Blockdit Logo (Mobile)
ยุคใหม่การตลาดของไทย
•
19 มิ.ย. 2021 เวลา 00:30 • ธุรกิจ
ทําไม Coca-Cola ยังคงครองตลาดเครื่องดื่มของโลก
ที่มา  Omid Amidi
สองยักษ์ใหญ่ของผู้นำการตลาดน้ำอัดลม (Carbonate Soft Drink-CSD) คือ Coca-Cola และ Pepsi Inc มีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกของเครื่องดื่มชนิดนี้ ที่มีการดื่มมากกว่า 1,900 ล้านแก้วต่อวัน และ Coca-Cola ก็เป็นหนึ่งในบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลก
1
Coca-Cola Inc เริ่มต้นการเดินทางของธุรกิจด้วยการเปิดร้านขายยา (เคยนำเสนอไว้ในตอนหม้อมหัศจรรย์ที่สร้างรายได้มากกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี) โดยการสินค้ายาราคา 5 เซ็นต์ต่อแก้ว (ประมาณ 1.5 บาท) ในปี 1886 (หรือ พ.ศ. 2429 ตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.5)
4
Mr. John Pemberton ที่เป็นเภสัชกร ได้คิดสูตรน้ำเชื่อมไซรับรสคาราเมล ส่วนผสมประกอบไปด้วย คาเฟอีน น้ำตาลและโคเคนเล็กน้อย (ถ้าเป็นช่วงเวลานี้ในประเทศไทยก็น่าจะผสมกัญชาแทน) จึงเป็นที่มาของการตั้งชื่อว่า Coke ปัจจุบันมีสินค้ามากกว่า 200 แบรนด์ ซึ่งรวมถึงโค้ก แฟนต้าและสไปรท์
อย่างที่ทราบอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มโค้กมีส่วนในการทำลายสุขภาพ (ล่าสุดเจอพี่โด้ปัดออกจากเฟรมถ่ายรูปเพราะไม่ได้สื่อถึงเรื่องการส่งเสริมสุขภาพที่ดี จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตระดับโลก) ในปัจจุบันทิศทางการเติบโตของธุรกิจด้านสุขภาพก็มาแรงมาก
1
ที่มา Insider
บริษัทที่มีอายุถึง 135 ปีแห่งนี้สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดโลกของน้ำอัดลมได้อย่างไรเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ลองมาดูกันว่ามาจากสาเหตุอะไร
ตามรายงานของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) ระบุว่าบริษัทโค้กได้ถูกกดดันให้ต้องปรับเปลี่ยนธุรกิจ จากสาเหตุปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของโซดาลดลงเป็นอย่างมากในสหรัฐอเมริกาที่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของผู้บริโภคน้ำอัดลม ในปี 2021 นี้ โค้กได้เปิดตัว Topo Chico hard seltzer ที่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครั้งแรกของบริษัท บริษัทยังได้ลงทุนเข้าสู่ธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลังสำหรับนักกีฬาที่เน้นการเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย และยังไปทำการเข้าซื้อธุรกิจ Costa ที่เป็นธุรกิจร้านกาแฟในสหราชอาณาจักรด้วย
ในขณะที่เกิดการระบาดครั้งใหญ่จากเชื้อโควิด19 ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการหยุดชะงักของธุรกิจทั่วโลก แต่ในไตรมาสแรกของ 2021 รายได้สุทธิของโค้กกลับเพิ่มขึ้น 5% หรือเพิ่มเป็นมูลค่า 9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (เกือบๆ 280,000 ล้านบาท) James Quincey ซีอีโอของโค้กได้ระบุว่า ความสําเร็จมาจากการปรับปรุงโดยการลดจำนวนรายการสินค้า (Portfolio of Brand) ลงครึ่งหนึ่ง เพื่อตอบสนองต่อผู้บริโภคในรูปแบบใหม่ๆและมีความแตกต่าง และผลลัพธ์ที่ได้ก็ทำให้องค์กรสามารถมีผลประกอบการได้เหมือนก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19
Coca-Cola (KO) Could Post Strong 2021 Returns,  Investopedia
ในขณะเดียวกันบริษัทก็ยังคงกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 และก็ยังมีเรื่องอัตราการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของกรมสรรพากร ในเดือนพฤศจิกายน 2020 ที่ผ่านมา ศาลภาษีสหรัฐระบุว่า Coca-Cola ต้องจ่ายภาษีจํานวน 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 105,000 ล้านบาท) แต่ทางโค้กก็เชื่อมั่นว่าท้ายที่สุดแล้วเขาก็จะชนะกรมสรรพากรในการต่อสู้ทางกฎหมาย
