16 มิ.ย. 2021 เวลา 05:57 • ท่องเที่ยว
“บ้านรักไทย” พักบ้านดิน จิบชาชมวิว อิ่มอร่อยกับอาหารยูนนาน
แม่ฮ่องสอน ... เป็นเมืองที่มีแนวชายแดนติดประเทศพม่าตั้งแต่ทิศเหนือจรดทิศตะวันตก นับเป็นพรมแดนที่ยาวที่สุด เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปะวัฒนธรรมประเพณี บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ตลอดจนวิถีชีวิตของผู้คน ซึ่งบางแง่มุมในอดีตถือเป็นดินแดนเร้นลับ
“บ้านรักไทย” ... เป็นหมู่บ้านสุดท้ายก่อนถึงชายแดนไทย – พม่าด้านทิศเหนือ เป็นชุมชนชาวฮ่อที่อพยพหนีภัยมาจากทางตอนใต้ของจีน ในช่วงการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์
เมื่อราว 40 ปีที่แล้ว .. กองกำลังอดีตทหารคณะชาติ กองพล 93 ของนายพลต้วนซีเหวิน ได้นำกำลังทหารมาหลบภัยทางการเมืองบริเวณแนวชายแดนไทย และต่อมาในปี พ.ศ.2516 ครอบครัวทหารจีนคณะชาติ จากกองพล 93 บ้านถ้ำงอบประมาณ 2-3 ครอบครัวเดินทางอพยพเข้ามาปลูกบ้านเรือน ทำสวนไร่นาในเขตพื้นที่บ้านรักไทย ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของชุมชนบ้านรักไทยตั้งแต่นั้นมา
ชาวจีนฮ่อในพื้นที่บ้านรักไทย ยังคงมีการสืบทอดประเพณีของชาวจีนฮ่อดั้งเดิมหลายอย่าง ... ทั้งภาษาพูด ภาษาเขียน การแต่งกายและบ้านเรือนซึ่งสร้างจากดินเหนียวผสมฟางข้าว รวมถึงอาหารจีนยูนนาน
ในช่วงหลังมีคนเข้ามาอาศัยในชุมชนนี้มากขึ้น ประกอบกับภูมิประเทศที่สวยงามของภูเขา ทะเลสาบ บ้านดิน และไร่ชา จึงได้กลายเป็น “หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศ” ที่ผู้คนจากทุกสารทิศพากันปักหมุดในการเดินทางมาเยือน
เราเดินทางจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน แวะชมสถานที่ต่างๆในรายทางมาเรื่อยๆ ... ทั้งสะพานแห่งศรัทธาซูตองเป้ แวะเสริมสวยพอกกายที่ภูโคลน แวะชมทิวทัศน์สวยงามของอ่างเก็บน้ำที่ปางอุ๋ง เล่นน้ำตกเย็นชื่นใจที่น้ำตกผาเสื่อ
... ขับรถต่อมาเรื่อยๆ จนเข้ามาในเขต “หมู่บ้านรักไทย” ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เราจองที่พักที่ “ลีไวน์ หมู่บ้านรักไทย” .. ที่พักทั้งหมดของรีสอร์ทแห่งนี้ตั้งชื่อตามชนิดของชาคุณภาพดีที่ปลูกในพื้นที่ สำหรับห้องพักของเรานั้นอยู่บนภูเขา และอยู่ห่างจากลานจอดรถพอสมควร ต้องเดินตามทางเดินไปยังทางขึ้นไปยังที่พัก
สโลปของภูเขาอันเป็นที่ตั้งของห้องพักของเราค่อนข้างชันทีเดียว เหล่า สว.อย่างเราต้องค่อยๆเดินหนีต้านความโน้มถ่วงของโลกขึ้นไปเรื่อยๆ หากรู้สึกเหนื่อยก็พักเก็บภาพวิวในรายทาง .. ข้างๆทางเดินปลูกต้นชาอยู่เกือบเต็มพื้นที่
“บ้านดินสีปูนแห้งสไตล์โรงเตี้ยมโบราณของจีน” .. โดดเด่นอยู่ท่ามกลางสีเขียวของไร่ชาพันธุ์ดี อันเป็นพืชเศรษฐกิจของชาวบ้าน
เนื่องจากที่นี่สูงจากระดับน้ำทะเล กว่า 1,776 เมตร ทำให้พื้นที่ เหมาะสมอย่างยิ่งกับการปลูกชาพันธุ์ดี และพืชเมืองหนาว และเมื่อเรามาเยือนจึงให้ความรู้สึกคล้ายกับเรากำลังอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆในมณฑลยูนนาน
ทิวทัศน์ของบ้านพักของเรา โอบล้อมไปด้วยทิวเขา แมกไม้ที่ อุดมสมบูรณ์ .. มีต้นบ๊วยที่ดอกกำลังเบ่งบาน ยืนต้นอวดโฉมสลับแซมกับต้นชา ชื่นชมกับการออกแบบภูมิทัศน์ของที่นี่มากมายค่ะ
ช่วงกึ่งกลางของทางเดินขึ้นไปยังที่พัก เมื่อหันกลับมายังทิศทางของกลางหมู่บ้าน ...
ทะเลสาบกลางหมู่บ้าน .. เหมือนภาพวาดที่จิตรกรชั้นครูสะบัดพู่กันวาดเอาไว้ สวยงามมากกว่าจะเป็นภาพจริงๆที่ผ่านเข้ามาในสายตา เห็นแล้วคิดถึงใครบางคนที่ชื่นชอบกับการสเก๊ตภาพและวาดภาพสี
.. ใครบางคนบอกว่า ทะเลสาบแห่งนี้เป็นเหมือนอ่างเก็บน้ำเอาไว้ใช้สอยในชีวิตประจำวัน และผืนดินรอบๆทะเลสาบ ถูกสร้างเป็นร้านค้าบ้าง ที่พักอาศัยบ้าง ..
