ซักเครื่องมั๊ย Perlmutter ซูเปอร์คอมพิวเตอร์แรงเร็วที่สุดในโลก
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัท Nvidia และ National Energy Research Scientific Computing Center (NERSC) ได้เปิดตัวเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์เอไอที่มีชื่อว่า Perlmutter ที่ได้รับการบันทึกให้เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพด้านการคำนวณแบบเอไอสูงและรวดเร็วที่สุดในโลก
โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ตั้งชื่อตามซาอูล เพิร์ลมัทเทอร์ (Saul Perlmutter) นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล โดยเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ใช้จีพียูเซิร์ฟเวอร์ NVIDIA A100 Tensor Core จำนวนกว่า 6,000 ตัว ซึ่ง Perlmutter ถูกยกให้เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่คำนวณแบบเอไอ ซึ่งใช้ระบบความแม่นยำแบบผสมผสาน 16 บิทและ 32 บิทได้รวดเร็วที่สุดในโลก
หน้าที่ของซูเปอร์คอมพิวเตอร์เครื่องนี้คือการสร้างแผนที่สามมิติของจักรวาล โดยจะประมวลผลจากข้อมูลภาพถ่ายอวกาศจาก Dark Energy Spectroscopic Instrument (DESI) นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้งานกับการศึกษาทางภูมิอากาศ และช่วยค้นหาแหล่งพลังงานสีเขียวได้ รวมถึงยังมีเป้าหมายเพิ่มเติมในการใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้เพื่อทำความเข้าใจพลังงานมืดที่เป็นความลับของจักรวาลมาอย่างยาวนานอีกด้วย
ซึ่งเทคโนโลยีครั้งนี้เป็นการนำเอาความสามารถในการสร้างแบบจำลองที่แม่นยำ และความสามารถในการคำนวณของเอไอมารวมกันเพื่อเปิดโอกาสในการค้นพบที่ก้าวไกลกว่าให้วงการดาราศาสตร์โลก
Recently, Nvidia Corporation and the National Energy Research Scientific Computing Center (NERSC) launched the world’s fastest supercomputer run by AI, called Perlmutter. This supercomputer is recognized as the fastest system on the planet at processing AI workloads.
The name Perlmutter, is named for a Nobel Prize-awarded astrophysicist Saul Perlmutter, the new supercomputer boasts over 6,000 NVIDIA A100 Tensor Core GPUs and will be tasked with stitching together the largest ever 3D map of the visible universe, among other projects at processing workloads with the 16-bit and 32-bit mixed-precision math used in AI applications.
This supercomputer will help assemble the largest 3D map of the visible universe to date, with the data processed from the Dark Energy Spectroscopic Instrument (DESI). Additionally, it can also work in fields like climate science to discover green energy. In addition to mapping the known universe, the project aims to shed light on dark energy, the mysterious physics behind the accelerating expansion of the universe.
This technology combines highly accurate simulations with AI abilities, for scientists to study and discover more atoms over longer stretches of time in the world’s astronomy.
บทความโดย: ทีม Sertis
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
