16 มิ.ย. 2021 เวลา 02:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ
กรณีศึกษา หนี้ท่วมประเทศ ของมัลดีฟส์
ด้วยพื้นที่กว่า 80% มีความสูงจากระดับน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร
ประเทศหมู่เกาะกลางมหาสมุทรอินเดียอย่างมัลดีฟส์ จึงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และถูกน้ำท่วมภายในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม น้ำท่วมเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แต่สิ่งที่กำลังท่วมมัลดีฟส์อยู่ในขณะนี้ ก็คือ “หนี้สาธารณะ”
ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี
2
ปี 2019 มัลดีฟส์มีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 78.1% ของ GDP
ปี 2020 มัลดีฟส์มีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 142.6% ของ GDP
8
คิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ภายในปีเดียว..
1
เกิดอะไรขึ้นกับประเทศมัลดีฟส์ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
2
คนทั่วโลกรู้จักมัลดีฟส์ ในภาพของหมู่เกาะสวยงาม ที่แวดล้อมไปด้วยทะเลสวย น้ำใส และเป็นแหล่งดำน้ำยอดนิยมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยือนกว่า 1.7 ล้านคน ในปี 2019
ซึ่งคิดเป็น 3 เท่าของประชากรชาวมัลดีฟส์ ที่มีอยู่ 541,000 คน
1
การหลั่งไหลมาของนักท่องเที่ยว
ผลักดันให้ GDP ของมัลดีฟส์ในปี 2019 อยู่ที่ 175,000 ล้านบาท
เมื่อหารด้วยจำนวนประชากร ชาวมัลดีฟส์จะมี GDP ต่อหัว 323,475 บาทต่อปี
ทำให้เป็นประเทศที่มี GDP ต่อหัวสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียใต้
ภาคการท่องเที่ยวเป็นพื้นฐานของเศรษฐกิจประเทศนี้มาตั้งแต่ทศวรรษ 1970s เมื่อมัลดีฟส์ได้พัฒนาระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก และวางแผนจัดสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา เพื่อรองรับการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง
ปัจจุบัน ภาคการท่องเที่ยวมีสัดส่วนทั้งทางตรงและทางอ้อมกว่า 60% ของ GDP
9
แต่เมื่อเกิดวิกฤติการระบาดของโควิด 19 ในปี 2020
รัฐบาลมัลดีฟส์ได้ทำการปิดพรมแดน หยุดการเดินทางเข้าของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึงกลางเดือนกรกฎาคม ปี 2020
ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดทั้งปี จากปี 2019 ที่มี 1.7 ล้านคน ลดลงเหลือเพียง 555,000 คน
7
ภาคการท่องเที่ยวที่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจจึงได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ส่งผลให้ GDP ของมัลดีฟส์ในปี 2020 หดตัวถึง 28%
3
ด้วย GDP จากการท่องเที่ยวที่ลดลง ภาครัฐจึงต้องกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ ทั้งการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการและพนักงานด้านการท่องเที่ยว
รวมถึงลดราคาค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ เป็นจำนวนเงินกว่า 6,000 ล้านบาท
6
ซึ่งรายจ่ายเกือบทั้งหมด รัฐบาลมัลดีฟส์จำเป็นต้องกู้เงินมาจากต่างประเทศ
เมื่อ GDP ลดลง แต่ภาระหนี้เพิ่มขึ้น
สัดส่วนหนี้สาธารณะของมัลดีฟส์จึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 78.1% กลายเป็น 142.6%
ผลักดันให้มัลดีฟส์กลายเป็นประเทศที่มีหนี้สาธารณะเป็นสัดส่วนสูงที่สุด อันดับ 8 ของโลก
Cr.noomsaotours
แต่ที่น่าสนใจก็คือ
เจ้าหนี้ที่ใหญ่ที่สุดของมัลดีฟส์เป็น “ประเทศจีน”..
