เบลเยี่ยมทีมอันดับ 1 ของโลก กับการไล่ล่าหาความสำเร็จครั้งสุดท้าย
*ก่อนที่จะมาพบกับคอนเท้นจากทางเพจ ทางเพจก็ขอส่งกำลังใจให้กับ คริสเตียน อีริคเซน หลังจากที่เค้าหมดสติลงในสนามในเกมส์พบกับฟินแลนด์เมื่อคืนนี้ แต่ล่าสุดทางผู้จัดงานอย่าง ยูฟ่าได้แถลงแล้วว่าอาการทรงตัวแล้ว
เบลเยี่ยมทีมอันดับ 1 ของโลกกับการไล่ล่าหาความสำเร็จครั้งสุดท้าย
จากการจัดอันดับล่าสุดของ FIFA เบลเยี่ยมถูกยกให้เป็นทีมอันดับ 1 ของโลก จากผลงานยอดเยี่ยมในรอบคัดเลือก เมื่อพวกเขาทำสถิติ 100% เต็มชนะทั้ง 10 นัดที่ลงเล่นในรอบคัดเลือก ยิงไปถึง 40 ประตู และเสีย 3 ประตู พวกเขากลับมาครั้งนี้พร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนท์ใหญ่ให้ได้เป็นครั้งแรก หลังจากนักเตะชุดนี้ เคยได้ที่สามฟุตบอลโลก 2018 มาแล้วด้วย
ผู้จัดการทีมผู้พลิกฟื้นเบลเยี่ยม
โรเบร์โต มาร์ติเนซ
ครั้งนี้ทีมปีศาจแดงยังคงใช้บริการกุนซือชาวสเปนเจ้าเดิม อย่าง โรเบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือวัย 47 ปี หลังจากรับไม้ต่อจากมาร์ค วิลมอตส์ ผลงานของเบลเยี่ยมก็มีแต่จะดีขึ้น หลังปรับแผนการเล่นจาก 4-2-3-1 มาเป็น 3-4-2-1 ซึ่งเป็นการไขน็อตเกมส์รับ และเปิดโอกาสให้แนวรุกสร้างสรรค์โอกาสได้อย่างมากขึ้น หลังจากอยู่ในตำแหน่งนี้มาถึง 5 ปี มาร์ติเนซได้ทดสอบ และทดลองทีมอยู่หลายครั้งจนได้ทีมที่ลงตัว สะท้อนจากการประกาศตัวล่าสุดที่แทบจะไม่พลิกโผ
นักเตะชุดทำศึกยูโร
สามแนวรุกสำคัญ - เควิน เดอ บรอยน์(ซ้าย), โรเมลู ลูกากู(กลาง), และเอแด็น อาซาร์(ขวา)
ทีมชุดนี้ประกอบไปด้วยนักเตะแกนหลักที่มาจากชุดฟุตบอลโลกเมื่อสามปีก่อน โดยนักเตะส่วนใหญ่ค้าแข้งอยู่ในลีคหลักของยุโรป แกนหลักในแนวรับประกอบไปด้วย ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าของค่าตัว 70 ล้านยูโรจากเรอัลมาดริด และคู่ปราการหลังตัวกลาง อย่างโทบี้ อัลเดอไวเรลด์ และยาน แฟร์ทองเก้น อดีตคู่หูที่เคยเล่นกันที่สเปอร์ส เสริมด้วยตัวหลักในเกมส์รุกอย่างครบครัน ตั้งแต่เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์พรสวรรค์จากแชมป์พรีเมียร์ลีค เอแด็น อาซาร์ ตัวรุกสุดจี๊ดจากเรอัล มาดริด ที่พักหลังฟอร์มตกลงไปบ้าง และมีเครื่องจักรผลิตสกอร์ อย่าง โรเมลู ลูกากู ที่หลังจากเจ้าตัวย้ายไปค้าแข้งในอิตาลี ก็มีผลงานดีวันดีคืน
อย่างไรก็ตามเบลเยี่ยมชุดนี้มีนักเตะอายุเฉลี่ยสูงสุดในการแข่งขันที่ 28.7 ปี เมื่อนักเตะส่วนมากของชุดนี้อยู่ในช่วง 20 ปลาย หรือ 30กลางๆ มีนักเตะวัยรุ่นคนเดียวอย่าง เฌเรมี โดกู ปีกตัวจี๊ดจากแรนส์ นี่จึงอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่นักเตะยุคทองชุดนี้จะได้โอกาสคว้าความสำเร็จ
ผู้รักษาประตู: ติโบต์ กูร์กตัวส์ (เรอัล มาดริด), ซิมง มินโญเล่ต์ (คลับ บรูจจ์), แมทซ์ เซลส์ (สตาร์สบูร์ก)
