18 มิ.ย. 2021 เวลา 11:59 • ประวัติศาสตร์
Ayutthaya Ambassador
to Europe in 15th century
ราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 หรืออยู่ระหว่างช่วงปี ค.ศ. 1401 ถึง ค.ศ. 1500 ซึ่งเป็นยุคแห่งการสำรวจ หรือ ยุคแห่งการค้นพบ (Age of Exploration หรือ Age of Discovery) ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวยุโรปนั้นได้ออกเดินทางไปสำรวจทางทะเลในโลกที่กว้างออกไปจากตัวทวีปยุโรปเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีเพียงชาวยุโรปเพียงเท่านั้นดอกนะเจ้าค่ะที่ออกเดินทางสำรวจไปยังทวีปอื่นๆ เพราะชาวอโยธยาอย่างเราก็เริ่มออกเดินทางเพื่อไปเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศที่ยิ่งใหญ่ในแทบยุโรปกันแล้วเจ้าค่ะ
อย่างเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่วันนี้หญิงจะพาไปเรียนรู้และสนุกกันเจ้าค่ะ ถ้าพี่ท่านพร้อมแล้ว ไปอ่านกันเลย ...........
ภาพเหมือนสมเด็จพระองค์หญิงสร้อยสุมารี จากคริสต์ศตวรรษที่ 15 วาดโดยจิตรกรชาวยุโรป Rosamund Sybil
จากบันทึกรายวันออกพระสุวรรณจักรคำ และจดหมายจากสมเด็จพระเจ้าผู้เป็นใหญ่แห่งทวีปยุโรป ได้กล่าวถึงการนำของสตรีสูงศักดิ์จากดินแดนอันไกลโพ้นทะเล อโยธยาศรีรามเทพนคร พร้อมด้วยคณะราชทูตอันมี ออกพระสุวรรณจักรคำเป็นเอกอัครราชทูตคนสำคัญในการนี้เยือนยุโรปราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 เจ้าค่ะ
โดยในครั้งนั้น ได้มีบันทึกบรรยายถึงสมเด็จพระองค์หญิงสร้อยสุมาลี เจ้าหญิงผู้ที่ถูกขนานพระนามว่า ทรงมีพระปรีชาสามารถอย่างยิ่ง อีกทั้งยังทรงมีพระสิริโฉมงดงามที่สุดดุจดวงสุโขทัยยามเมื่ออรุณรุ่งอีกด้วย ทั้งทรงเป็นตัวแทนพระเจ้ากรุงสยาม และเป็นหนึ่งในราชทูตหญิงคนแรกของสยามที่ทรงเสด็จเยือนยุโรป ดังความตอนหนึ่งที่สมเด็จพระเจ้าผู้เป็นใหญ่แห่งทวีปยุโรปได้ทรงตรัสตอบพระราชสารมายังพระเจ้ากรุงสยามความว่า
"พระราชธิดาของพระองค์นี้ รู้สึกว่าเป็นคนรอบคอบ รู้จักปฏิบัติราชกิจของพระองค์ถี่ถ้วนดีมาก อีกทั้งยังทรงพระสิริโฉมงดงามจนหนุ่มๆในพระราชวังของเรานี้มิอาจละสายตาไปจากเจ้าหญิงได้เลย หากเรามิฉวยโอกาสนี้เพื่อเผยแพร่ความชอบแห่งพระราชธิดาของพระองค์บ้าง ก็จะเป็นการอยุติธรรมไป เพราะพระราชธิดาของพระองค์ได้ปฏิบัติล้วนถูกใจเราทุกอย่าง โดยแต่น้ำคำที่พูดออกมาทีไร แต่ละคำ ๆ ก็ดูน่าเอ็นดูน่าปลื้มใจ และน่าเชื่อถือทุกคำ"
ภาพเหมือนออกพระสุวรรณจักรคำ จากคริสต์ศตวรรษที่ 15 วาดโดยจิตรกรชาวยุโรป Rosamund Sybil
และจากบันทึกรายวันของออกพระสุวรรณจักรคำ ได้กล่าวไว้ความตอนหนึ่งถึงพิธิการต้อนรับของชาวยุโรปหรือฝรั่งกีว่า
"ครั้นเพลาบ่ายประมาณสองโมง พวกเขาจึงเชิญสมเด็จพระองค์หญิง ข้าพเจ้า และราชทูตทั้งมวลลงเรือซึ่งแต่งออกมารับนั้น แลยกพระมรฑปตั้งบนเตียงซึ่งปูพรมนั้น แลข้าพเจ้าทั้งสามนั่งพร้อมพระองค์หญิง ณ ท้ายกุดเตีย แลขุนภูเบนทร์ แลขุนนเรสเสนากร ยืนหน้าพระที่นั่งพระมรฑปพระราชสานนั้น แลครั้นเรือพระราชสารคลายออกไป จึงนายกำปั่นให้ยิงปืน 99 นัด แลโห่ร้องเป็นภาษาฝรั่งกีห้าที แลยิงปืนใหญ่ ณ กำปั่นน้อย 55 นัดโห่ห้าที แลเรือแห่ทั้งปวงจึงโห่ พร้อมกัน 3 ที แล้วยิงปืน ณ ป้อมปากน้ำทั้งสอง ฟากนั้น 33 ครั้นเรือพระราชสารเวียนลงมาพ้นท้ายกำปั่นจึงยิงปืนใหญ่ส่งข้าพเจ้า 99 นัด โห่สามที แลยิงปืน ณ กำปั่นน้อย 55 นัด โห่สามที แลเรือแห่ ทั้งปวงโห่ พร้อมกันสามที แล้วจึงยิงปืน ณ เรือทรงพระราชสารสี่นัด ครั้นเรือทรงพระราชสารพ้นปากน้ำเข้าไปประมาณเส้นหนึ่ง จึงยิงปืนใหญ่ ณ ป้อมทั้งสองฟากนั้นทุกช่องแล้ว แลยิงรับกันไปรอบเมืองทั้งสองฟากนั้น แลยิงระดมไปจนรับพระราชสารแลพวกหม่อมฉันขึ้นตึกสำเร็จแล้วจึงยิงเป็นระยะห่างๆไปจนเพลาพลบค่ำ แลจะนับว่ายิงมากน้อยเท่าใดนั้นมิได้ หากจะว่าเพียงล้านนัดก็คงเห็นว่าจะน้อยไป"
2
เป็นอย่างไรกันบ้างเจ้าค่ะพี่ท่านทุกคนชอบกันหรือไม่เจ้าค่ะกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่หญิงได้ Make ขึ้นมาให้ได้สนุกกัน อิอิ ถ้าเรื่องราวนี้เป็นจริงและหญิงได้มีโอกาสไปเยือนยุโรปที่เดินทางแสนยากเย็นในยุคนั้นและได้เห็นบ้านเมืองอันศิวิไลซ์ของเขาจริงหญิงคงจะตื่นเต้นมากน่าดูเจ้าค่ะ แต่แค่คิดก็สนุกแล้วละ ... อิอิ
1
แล้วพบกันกับ Make Story Series หน้านะเจ้าค่ะ เพราะเรื่องหน้าอาจเป็นเรื่องของคุณ อิอิ
Make Story by Le Siam
Picture by Le Siam
โฆษณา