14 มิ.ย. 2021 เวลา 06:41 • ธุรกิจ
รู้จัก ‘iQIYI’ เน็ตฟลิกซ์แห่งเมืองจีน อีกม้ามืดในตลาดสตรีมมิ่งไทย
อีกหนึ่งข่าวร้อนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่คงไม่พูดถึงไม่ได้ คือ ข่าวที่ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ อย่าง 'ดิสนีย์พลัส ฮอทสตาร์' ประกาศให้บริการในไทยอย่างเป็นทางการ
และแน่นอนว่าข่าวดังกล่าวส่งผลให้สมรภูมิแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอในไทยร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยจำนวนผู้เล่นในตลาดที่ยุบยับไปหมด
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า หนึ่งในแพลตฟอร์มที่มาแรงจนไม่อาจมองข้ามได้ในตอนนี้ คงเป็น 'iQIYI' หรือ อ้ายฉียี่ แพลตฟอร์มดูหนังจากแดนมังกรที่ได้ฉายาว่า 'เน็ตฟลิกซ์แห่งประเทศจีน'
สาเหตุเป็นเพราะความนิยมในจีนที่ได้รับอย่างล้นหลามแซงหน้าคู่แข่งไปหลายขุม ขณะที่ในประเทศไทย หลังจากให้บริการมาเพียง 1 ปี ก็ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น จนไม่หยิบมาพูดถึงคงไม่ได้
1
แล้วอ้ายฉียี่เป็นใคร มีบทบาทแค่ไหนในสังเวียนนี้ ลองมาทำความรู้จักกัน
อ้ายฉียี่ หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า รักความแปลกใหม่ ก่อตั้งขึ้นในปี 2553 โดยเป็นบริษัทลูกของบริษัท search engine อันดับ 1 ของจีนอย่าง Baidu
1
แพลตฟอร์มอ้ายฉียี่ก็เหมือนกับเน็ตฟลิกซ์ คือ เป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งวิดีโอ โดยมีโมเดลเรียกเก็บเงินจากสมาชิก แต่ที่แตกต่างจากเน็ตฟลิกซ์ก็คือ อ้ายฉียี่มีโฆษณาคั่นสำหรับคนที่ดูฟรี และโฆษณาเหล่านี้ก็สร้างเม็ดเงินให้บริษัทได้เป็นกอบเป็นกำเสียด้วย
ถามว่าอ้ายฉียี่ประสบความสำเร็จขนาดไหน? ต้องบอกว่าไม่เพียงแต่มีคอนเทนต์เด่นเป็นซีรีส์ดราม่าจากจีน, เกาหลี, ไต้หวัน รวมไปถึงหนังฮอลลีวูด แต่อ้ายฉียี่ยังเหมือนรายอื่นๆ ที่พยายามดึงคนดูมาด้วยออรินัลคอนเทนต์
1
โดยบริษัทลงทุนสร้างบริษัทโปรดักชั่นของตัวเองอย่าง iQiyi Motion Pictures ขึ้นมา เพื่อผลิตคอนเทนต์เอง, ซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ รวมถึงร่วมทุนกับบริษัทโปรดักชั่นจากเกาหลีและญี่ปุ่น เพื่อผลิตคอนเทนต์ใหม่ๆ ด้วย
ซึ่งเหมือนกับว่าอ้ายฉียี่จะเดินมาถูกทาง เพราะออริจินัลคอนเทนต์ได้นำมาซึ่งความสำเร็จให้กับอ้ายฉียี่ โดยเฉพาะในปี 2561 ที่เรียกได้ว่าเป็นปีทองเลยก็ว่าได้
2
เพราะไม่เพียงแต่สามารถเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่าง Nasdaq และเปิดตัวไปด้วยมูลค่าถึง 2.25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ออริจินัลคอนเทนต์ของอ้ายฉียี่อย่างซีรีส์ย้อนยุคไปสมัยราชวงศ์ชิงเรื่อง เหยียนสี่กงเลี่ยว์ (The Story of Yanxi Palace) ยังสร้างสถิติอันน่าตกตะลึง
3
คือมียอดเข้าชมสูงถึง 530 ล้านครั้งภายในวันเดียว และนับตั้งแต่ออกอากาศในเดือนกรกฎาคม 2561 มียอดชมรวมทั้งสิ้น 5,600 ล้านวิว หรือเฉลี่ย 130 ล้านวิวในแต่ละตอน
และปัจจุบัน มูลค่ากิจการของอ้ายฉียี่พุ่งขึ้นมาถึง 1.18 หมื่นล้านเหรียญแล้ว และมีจำนวนสมาชิกแบบเสียเงินราว 107 ล้านบัญชี ผู้ใช้งานแอคทีฟ 600 ล้านรายต่อเดือน ยอดวิวราว 8,400 ล้านชั่วโมงต่อเดือน