ทําไม Coca-Cola ยังคงครองตลาดเครื่องดื่ม
จากการดำเนินธุรกิจมา 135 ปีของบริษัทยักษ์ใหญ่ขอบโลกรายนี้ ที่พึ่งได้พบการสถานการณ์ที่ผู้บริโภคน้ำอัดลมลดลง (ที่ผ่านมาคาดว่าเติบโตมาโดยตลอด) โดยเฉพาะในตลาดน้ำอัดลมในสหรัฐอเมริกามีมูลค่าถึง 38,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.19ล้านบาท) ตามการรายงานของ IBIS World (ผู้ให้บริการการวิจัยอุตสาหกรรมที่เชื่อถือได้ทั่วโลก)
ด้วยการระบาดใหญ่ในครั้งนี้ทำให้ลูกค้าต้องอยู่ที่บ้าน ส่งผลให้ไม่มีกิจกรรมสันทนาการต่างๆ อย่างเช่น การแข่งขันกีฬา การแสดงคอนเสิร์ต และรวมกึงการจัดกิจกรรมอีกจำนวนมาก ทำให้ยอดขายของน้ำอัดลมลดลงอย่างมาก ที่แม้ว่าโค้กจะได้จำหน่ายร่วมกับ McDonalds และยังจำหน่ายในสนามแข่งกีฬา
Source:  USA Today
แต่ด้วยการที่มีการจำหน่ายในพื้นที่ทั่วโลกกว่า 200 ประเทศ (ขายเกือบทุกประเทศเลยนะเนี่ย) จึงทำให้หลายพื้นที่มียอดขายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โค้กก็ยังมีโครงข่ายการจัดจําหน่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลก มียอดขายเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% จากประเทศที่กำลังพัฒนาและประเทศเศรษฐกิจใหม่รวมถึงมีลูกค้าที่เป็นชนชั้นกลางด้วย
ในปี 2020 โค้กรายงานรายได้จากการดําเนินงานมีมูลค่าสุทธิ 33,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือกว่า 1 ล้านล้านบาท) ซึ่งรายได้ 66% มาจากนอกประเทศสหรัฐอเมริกา
ในปี 2020 กลุ่มดูแลสิ่งแวดล้อม Break Free from Plastic ได้ตรวจสอบและทำความสะอาดขยะพลาสติกทั่วโลก ด้วยความช่วยเหลือจากอาสาสมัคร 15,000 คนใน 55 ประเทศ โดยทำการรวบรวมขยะที่เป็นขวดพลาสติก ฝาถ้วยกาแฟ ขวดแชมพูและหน้ากากอนามัย เป็นระยะเวลา 2 เดือน กลุ่มดังกล่าวได้ระบุว่าบริษัทโค้กที่เป็นยักษ์ใหญ่ของธุรกิจน้ำอัดลมเป็นผู้ก่อมลพิษที่มากที่สุด
1
Source:  Break Free From Plastic
ทำให้ตอนนี้โค้กต้องรีบประกาศว่าบริษัทจะทำการรีไซเคิลขวดและกระป๋องให้ได้ภายในปี 2030 โค้กยังได้ประกาศว่าขวดที่ใช้ทํามาจากวัสดุจากพืช 30% และยังได้ร่วมกันพัฒนาเพื่อผลิตขวดกระดาษ 100% กับ Pabaco ของเดนมาร์ก
นอกจากนี้โค้กยังต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าเป็นธุรกิจที่ที่ทำให้เกิดวิกฤตการการขาดแคลนน้ำในแต่ละภูมิภาคด้วย ด้วยเหตุนี้โค้กจึงได้ทํางานร่วมกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม ในการส่งคืนน้ำ100% ที่ใช้กลับไปสู่ชุมชนในพื้นที่ที่ทำการผลิต
Increased global water stress | GRID-Arendal
ด้วยการพัฒนานวัตกรรมต่างๆของโค้กและการให้ความใส่ใจกับข้อกังวลของหน่วยงานต่างๆ เพื่อจัดการกับคําวิพากษ์วิจารณ์ จึงเป็นสาเหตุที่สำคัญที่ทําให้โค้กยังเป็นผู้นำธุรกิจน้ำอัดลมยักษ์ใหญ่ของโลกต่อไปได้นั่นเอง
อ้างอิง
Why Coca-Cola Still Dominates The Beverage Market - Kanlish News : Karnataka - Latest Kannada Breaking News Today, Headlines, Movies, Fashion, Political, Sports News And Entertainment Channel
Why Coca-Cola Still Dominates The Beverage Market - YouTube
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
https://www.instagram.com/modernizationmarketing/
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
https://www.facebook.com/modernizationmarketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
สนใจการทำตลาดสุขภาพ ติดต่อได้ที่
https://www.instagram.com/eo.therrapeutics/
สนใจคลิ๊ก: https://bit.ly/3wgfBPW
โฆษณา