18 มิ.ย. 2021 เวลา 13:28 • ปรัชญา
อย่าฝืนใครมาทำอะไรเพื่อเรา
แต่เราควรหาวิธีการที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เขามีความสุข
เราเลือกได้ว่าจะทำอะไรในสิ่งที่เราควบคุมได้ เราทำเพื่อเขา เลือกในสิ่งที่เหมาะสม เพื่อให้ เพื่อเสียสละ ให้เขาได้มีความสุขอย่างแท้จริง
ถ้าใจเราคิดถึงเขา รักเขา เราก็อยากทำเพื่อเขา
อยากให้เขาได้ในสิ่งที่ดี ๆ ซึ่งจะนำความสุขมาให้เขา
และนั่นคือความสุขของเรา
เลือกในสิ่งที่เป็นธรรมชาติ เพื่อเขา สิ่งที่เราทำให้นั้นจะยั่งยืน
8
Knowledge Management
ปกติตื่นเช้าไหม ตื่นทันพระอาทิตย์ขึ้นหรือเปล่า
“ไม่หรอก ปกติทำงานดึก ตื่นมาก็สว่างแล้วทุกที”
2
อื่ม ... (คิดในใจ) อยากชวนเขามาดูอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน ทะเลฝั่งนี้จะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า แต่ไม่เห็นพระอาทิตย์ตก
1
อยากจะให้มีเวลาโรแมนติคที่อาจจะช่วยทำให้เราและเขาได้ใช้เวลาที่มีความสุขอยู่ด้วยกัน แล้วเราจะทำอย่างไรดีล่ะ
2
เราควบคุมอะไรได้บ้าง ควบคุมอะไรไม่ได้บ้าง ?
1
ต้องถามเพิ่มเติมว่า ... เราทำเพื่ออะไรล่ะ เพื่อความสุขของเขา หรือเพื่อความสุขของเรา
4
อย่าฝืนใครมาทำอะไรเพื่อเรา
เอาดวงใจของเราใส่ลงไปในดวงใจของเขา แล้วเขาจะรู้ว่าเราคิดกับเขาอย่างไร เราอย่าไปมัวคิดอย่างโน้นอย่างนี้ คิดเอาเองเรื่อยไป ไม่ว่าใจของใคร ก็อยากให้ทุกคนนั้นเข้าใจ และ เห็นใจ
5
แต่เราควรหาวิธีการที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เขามีความสุข
เราเลือกได้ว่าจะทำอะไรในสิ่งที่เราควบคุมได้
การเรียนหนังสือ การจัดประชุมสัมมนา หรือการจัดเวทีเพื่อจัดการความรู้ต่าง ๆ นั้น
คนในห้องเรียน หรือคนที่ร่วมเวทีนั้นเขามีสิทธิเลือกไหม ว่าจะอยู่หรือจะไป
3
เลือกได้สิ เลือกได้ทั้งสองอย่าง
คือ หนึ่ง เลือกว่าจะนั่งอยู่หรือเข้าร่วมกระบวนการจนจบ
หรือ สอง เลือกที่จะไป ไปเข้าห้องน้ำ ไปโน่นไปนี่ แล้วก็ไปเลย
1
ในใจของผู้พูด ในใจของผู้จัดก็ต้องคิดว่า
อย่าไปเลย อยู่กับเราตลอดทั้งวันเถอะ อยู่กับเราตลอดไปเถอะ อยู่ทั้งตัวทั้งใจนะ
2
สบาย ๆ
เราเป็นครู เป็นอาจารย์ นักบริหาร เป็นวิทยากรกระบวนการ เราต้องทำได้ ยิ่งยาก ยิ่งได้ความรู้
1
เรามีทางเลือกมากมายกับสิ่งที่เราจะทำ มากกว่าหนึ่งทางเสมอ
หัวใจหลักก็คือ เราจะต้องคิดเสมอว่า สิ่งที่เราทำนั้น “เราทำเพื่อเขา” ใช้เขาเป็นโจทย์ในการตั้งกระบวนการ ใช้วิถีชีวิต (life style) ของเขา มาเป็นตัวตั้งในการจัดกระบวนการทั้งในและนอกเวที
1
ถ้าเราตั้งใจคิดที่จะให้ เราก็จะสามารถเลือกในสิ่งที่ “เหมาะสม” ให้เขาได้อย่างแท้จริง
เราต้องรักเขา เอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาใจเราไปใส่ใจเขา
1
การเป็นครู เป็นอาจารย์ เป็นนักบริหาร นักจัดการความรู้ วิทยากรกระบวนการ จะต้องมีการวางแผนจัดปัจจัยต่าง ๆ ล่วงหน้าอย่างละเอียดและรอบคอบ ที่สำคัญต้องมีความยืดหยุ่น
2
การที่จะวางแผนได้ดี เราจะต้องมีข้อมูลทั้งหมดหรือมากที่สุดเกี่ยวกับผู้ที่เราจะเข้าไปร่วมทำงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ ประสบการณ์ ลักษณะงานที่ทำ ความสนใจ และสิ่งสำคัญที่สุด เขาต้องการสิ่งใดที่เราจะเข้าไปทำเวที หรือกระบวนการจัดการความรู้นั้นๆ
2
สุนทรียสนทนา
เขาจะนำไปใช้ประโยชน์อะไร (Goal)
ต้องมีการค้นหาข้อมูล พูดคุย ซักถาม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด
2
ดังนั้น กระบวนการของการทำงานเริ่มต้นแล้วนับตั้งแต่ที่ได้รู้ว่าเราจะต้องไปทำอะไร ที่ไหน กับใคร
กระบวนการที่ดีนั้น มิใช่อยู่แค่ในเวที อบรม สัมมนา
1
ในหมายกำหนดการ ทุกย่างก้าวของเรานั้นคือกระบวนการ ทุกย่างก้าวของเราต้องเต็มไปด้วยความหมาย