14
ที่มาของหนี้สาธารณะก้อนโตจากจีน ต้องย้อนกลับไปในปี 2014 เมื่อประธานาธิบดี Abdulla Yameen ในขณะนั้น ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมแผนการ Belt and Road Initiative กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
3
ด้วยทำเลที่ตั้งของมัลดีฟส์ที่อยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการขยายอิทธิพลทางการค้าของจีนมายังภูมิภาคเอเชียใต้ และเชื่อมต่อไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง
2
การเซ็นสัญญาในครั้งนั้น ทำให้มัลดีฟส์มีโครงการก่อสร้างครั้งมโหฬาร
ที่โดดเด่นคือการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ 3 โครงการ
โครงการแรก คือ การปรับปรุงสนามบินหลักของประเทศ สนามบินนานาชาติ Velana ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้น จากเดิมที่รองรับได้ราว 1 ล้านคน
มีการขยายรันเวย์ใหม่ ปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร การปรับปรุงนี้ใช้งบประมาณ 3,700 ล้านบาท
3
โครงการที่ 2 สร้างอาคารที่อยู่อาศัยบนเกาะแห่งใหม่ทางตอนเหนือของสนามบิน Velana โดยการถมทะเลขยายพื้นที่ และสร้างกลุ่มอะพาร์ตเมนต์ใหม่หลายแห่ง เพื่อระบายประชากรจากกรุงมาเล เมืองหลวงที่อยู่กันอย่างแออัด โครงการนี้ใช้งบราว 2,500 ล้านบาท
3
โครงการที่ 3 ซึ่งใช้งบประมาณมากที่สุดกว่า 6,500 ล้านบาท
คือการสร้างสะพานความยาว 1.4 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างเกาะสนามบิน Velana กับเกาะมาเล เมืองหลวงของมัลดีฟส์ จากเดิมที่การเดินทางระหว่างทั้ง 2 เกาะ จะต้องเดินทางโดยใช้เรือเท่านั้น ซึ่งใช้เวลามากกว่า 15 นาที สะพานใหม่แห่งนี้ย่นระยะเวลาเหลือเพียง 5 นาที
4
สะพานแห่งนี้ถูกตั้งชื่อว่า Sinamalé หรือ สะพานมิตรภาพจีน-มัลดีฟส์..
1
โครงการเหล่านี้ ถึงแม้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการอำนวยความสะดวกให้กับภาคการท่องเที่ยว การขนส่งสินค้า ไปจนถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและรายได้ที่มากขึ้นของชาวมัลดีฟส์
แต่ก็แลกมากับหนี้สาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
1
ปี 2014 มัลดีฟส์มีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 55.1% ของ GDP
ปี 2016 มัลดีฟส์มีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 62.3% ของ GDP
ปี 2018 มัลดีฟส์มีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 71.5% ของ GDP
3
การตกเป็นหนี้จีนอย่างมหาศาลของมัลดีฟส์ สร้างความไม่พอใจให้กับประเทศเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่ในภูมิภาคอย่าง อินเดีย
2
Cr.triptravelgang
อินเดียมองว่า หากมัลดีฟส์ไม่สามารถจ่ายหนี้คืนให้กับจีนได้ จีนก็สามารถอ้างเรื่องการเป็นกรรมสิทธิ์หุ้นส่วน แล้วยึดครองพื้นที่บางส่วนของมัลดีฟส์เพื่อผลประโยชน์ทั้งทางการค้าและการทหาร
4
เพื่อลดบทบาทของจีนในภูมิภาคเอเชียใต้ เมื่อประธานาธิบดี Abdulla Yameen ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับจีน หมดอำนาจลงในปี 2018 แล้วเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ เป็นประธานาธิบดี Ibrahim Mohamed Solih ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอินเดียมากกว่า
1
อินเดียจึงพยายามขยายอิทธิพลมายังมัลดีฟส์
ด้วยการเสนอแผนการลงทุนสร้างสะพานกลางทะเลความยาวกว่า 6.7 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างเกาะมาเล กับเกาะทางตะวันตกใกล้เคียงอีก 3 เกาะ
อภิมหาโปรเจกต์นี้ คิดเป็นมูลค่าราว 15,500 ล้านบาท
2
ด้วยความที่มัลดีฟส์ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอินเดีย มีความสัมพันธ์ทั้งด้านการค้าและการลงทุน รวมถึงเป็นแหล่งนำเข้าน้ำจืด อาหาร และสินค้าอุปโภค
2
ท่ามกลางเศรษฐกิจที่เปราะบางจากวิกฤติโควิด 19
อินเดียก็เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทั้งในด้านการเงินและวัคซีนที่สำคัญแก่มัลดีฟส์
1
เพื่อดำรงความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านที่ใหญ่และทรงอิทธิพล
เท่ากับว่า มัลดีฟส์อาจต้องยอมรับการลงทุนมหาศาลจากอินเดียอีกครั้ง
ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของ GDP
3
พูดง่าย ๆ ก็คือ มัลดีฟส์ซึ่งก่อหนี้สาธารณะที่มากขึ้นจากจีนอยู่แล้ว อาจจะต้องยอมเป็นหนี้จากอินเดียเพิ่มเติมด้วย..
1
ซึ่งหากเศรษฐกิจของมัลดีฟส์ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น
สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ก็จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ จนอาจก่อให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศได้
1
นับว่าเป็นที่น่าติดตาม ว่าประเทศหมู่เกาะเล็ก ๆ ที่สวยงามแห่งนี้
จะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต ?
2
การต้องเผชิญความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศก็นับว่าน่ากลัวอยู่แล้ว
ภัยจากมนุษย์ที่คาดเดาไม่ได้ ก็น่ากลัวไม่แพ้ภัยจากธรรมชาติ
และมัลดีฟส์กำลังเผชิญหน้ากับทั้ง 2 ความเสี่ยงในเวลาเดียวกัน..
6
โฆษณา