะอยู่แถว ๆ ปี 1988 โดยก่อนหน้านี้แฟรนไชส์เขามี Reply 1997 (ฉายปี 2012) และ Reply 1994 (ฉายปี 2013) ตามลำดับ ทั้งนี้ แต่ละภาคเป็นเรื่องราวของใครของมัน ไม่ต่อเนื่องกัน***
สิ่งที่เราประทับใจจากเรื่องนี้คือ
1. Reply 1988 เป็นซีรีส์ที่เหมือนเป็นไทม์แมชชีน เครื่องบันทึกประวัติศาสตร์และ pop culture ในสมัยนั้น ซึ่งเป็นยุคที่คาบเกี่ยวระหว่างยุค digital กับ analog ทำให้เราได้หวนไปคิดถึงแฟชั่นสมัยนั้น เครื่องมือติดต่อสื่อสาร เพลง หนัง โฆษณา ตู้เกม ฯลฯ ซึ่งอาจจะทำให้คุณนึกถึงเพื่อนและความทรงจำในวันวานของตัวเอง
2. ทุก ๆ ตอนจะมีประเด็นของมัน เช่น ตอนนี้เล่าเรื่องความเป็นแม่นะ ตอนนี้เล่าเรื่องความฝันวัยเยาว์นะ เป็นต้น นอกจากประเด็นครอบครัว มิตรภาพ และความรักหนุ่มสาวแล้ว ซีรีส์ยังสะท้อนประเด็นสังคมและค่านิยมของคนเกาหลีในสมัยนั้นอย่างแยบยล เช่น ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น การศึกษา การแต่งงาน การฝากเงินธนาคารกับการเล่นหุ้น ฯลฯ
3. ซีรีส์เขียนบทมาอย่างดี กระจายบทก็ดี ดูสนุก อบอุ่น มีอารมณ์ขัน ครบรส เหมือนชีวิตจริง ๆ ของคนเรา ซีรีส์ไม่ได้สักแต่จะใส่ดราม่าให้ชีวิตอยู่รสชาติเดียว
4. #ทีมซอกตึก กับ #ทีมซอกคอ จะได้สนุกกับการลุ้นกับรักหลายเส้า ว่าใครคือสามีของนางเอกตอนโต ใครจะได้คู่ใคร ซึ่งเป็นหนึ่งในสูตรสำเร็จของซีรีส์เกาหลีที่ทำให้คนดูติดงอมแงมหรือเป็นโรค second lead syndrome มาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง เช่น Start-Up โดยในเรื่องนี้มีลูกล่อลูกชน หลอกคนดูเก่ง
5. สุดท้ายท้ายสุด เรารักทีมนักแสดงทุกคนในเรื่องนี้ ซีรีส์ทำให้เราประทับใจในความสัมพันธ์ของพวกเขา ทำให้เรารัก ผูกพัน และเติบโตไปกับตัวละครได้ทุกตัว แต่คลั่งรักสุดก็คือ Park Bo-Gum ที่เล่นเป็นเจ้าหนู #แท็กมันร้าย ซึ่งเป็นเด็กที่มีความซับซ้อน ได้อย่างน่ารัก (เราอยู่ #ทีมแท็ก since ep.1)
=====
อ่านเรื่องย่อและรีวิวฉบับเต็ม >>
=====
ช่องทางการติดต่อ Kwanmanie >>>
LINE: @kwanmanie
โฆษณา