12 มิ.ย. 2021 เวลา 13:41 • ข่าว
ทำกันอีกแล้ว น่าเบื่อหน่ายมาก มั่วสุมกันในผับบาร์ทองหล่อ เสี่ยงต่อการเป็นคลัสเตอร์โควิด เข้าทำนอง ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา
มีรายงานข่าวว่า ตำรวจสน. ทองหล่อได้ออกตระเวนเฝ้าระวังสถานบันเทิง และได้ตรวจสอบพบว่า
1
ที่ผับซอยทองหล่อ 7 มีเสียงดัง ลักษณะมั่วสุมกัน จึงได้บุกเข้าไปตรวจสอบ และได้จับกุมนักท่องราตรีที่มามั่วสุมกันได้ถึง 31 ราย
ในกลางดึกของวันที่ 12 มิถุนายน 2564 เป็นผู้ชาย 18 ราย ผู้หญิง 13 ราย
1
และได้ตั้งข้อหา ร่วมกันชุมนุม ทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค
และจะได้เร่งดำเนินการจับกุมตัวผู้จัดการ และเจ้าของมาดำเนินคดีต่อไป พร้อมทั้งแจ้งให้ประชาชนที่พบเห็นลักษณะการมั่วสุมทำนองนี้ ซึ่งเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิด ให้แจ้ง 191 ทันที
ย่านทองหล่อ เป็นย่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดโควิดมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งผับบาร์ที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีดนตรี และมีหญิงบริการที่เรียกว่าสาวเอ็น
ในการระบาดระลอกที่หนึ่ง เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2563 ก็เริ่มมาจากผับบาร์สถานบันเทิงทองหล่อ
ในการระบาดระลอกที่สาม เมื่อเดือนเมษายน 2564 ก็มาจากผับบาร์สถานบันเทิงทองหล่ออีกเช่นกัน
1
และทำให้เกิดคลัสเตอร์การระบาดที่รุนแรงมาก โดยเฉพาะในการระบาดระลอกที่สาม
ได้ทำให้เกิดไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษหรืออัลฟ่า ซึ่งคาดว่าเกิดจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงทองหล่อ นำเชื้อเข้ามาจากกัมพูชา
2
เพราะตรวจสารพันธุกรรมไวรัสแล้วตรงกัน 100% โดยเป็นการลักลอบเข้ามาโดยผิดกฎหมาย
จึงเกิดคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอดคือ
1) เรายังคงจำเป็น จะต้องมีผับบาร์ลักษณะนี้ต่อไปอีกหรือไม่ ถ้าไม่มีแล้ว จะมีคนเดือดร้อนอย่างรุนแรง ไม่สามารถจะดำเนินชีวิตต่อไปได้
ใช่หรือไม่
2
2) การควบคุมดูแลสถานบันเทิงลักษณะนี้ ให้เป็นไปตามกฎหมาย สามารถทำได้จริงหรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ก็ควรเลิกไปเสีย ใช่หรือไม่
1
3) เมื่อมีการกระทำความผิดแล้ว ควรจะต้องลงโทษให้รุนแรงและเฉียบขาด ตลอดจนประกาศให้สังคมรับทราบในเวลารวดเร็ว จะทำได้หรือไม่ และต้องเอาจริง จำคุกไม่รอลงอาญา ตามไปให้ถึงตัวผู้จัดการและเจ้าของจริงให้ได้
เพราะที่ผ่านมา ตามได้สูงสุดคือ ผู้จัดการที่เป็นตัวแทน แม้จะถูกจำคุกโดยไม่รอลงอาญาไปแล้ว แต่ก็ยังสาวไปไม่ถึงตัวเจ้าของ
1
เรื่องแบบนี้ ส่งผลร้ายแรงมากมาย ทำให้มีคนเสียชีวิตจากติดโควิดนับ พันคน ติดเชื้อนับแสนคน
และมีคนเดือดร้อน ได้รับผลกระทบจากการระบาด ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากสถานบันเทิงผับบาร์นับล้านคน
ล่าสุด ศาลแขวงพระนครใต้ ได้มีคำพิพากษา ให้จำคุกหนึ่งเดือนและปรับ 10,000 บาท กับทั้ง 31 ราย
1
ในข้อหาฝ่าฝืนพระราชกำหนดฉุกเฉิน
เนื่องจากให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 15 วัน ปรับ 5000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาหนึ่งปี
เฉพาะประเด็นนี้ เรื่องความรวดเร็วต้องถือว่าใช้ได้ แต่โทษที่ลงไปนั้น น่าจะมีหลายคนเห็นว่าเบาเกินไป ควรจำคุกจริงไปเลย
ที่สำคัญ อยากเห็นการลงโทษภายในไม่เกินเจ็ดวัน กับตัวผู้จัดการและเจ้าของจริง และขอให้ลงโทษสถานหนัก ให้หนักกว่านักเที่ยว
และไม่ควรรอลงอาญา
ก็น่าจะเป็นบทเรียน ที่จะกำราบเจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าวไม่ให้ทำผิดอีกในอนาคต
Reference
โฆษณา