กองหลัง: โทบี้ อัลเดอไวเรลด์ (สเปอร์ส), เดดริค โบยาต้า (แฮร์ธ่า เบอร์ลิน), เจสัน เดนาเยอร์ (ลียง), โธมัส แฟร์มาเล่น (วิสเซล โกเบ), ยาน แฟร์ทองเก้น (เบนฟิก้า), ธิโมที่ คาสตาญ (เลสเตอร์ ซิตี้), โธมัส มูนิเยร์ (ดอร์ทมุนด์)
กองกลาง: เควิน เดอ บรอยน์ (แมนฯ ซิตี้), เลอันเดร์ เดนดองเกอร์ (วูล์ฟแฮมป์ตัน), เดนนิส ปราท (เลสเตอร์ ซิตี้), ยูริ ตีเลอมันส์ (เลสเตอร์ ซิตี้), ฮันส์ ฟานาเก้น (คลับ บรูจจ์), อักเซล วิตเซล (ดอร์ทมุนด์), ธอร์กาน อาซาร์ (ดอร์ทมุนด์), ยานนิค การ์ราสโก้ (แอตเลติโก มาดริด), นาเซอร์ ชาดลี่ (อิสตันบลู บาซัคเซเฮีย), เอแด็น อาซาร์ (เรอัล มาดริด)
กองหน้า: เฌเรมี่ โดกู (แรนส์), มิชี่ บัตซูอายี่ (คริสตัล พาเลซ), คริสติย็อง เบนเทเก้ (คริสตัล พาเลซ), โรเมลู ลูกากู (อินเตอร์ มิลาน), ดรีส์ เมอร์เทนส์ (นาโปลี), เลอันโดร ทรอสซาร์ (ไบรท์ตัน)
แผนการเล่น และนักเตะที่คาดว่าจะได้ลงสนาม
3-4-2-1 GK: ติโบต์ กูร์กตัวส์ DF: โทบี้ อัลเดอไวเรลด์, ยาน แฟร์ทองเก้น และยาน แฟร์ทองเก้น MF:ยานนิค การ์ราสโก้, เควิน เดอ บรอยน์, ยูริ ตีเลอมันส์ และ ธอร์กาน อาซาร์ FW: เอแด็น อาซาร์, โรเมลู ลูกากู, และดรีส์ เมอร์เทนส์
ผู้เล่นที่น่าจับตา - เฌเรมี่ โดกู - ปีกตัวจี๊ดลากเลื้อยมากสุดในยุโรป
เฌเรมี่ โดกู - ปีกตัวจี๊ด
เฌเรมี่ โดกู ปีกขวาวัย 19 ปี ค้าแข้งในฝรั่งเศสกับแรนส์ ที่ดึงตัวมาจากบ้านเกิดด้วย ค่าตัว 26 ล้านยูโร เค้าสามารถยึดตัวจริงของทีมและลงเล่นไป 30 นัดทั้งฤดูกาล โดยจุดเด่นของเจ้าตัวคือการลากเลื้อย โดยติดอันดับ 5 ของนักเตะที่ลากเลื้อยมากที่สุดใน 5 ลีคหลักของยุโรป มากกว่านักเตะอย่างเอมบัปเป้ กองหน้าดาวรุ่งของฝรั่งเศสเสียอีก
นอกจากนั้นสไตล์การเล่นของเค้ามักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับกองหน้าระดับพระกาฬ อย่างซาดิโอ่ มาเน่ ของลิเวอร์พูล และยังเคยตกเป็นข่าวว่าลิเวอร์พูลอยากคว้าตัวไปร่วมทีมอีกด้วย ในการแข่งครั้งนี้เค้าอาจจะยังเบียดรุ่นพี่ อย่างเอเเด็น อาซาร์ หรือ ดรีส์ เมอร์เทนส์ ลงได้ยาก แต่ผมเชื่อว่าเค้าอาจจะได้รับโอกาสให้ลงมาปั่นป่วนกองหลังในช่วงท้ายของเกมส์ หรืออาจจะส่งลงมาเป็นตัวพลิกเกมส์ก็ได้
คาดการณ์ผลงาน - เต็มที่รอบ 8 ทีม
คราวนี้เบลเยี่ยมเตรียมความพร้อมมาเต็บสูบ ยกเว้นต้องเช็คฟิตของ เควิน เดอ บรอยน์ ที่ได้รับอาการบาดเจ็บมาจากนัดชิงแชมเปี้ยนลีค และตัวหลักอย่าง เอแด็น อาซาร์ ว่าจะสามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ทันเวลาหรือไม่ นอกนั้นทีมปีศาจแดงก็ยังมีตัวอันตรายในตำแหน่งต่างๆอย่างครบครัน อีกทั้งนักเตะชุดนี้ยังรู้ใจกันอย่างดีเพราะเล่นด้วยกันมานาน แต่เมื่อมองไปที่แนวรับแล้ว นักเตะส่วนใหญ่ล้วนมีอายุมาก ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาเมื่อต้องเจอกับทีมที่มีเกมส์รุกที่รวดเร็ว โดยรวมแม้พวกเค้าจะมาด้วยความมุ่งมั่นแต่ผมขอฟันธงว่า พวกเค้าจะยังไปไม่ถึงฝัน และโอกาสที่ดีสุดคือ รอบ 8 ทีม
ท่อน้ำ
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