พื้นที่ส่วนที่เหลือก็เป็นที่ดินสำหรับการเกษตร รวมถึงเป็นที่พักผ่อน เดินเล่น รื่นรมย์กับทิวทัศน์สวยๆที่ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นมาให้เป็นพื้นที่สวยงาม
ด้านหนึ่งของหมู่บ้าน ... เป็นพื้นที่สวนในพื้นราบ มีทางเดินรอบทะเลสาบ
“อาหารจีนยูนนาน” ของบ้านรักไทย … นับว่ามีชื่อเสียงไม่แพ้ที่ชุมชนชาวจีนฮ่อบนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย สำคัญนักท่องเที่ยวยังจะได้ชิมชารสเลิศจากชาพันธุ์ดี ซึ่งมีจำหน่ายในหมู่บ้าน ได้แก่ ชาพันธุ์อูหลง
เราจึงจองที่พักเป็นแพ๊คเกจรวมอาหารยูนนานแบบโต๊ะจีน .. ร้านอาหารตั้งอยู่บนถนนสายหลัก ซึ่งอยู่ด้านล่าง เราต้องเดินลงไป ผ่านทิวทัศน์ที่สวยงามและน่าสนใจ ทำให้นึกถึงบรรยากาศของหมู่บ้านบางแห่งในประเทศจีนที่เคยไปเยือน ...
… นับว่าเป็นจุดขายที่ชาญฉลาดของผู้บริหารที่นี่ ที่ดึงเอาหมู่บ้านจีนโบราณมาตั้งเอาไว้ให้ผู้คนได้สัมผัส โดยไม่ต้องเดินทางข้ามน้ำ ข้ามทะเลไปยังเมืองจีน
ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ .. ลักษณะเป็นอาคาร 2 ชั้น ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ แต่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงเป็นร้านขายของที่ระลึกของทางรีสอร์ท แค่เพียงชั้นที่อยู่ในระดับเดียวกับถนนเท่านั้น
พื้นที่หลักในการบริการอาหารอยู่ตรงกลางของร้าน .. ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นมุมเครื่องดื่มที่ลูกค้าสามารถสั่งเมนูขา กาแฟ และเครื่องดื่มชนิดต่างๆที่ชอบ แล้วหาที่นั่งริมระเบียงส่งสายตาไปยังทิวทัศน์สวยๆของทะเลสาบได้อย่างรื่นรมย์
... และเมื่อเรายืนอยู่ริมระเบียง ความงามของท่าน้ำและแพไม้ที่เห็นในสายตา ก็ดึงดูดให้ต้องเดินลงบันไดลงไปใกล้ๆ
ท่าน้ำ และท่าเรือ .. สิ่งที่สะดุดตาของที่นี่ คือ แพไม้ลักษณะเหมือนเสลี่ยงแบบเปิดสไตล์จีน ที่เรามักจะเห็นทหารจีนแบกหญิงสูงศักดิ์ในราชสำนักจีนไปตามสถานที่ต่างๆ มีที่นั่งพอดีแค่เพียง 2 ที่
... สำหรับนักท่องเที่ยว การล่องแพรอบทะเลสาบเพื่อชมความงามของเมืองเล็กๆแห่งนี้ โดยมีภูเขาสูงสีฟ้าน้ำเงินและภาพบ้านหลังเล็กหลังน้อยเป็นฉากหลัง แต่งแต้มให้สิ่งที่ผ่านสายตานั้นน่าสนใจเป็นพิเศษ นับเป็นความรื่นรมย์ที่สามารถรับบริการได้ แลกเปลี่ยนกับค่าตอบแทนที่ไม่มากจนเกินไป
ชอบแพของที่นี่มากมาย .. รูปร่างแตกต่างจากภาพลักษณ์ของแพในจินตนาการที่เราคุ้นเคย หากแต่เหมือนภาพในหนังจีนโบราณที่โรแมนติก ลองนึกไปว่า หากมีคนรู้ใจนั่งกุมมือชมความสวยงามที่อยู่รอบตัวไปด้วยกัน ขณะที่หนุ่มน้อยหน้าตาดีคอยถ่อแพไปช้าๆ .. จะมีความสุขมากแค่ไหน
เราใช้เวลานั่งทอดสายตาริมน้ำอยู่เนิ่นนาน ... ทะเลสาบที่อยู่ตรงหน้างดงามราวภาพฝัน
.. เมื่อหันส่งสายตาไปอีกด้าน จะมองเห็นส่วนของภัตตาคารอยู่ด้านบน ในขณะที่ฝั่งข้างๆ มองเห็นพื้นที่ที่เป็นสวนและที่พักผ่อนที่เราหมายตาว่าจะไปค้นหาในช่วงเวลาถัดไป
ตอนนี้ถึงเวลาทานอาหารแล้วค่ะ ..
.. นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาเที่ยวที่นี่ และหาโอกาสดื่มด่ำกับการชิมชาคุณภาพดี รวมถึงทานขาหมูหมั่นโถวที่ขึ้นชื่อ แต่นอกจากนี้แล้ว ร้านอาหารยังจัดอาหารยูนนานแบบจัดเต็มมาให้ทาน อร่อยทุกเมนู ชนิดที่ต้องกดไลน์รัวๆเลยค่ะ
ทิวทัศน์ในฝั่งตรงข้ามกับร้านอาหาร และด้านหนึ่งของทะเลสาบ ...
สวยจนต้องบอกกับใจตัวเองว่า ต้องกลับมาเยือน คว้าหมอก หยอกเอินสายลมเย็นนอีกสักครั้งแน่นอน
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา