20 มิ.ย. 2021 เวลา 08:11 • ความคิดเห็น
คน Gen Y กับการหายไป ของหนังกลางแปลง
หนังกลางแปลง หนึ่งในกิจกรรมสันทนาการ ยามค่ำคืนของคนเจเนอร์เรชั่นวาย เริ่มพบเห็นได้น้อยลงทุกวัน ใครเป็นคนยุคนั้น อาจคิดถึงบรรยากาศหนังกลางแปลง ที่คงทดแทนไม่ได้ด้วย เมเจอร์ Cนีเพล็กซ์ ในอดีตหนังกลางแปลง มักพบได้ตามงานวัด หรืองานสมโภชน์ในท้องถิ่นชลบทเป็นส่วนใหญ่
Cinema Outdoor หรือหนังกลางแปลง ถือเป็นวิวัฒนาการจากศิลปะหลายแขนง เริ่มจากนิยายเขียน มาสู่นิยายเล่า เป็นหนังใบ้ ที่ต้องใช้เสียงคนพากษ์ สู่ภาพยนต์ในยุคปัจจุบัน วิวัฒนาการขั้นต่อไปอาจเป็นหนังซึ่งไม่จำเป็นต้องฉายกลางแปลง หรือแม้แต่ในโรงภาพยนต์ ก่อนจะเป็นหนังสามมิติ หนังสี่ ห้า หก มิติต่อไป ใครจะไปรู้วันหนึ่ง เราอาจได้เสพภาพยนต์ ที่สร้างและถ่ายทำด้วยจินตนาการเราเองก็เป็นได้
1
ย้อนกลับไปที่หนังกลางแปลงอีกครั้ง เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนที่ชื่นชอบการดูหนังมาตั้งแต่ยังเยาว์ พี่ชายของผู้เขียนเล่าให้ฟังว่า เราจะไม่เคยพลาด การชมมหรสพชนิดนี้เลย และทุกครั้ง เราก็เสพมันจนโต้รุ่ง ซึ่งเป็นเรื่องมหัศจรรย์ทีเดียว สำหรับเด็กน้อยสองคน ในขณะที่เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ต่างคอพับไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกแล้ว
ในยุคที่หนังกลางแปลงเฟื่องฟู มีธุระกิจประเภทหนึ่ง ใช้หนังกลางแปลงเป็นจุดดึงดูดความสนใจ ชาวบ้านเรียกขานพวกเขาว่า "หนังขายยา" ยาที่ผู้เขียนพูดถึงส่วนใหญ่จะเป็นยาที่ทุกบ้าน ควรมีติดบ้าน เช่น ยาหม่อง ยาลม ยาธาตุ หรือมีบ้าง ที่แอบแซมผงซักฟอก น้ำยาล้างผลิตภัฑ์ต่าง ๆ ร่วมเข้ามาด้วย
1
แม้บางครั้ง มีกลุ่มหนังขาจรขายยาผีบอก อาหารเสริมที่ยุคนั้น ทางการไม่ได้เข้มงวดอะไรมาขายด้วย แต่ก็ถือเป็นส่วนน้อย ยังมีอีกกลุ่มเป็นหนังขายยาประเภทเครื่องดื่มชูกำลัง เช่น กระทิงโทน เอ็มร้อยหกสิบ กลุ่มนี้ก็พบเห็นได้ค่อนข้างบ่อยเช่นกัน
ตอนที่ผู้เขียนอายุประมาณ 10 ขวบ หรือช่วงที่เรียนอยู่ชั้นประถม' 4 เคยแอบสงสัยว่า หนังขายยาเหล่านี้ มีกำไรจากการฉายจริงเหรอ ? เพราะเท่าที่สังเกต แม้จะมีผู้ชมช่วยซื้อ แต่กำไรจากสินค้าที่นำมาขาย ไม่ได้มากมายอะไรเลย ส่วนที่ลูกค้าซื้อนั้น ก็แค่ตามกำลัง คนละขวดสองขวดเท่านั้น รวม ๆ แล้ว จากสายตาของเด็กชาย ก็ยังมองไม่เห็นกำไรจากอาชีพนี้ ซึ่งก็เคยอยากถามนายหนังอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่เคยถามซักที จวบจนเวลาได้กลืนหนังขายยาไป เหลือไว้แค่ความทรงจำ
