19 มิ.ย. 2021 เวลา 16:14 • ปรัชญา
มีเรื่องเล่ามาให้แง่คิดที่ดีครับ
มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง ไปฟังเทศน์ แต่สามีลืมปิดมือถือ ขณะที่พระท่านกำลังเทศน์ ปรากฏมือถือของสามีมีเสียงเรียกเข้าและเป็นเสียงดังมาก จึงโดนพระ ตำหนิและคนไปฟังเทศน์ก็หันมามองกันเป็นแถว พอเลิกจากการฟังเทศน์ บางคนก็เข้ามาต่อว่าต่อขาน หาว่าไม่มีมารยาทไม่รู้จักกฎเกณฑ์การมาฟังเทศน์ ทำให้ผู้อื่นไม่มีสมาธิและขณะนั่งรถกลับบ้านก็โดนภรรยาต่อว่าต่อขานอย่างหนัก
ด้วยความกลุ้มอกกลุ้มใจ จึงเข้าไปในบาร์ ขณะดื่มเบียร์ก็กังวลอยู่กับคำต่อว่าต่อขานของคนรอบข้างเมื่อตอนเช้า เลยทำให้วางขวดเบียร์ พลาดตกโต๊ะ เบียร์กระเด็นถูกเสื้อผ้าและรอบๆข้าง ขวดแตกกระจาย เขาเห็นคน 2-3 คนเดินเข้ามา จึงนึกว่าวันนี้เป็นวันซวยจริงๆ คงจะโดนต่อว่าต่อขานอีก แต่ตรงกันข้าม พวกพนักงานที่เดินเข้ามาต่างถามไถ่ว่า เขาเป็นอะไรหรือเปล่า? โดนแก้วบาดไหม พนักงานบางคน ก็เอาผ้ามาเช็ดโต๊ะ บางคนก็เอาไม้กวาดมากวาดเศษเบียร์ออกให้หมด บางคนก็เอาไม้ม็อบมาถู ส่วนตัวผู้จัดการก็ถือเบียร์มาวางให้อีกขวดพร้อมกล่าวว่า "ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ ต่อไปขอให้ระวังขึ้นแล้วกัน "
ตั้งแต่นั้นมา ผู้ชายคนนี้เลิกไปวัดอีกต่อไป แต่หันมาเข้ามาบาร์แทน เพราะเขาได้รับมิตรไมตรี ความเมตตา ความเอื้ออาทรจากคนในบาร์มากกว่าคนเข้าวัด ทั้งที่คนเข้าวัด ควรมีเมตา มีน้ำจิตน้ำใจ และรู้จักการให้อภัย มากกว่าคนในบาร์ แต่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
ฉะนั้นคนเข้าวัด ก็ต้องระวัง อย่ายึดถือกฎเกณฑ์ความถูกต้อง จนเป็นคนแล้งน้ำใจ อย่าลืมว่ามนุษย์เราไม่มีใครที่จะไม่ผิดพลาด ยิ่งความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ก็ไม่ควรเอามาทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ถึงกับต้องต่อว่าต่อขาน กลายเป็นผลักไสให้คนออกไปจากวัด แทนที่เขาจะมาเข้าวัด ฟังเทศน์ ฟังธรรมเพื่อขัดเกลาจิตใจ กับทำให้ผู้อื่นหันหลังให้วัดโดยเด็ดขาด ความถูกต้อง มิใช่อยู่ที่การรักษากฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัด แต่บางครั้งต้องมีการอะลุ่มอะหล่วย และเข้าใจผู้อื่นบ้าง สังคมถึงจะอยู่ได้อย่างมีความสุข
ที่มา เรื่องเล่าชาวสยาม
โฆษณา