ต้องคิด ต้องวางแผน ต้องเดินอย่างรอบคอบ ด้วยพื้นฐานแห่งการให้ การเสียสละ
อย่าลืมจุดมุ่งหมายที่สำคัญ คือ เราทำเพื่อเขา เพื่อให้เขาได้สิ่งที่ดีที่สุด
2
การเปลี่ยนแปลงหรือทำอะไรบางอย่างให้เกิดขึ้นนั้น แน่นอน ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเพียงชั่วข้ามคืน ต้องใช้วัน ใช้เวลา บางครั้งต้องใช้หลายวัน หลายเวลา หลายเดือน หลายปี
2
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราได้ใส่ "ใจ” ลงไปอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง แล้วหรือยัง
3
อาทิตย์อัสดง
ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างมาก
เราต้องรู้จักใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้มากที่สุด
จัดการความรู้ผ่านเทคโนโลยีได้เลย โทรศัพท์ก็สามารถใช้ กระตุ้นได้ วางแผนได้ ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเตรียมการในการทำงานนั้นดีหรือไม่
2
เข้าใจถึงแก่นแท้ของงานว่า พระเอกนางเอกในเรื่องนี้ คือเขา
กระตุ้นให้เขาคิด วางแผน ด้วยตัวเขาเอง ให้สำเร็จด้วยการมีส่วนรวมทั้งเขาและเรา
 
เช่น ห้องประชุม โต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ต่าง ๆ ว่าเหมาะสมที่จะใช้กับงานจัดการความรู้ครั้งนี้ไหม ให้เขาได้ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมกันแก้ไข ว่าสิ่งที่จะเดินไปด้วยกันวันนี้ เขาจะก้าวเดินกับเราไปอย่างไร
4
ชิงช้า
ต้องเต็มที่เสมอนะ เพราะสิ่งที่เราทำนี้คือของจริง ไม่ใช่แค่การทดลอง หรือแค่การสอนหนังสือในห้อง หรือเป็นเพียงการจัดการความรู้ในเวที เพราะเราจะต้องจัดการกับทุกสิ่งที่มี ร่วมกับคนที่มีหัวจิตหัวใจจริง ๆ
3
สรุปสุดท้าย ความรัก ดวงอาทิตย์ และการจัดการความรู้นั้นสอดสัมพันธ์กันอย่างไร ก็สรุปง่าย ๆ ได้ความว่า
5
ถ้าปกติเขาไม่ตื่นเช้า แสดงว่าเขาเป็นคนไม่เหมาะสมกับเราหรือเปล่า ?
ไม่ใช่นะ นั่นคือวิถีชีวิตปกติของเขา คนเรามีรูปแบบดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน
ฉะนั้น เราก็อย่าฝืนเขาให้เขาตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกับเรา เพื่อให้เรามีความสุข
4
อ้าว ถ้าอย่างนั้น เราก็ไม่ได้มีเวลาดูพระอาทิตย์ขึ้นกับเขาน่ะสิ
ได้สิ เราเลือกได้ เพราะเราเลือกวิถี เลือกสถานที่ และเราวางแผนได้ ด้วยจิตใจของผู้ให้ ผู้เสียสละ เราต้องเลือกทางเลือกที่เป็นธรรมชาติที่สุดให้กับเขา เพื่อให้เขาได้รับความสุขจากเราอย่างแท้จริง
3
รอยยิ้มที่ไร้การปรุงแต่ง
ทำอย่างไรล่ะ
ยกตัวอย่างเช่น
คราวหน้าเราก็ไปเที่ยวกับเขาที่ฝั่งประจวบฯ สิ ด้านนั้นไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นหรอกนะ แต่ได้เห็นพระอาทิตย์ตก แล้วเราค่อยไปดูพระอาทิตย์ร่วมกับเขา ณ สถานที่นั้น เวลานั้น เป็นสิ่งที่เหมาะสมสำหรับเขา
1
หรือไม่ ถ้าเราเจอใครที่ชอบตื่นเช้า เราค่อยพาเขามาเที่ยวระยอง เราก็จะได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นกับเขา
1
ถ้าใจเราคิดถึงเขา รักเขา เราก็อยากทำเพื่อเขา อยากให้เขาได้ในสิ่งที่ดี ๆ ซึ่งจะนำความสุขมาให้เขา และนั่นคือความสุขของเรา
2
เลือกในสิ่งที่เป็นธรรมชาติ เพื่อเขา สิ่งที่ทำนั้นถึงจะยั่งยืน
1
การทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงานหรือชีวิต เราจะต้องทำด้วยความรัก ทำกับสิ่งที่เรารัก เพื่อความรัก ทำเพื่อให้ เพื่อเสียสละ แล้วสิ่งที่เราทุ่มเททำลงไปนั้นจะนำมาซึ่งความสุขอย่างแท้จริง
3
ภาพสะท้อนแห่งตัวตน
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
จุดเริ่มต้นของความรักคือ การปล่อยให้คนที่เรารักเป็นตัวของตัวเอง อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา มิฉะนั้น หมายความว่าเราเห็นเพียงภาพสะท้อนของตัวเราที่ปรากฎในตัวของเขา แค่นั้นเอง
6
โฆษณา