หนังกลางแปลงสมัยนั้น ที่ขายดี มีผู้ชมล้น คงเป็นหนังบู๊ หรือที่คนยุคนี้เรียก หนังแอคชั่นน่ะแหละ ดาราแม่เหล็ก ก็อย่าง สรพงษ์ ชาตรี, จักรกฤษณ์ อํามรัตน์, สามารถ พยัคฆ์อรุณ, พันนา ฤทธิไกร แต่ถ้าเป็นหนังตลก ต้องยกให้เฟรนด์ไชส์บ้านผีปอป ชื่อนี้ การันตี ลงโอ่งทุกเวอร์ชั่น
2
ยังมีหนังกลางแปลงอีกประเภท ที่พอจะมองเห็นแสงสว่าง ที่ปลายอุโมงค์ นั่นคือ หนังปิดวิค เป็นธุระกิจฉายหนังที่ใช้ระบอบทุนนิยม หรือก็คือ การเก็บค่าผ่านประตูนั่นเอง มองแล้วอาจคล้าย ๆ กับโรงภาพยนต์ แต่การปิดวิค ด้วยวิธีล้อมผ้าใบ ก็ช่วยได้แค่บางส่วน เพราะจอหนังขนาดใหญ่ การล้อมผ้าใบเป็นเพียงแค่การกั้นอาณาบริเวณเท่านั้น ถามว่าผู้ที่อยู่ด้านนอก ยังมองเห็นไหม ตอบเลยว่า "มาก"
ถึงอย่างไรก็ดี การฉายหนังกลางแปลง ในลักษณะนี้ ก็ยังมีลูกค้ายอมจ่ายเงินซื้อตั๋ว เพื่อเข้าไปด้านใน เพราะด้วยไม่อยากเสียอรรถรสการรับชม และเพื่อเป็นการค้ำจุนวงการนายหนัง ให้สามารถอยู่ต่อ โดยเฉพาะการพาหนังหรือภาพยนต์ที่อยากดู เข้ามาฉายในหมู่บ้านอีก เนื่องจากสันทนาการเหล่านี้ ช่วยเติมเต็มความครึกครื้นของหมู่บ้านได้เป็นอย่างดี
วงการ Cinema Outdoor เริ่มแผ่วลง คงเป็นช่วงที่ม้วนวีดีโอบุกตลาด นักเสพคอนเท็นต์ เอ้ยยย ..!! นักดูหนังเริ่มมีตัวเลือกอื่น ไม่ต้องคอยนายหนัง อย่างไร้จุดหมาย ว่าเมื่อไหร่ จะผ่านมาทางนี้ ร้านเช่าวีดีโอเอง ก็ผุดขึ้นมามากมาย เรียงรายอยู่ตามชุมชนเมือง หนังใหม่ หนังเก่า มีให้เลือกสรรค์กันอย่างจุใจ นี่ยังไม่รวม ตลกคาเฟ่อัดม้วน โดยไร้ท์บียอร์น ไม่ก็ อีวีเอส อ๊ะ ๆ ..!! ขอไม่พูดถึงหนังฝรั่ง ไทย จีน ญี่ปุ่น ที่นำเสนอวิชากำลังภายในนะ
1
ภาพยนต์บรรจุม้วนวีดีโอ ชนิดเช่ารายครั้ง บางเรื่องได้รับความนิยม ชนิดต้องต่อคิวรอหลายวันเลยก็มี บางเรื่องให้ฟรียังไม่เอาก็เยอะ ข้อเสียของหนังดีคือ ถ้าเราเช่ามาในลำดับท้าย ๆ อาจไม่ได้ภาพที่คมชัด (แม้คมชัด ก็ไม่มี HD) ในบางม้วนเลวร้าย ถึงขั้นเบลอจนดูไม่ได้เลยก็แยะ ส่วนเทคนิคการนำไปแช่ช่องฟรีซ ก็ใช้ไม่ได้นะ อันนั้นมันใช้กับเทปคาสเซ็ท
ทุกวงการ มีช่วงเวลารุ่งเรื่อง และร่วงโรยเสมอ ไม่เว้นแม้แต่ร้านเช่าวีดีโอ ครั้งสมัยยุครุ่งเรื่อง ผู้เขียนเคยแอบฝัน อยากเปิดร้านเช่าประเภทนี้เหมือนกัน แต่วันนี้คงต้องคิดใหม่ เพราะสตรีมมิ่งมาแรง ทั้งเน็ตฟลุ๊ค ดิสนีย์พัก ต่างก็ทำตลาดแย่งลูกค้ากันจ้าล่ะหวั่น คิดไปคิดมา หรือจะทำหนังกลางแปลงดี เอามารีเมค ขายความคลาสสิค
1
จากวันนั้น จนวันนี้ ผ่านมากี่ปีไม่บอกหรอก บอกแค่ว่า หนังกลางแปลงคงเหลือแต่ความทรงจำ ให้เราได้หวนรำลึก ความรู้สึกและบรรยากาศเหล่านั้น คงไม่มีวันหวนกลับมา ไม่ว่าจะเป็นธุระกิจไหน หรืออะไรก็แล้วแต่ ที่สถิตย์อยู่บนดาวดวงนี้ ล้วนเปลี่ยนไปตามเข็มนาฬิกาเสมอ
2
กดไลค์หากถูกใจ
แชร์หากเห็นว่ามีประโยชน์
คอมเมนท์เพื่อแนะนำติชม
โฆษณา