[ม้ามืดในไทย]
1
แม้จะประสบความสำเร็จและเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่ว่าที่ผ่านมาอ้ายฉียี่ไม่ได้สนใจตลาดต่างประเทศนัก
ก่อนที่ในช่วงปลายปี 2562 จะเปิดตัวบริษัท iQIYI International อย่างเป็นทางการ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมกับเปิดตัวสำนักงานในประเทศต่างๆ เพิ่มเติมอีก 6 แห่ง ได้แก่ เวียดนาม, อินโดนีเซีย, แคนาดา, ฟิลิปปินส์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
1
รวมไปถึงประเทศไทย อ้ายฉียี่เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปี 2563 โดยขนทัพซีรีส์, วาไรตี้, ภาพยนตร์, การ์ตูน จากประเทศจีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น และไทยรวมกว่า 3,000 เรื่องมาให้รับชม
และแน่นอนว่าอ้ายฉียี่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ด้วยจำนวนยอดผู้ใช้งานที่เติบโตถึง 8 เท่า คนใช้แอปพลิเคชั่นรวมราว 98 ล้านชั่วโมง ภายในเวลาเพียงแค่ 1 ปี
ความสำเร็จเหล่านี้มาจากกลยุทธ์หลักๆ คือ
1
-การประเดิมตลาดเมืองไทยด้วยรายการวาไรตี้อย่าง Youth with You 2 ซึ่งมีไอดอลขวัญใจชาวไทยอย่าง ‘ลิซ่า แบล็กพิงค์’ ไปร่วมรายการด้วย
1
-การให้บริการในรูปแบบ ‘ฟรีเมียม’ คือรับชมได้ฟรีแบบมีโฆษณาคั่น แต่สามารถอัพเกรดเป็นวีไอพีได้ ด้วยค่าสมัครสมาชิกเพียง 15 บาทในเดือนแรก และ 119/199 บาทในเดือนถัดไป
-สร้างความเป็นเอ็กซ์คลูซีพด้วยคอนเทนต์บางเรื่องที่ดูได้เฉพาะบนอ้ายฉียี่เท่านั้น เช่น 3 หนุ่ม 3 มุม, เสือ ชะนี เก้ง, เป็นต่อ, เสียดาย หรือการ์ตูนอย่างมหาเวทย์ผนึกมาร, ด็อกเตอร์สโตน, แบล็คโลเวอร์
1
[สมรภูมิอันแสนดุเดือด]
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอ้ายฉียี่จะมีขวบปีแรกที่งดงาม แต่ด้วยท่ามกลางสมรภูมิแพลตฟอร์มดูหนังเมืองไทยที่มีผู้เล่นหลายราย
ไม่ว่าจะเป็นพี่ใหญ่อย่างเน็ตฟลิกซ์, Viu หรือวิว, Amazon Prime, HBO Go, MOMOMAX, เอไอเอส เพลย์ ฯลฯ
รวมไปถึงคู่แข่งรายสำคัญที่แข่งกันมาตั้งแต่แดนมังกรอย่าง WeTV (วีทีวี) แพลตฟอร์มสตรีมวิดีโอจากอาณาจักรเทนเซนต์ ที่เข้ามาไทยตั้งแต่ปี 2562 แถมยังมีแม่เหล็กสำคัญเป็นออริจินัลซีรีส์เรื่องดังอย่าง ‘ปรมาจารย์ลัทธิมาร’ ที่ดังเป็นพลุแตกในไทย
2
ทั้งยังมีคู่แข่งรายใหม่ที่เพิ่งกระโดดเข้ามาในเมืองไทยอย่าง ‘Disney+ hotstar’ (ดิสนีย์พลัส ฮอทสตาร์) ที่ถึงแม้จะไม่ใช่คู่แข่งกันโดยตรงในเชิงคอนเทนต์ แต่ก็เป็นค่ายที่เต็มไปด้วยซีรีส์และภาพยนตร์ระดับท็อปฟอร์มที่คนไทยหลายคนตั้งตารอ
การช่วงชิงในยามนี้จึงเป็นเรื่องของความสามารถในการดึง ‘เวลาที่คนเราใช้ดูหนัง’ มาให้ได้มากที่สุด
สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือ กลยุทธ์ต่างๆ ที่อ้ายฉียี่นำมาใช้ในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น การนำออริจินัลซีรีส์เกาหลีเรื่องแรก ‘My Roommate is a Gumiho’ เข้ามาให้แฟนชาวไทยได้รับชม หรือการร่วมกับพันธมิตรส่งละครไทยขึ้นแพลตฟอร์มมากมาย เช่น กระเช้าสีดา, เวลากามเทพ, แพศยา ฯลฯ จะสามารถชิงฐานคนดูและสร้างการเติบโตได้ให้กับอ้ายฉียี่อย่างเช่นในปีแรกหรือไม่
1
หรือจะงัดไม้เด็ดแบบที่ใครก็คาดไม่ถึงออกมาใช้
งานนี้คงต้องติดตาม!
โฆษณา