เรื่องเล่า วิญญาณในม่านรูด หลังชายวัย 53 ช็อกตายเป็นศพที่ 3
หลังการเสียชีวิตของชายวัย 53 ปี ในโรงแรมม่านรูดย่านสำโรงเหนือ หลายคนที่เคยเจอประสบการณ์เรื่องลี้ลับ ต่างเชื่อว่าห้องเกิดเหตุ ห้องที่ 38 มีวิญญาณที่ยังคงวนเวียนอยู่ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีคนตายแล้ว 2 ศพ และศพนี้เป็นศพที่ 3
จากกรณีมีผู้เสียชีวิตภายในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ หลังจากผู้ตายซึ่งเป็นช่างรับเหมาก่อสร้างวัย 53 ปี ได้นัดหญิงวัย 46 ปี มาพบกันที่ห้อง 38 ในโรงแรมดังกล่าว มีการนั่งดื่มเบียร์กันก่อนชายคนดังกล่าวจะมีอาการหน้ามืด ปวดศีรษะ และเสียชีวิต
ขณะที่เจ้าหน้าที่ซึ่งเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้เล่าถึงเรื่องราวอาถรรพณ์ ห้อง 38 ว่า เมื่อสองปีที่แล้ว เคยมีผู้เสียชีวิตที่ห้องนี้มาแล้ว 2 คน และคนนี้เป็นศพที่ 3 แล้ว โดยวันเกิดเหตุก็ยังเห็นผู้ตายนั่งอยู่ที่เตียงนอน ส่วนพนักงานทำความสะอาดก็เคยพบ หญิงสาวนั่งหวีผมอยู่ในห้อง
ล่าสุด จากการพูดคุยกับ นายสมภพ สนเวช ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ฉบับหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า วันเกิดเหตุตนเองเข้าไปที่โรงแรมเพื่อไปทำข่าวตามปกติ ระหว่างนั้นได้นำโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพของผู้ตายในห้อง 38 จำนวนหลายภาพ แต่หลังจากนำโทรศัพท์มาสำรวจว่าภาพใช้ได้หรือไม่ แต่กลับไม่พบภาพที่บันทึกไว้แต่อย่างใด จึงได้เดินกลับไปที่ห้องเกิดเหตุอีกครั้ง
พร้อมกับกล่าวขอขมาด้วยความเชื่อส่วนตัว โดยบอกกับผู้ตายว่า ที่ถ่ายไปไม่ได้ลบหลู่ แต่เพื่อขอนำภาพเสนอข่าวเท่านั้น จากนั้นจึงได้ถ่ายเป็นรอบที่สองพบว่าภาพทั้งหมดถ่ายได้ตามปกติ ส่วนตัวไม่ได้เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด อาจจะเป็นเพราะโทรศัพท์มีปัญหาก็ได้
ด้าน นายสุภชัย วันเดียยา อายุ 43 ปี ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน สภ.สำโรงเหนือ เล่าถึงอาถรรพณ์ของห้อง 38 ว่า ก่อนหน้านี้ ตนเคยมาเก็บศพแล้วถึง 2 ครั้ง โดยศพนี้เป็นศพที่ 3 และวันนี้ก็พบกับเรื่องไม่น่าเชื่อ ระะหว่างที่ตนเองเข้ามาพ่นยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ แต่ระหว่างที่พ่นยาอยู่นั้น ก็พบกับเงาปริศนาสีดำนั่งอยู่ที่เตียง
จึงสอบถามฝ่ายหญิงว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายนั่งอยู่ตรงนี้ใช่ไหม ฝ่ายหญิงตอบว่าใช่ จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นวิญญาณของผู้ตาย นายสุภชัยยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้พนักงานโรงแรม บอกว่าเคยเห็นผู้หญิงนั่งหวีผมอยู่ในห้องนี้เช่นกัน จึงเชื่อว่าอาจเป็นวิญญาญของคนที่ตายไป ยังวนเวียนไม่ไปไหน ยังไม่มีใครทำพิธีเชิญออกจากที่เกิดเหตุ
ส่วนลูกสาวของผู้ตาย ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า เบื้องต้นนั้นทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต เนื่องจากพ่อมีโรคประจำตัวอยู่แล้วคือโรคความดันต่ำ ส่วนศพขณะนี้อยู่ระหว่างนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิด
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
