25 มิ.ย. 2021 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
“สังหารหมู่นานกิง (The Rape of Nanking)” เหตุการณ์ที่ชาวจีนไม่มีวันลืม
ในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ.1937 (พ.ศ.2480) กองทัพญี่ปุ่นได้กระทำบางอย่าง ที่จะถูกบันทึกว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์โลก
1
นั่นคือการบุกนานกิง และสังหารหมู่ผู้คนจำนวนมาก
เหตุการณ์นี้ต้องย้อนไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม ค.ศ.1937 (พ.ศ.2480) เมื่อญี่ปุ่นได้พยายามบุกนานกิง หลังจากที่ญี่ปุ่นได้สู้กับจีนอย่างดุเดือด
ในเดือนพฤศจิกายนปีนั้น กองทัพญี่ปุ่นได้ยึดเซี่ยงไฮ้ และในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ.1937 (พ.ศ.2480) กองทัพญี่ปุ่นก็ได้รับคำสั่งให้บุกยึดเมืองนานกิง
กองทัพญี่ปุ่นในเวลานั้นมีความพร้อมและมีแสนยานุภาพที่เหนือกว่าฝ่ายจีน ทำให้กองทัพเรือญี่ปุ่นสามารถยึดครองท่าเรือของจีนได้เป็นจำนวนมาก ทำให้สถานการณ์ของจีนที่แย่อยู่แล้ว ยิ่งแย่ลงไปอีก
อีกหกสัปดาห์ต่อมา การสังหารหมู่ที่นานกิงจะได้ก่อเกิด แต่อันที่จริง การสังหารหมู่ที่ญี่ปุ่นทำต่อชาวจีนนั้น เกิดขึ้นก่อนที่กองทัพญี่ปุ่นจะมาถึงนานกิงซะอีก
ระหว่างเดินทัพมานานกิง กองทัพญี่ปุ่นก็ได้กระทำการโหดร้ายทารุณต่อทุกผู้คนที่พบเห็นในระหว่างการเดินทัพ ซึ่งที่เป็นเช่นนี้ ก็เนื่องจากการสนับสนุนของผู้ยังคับบัญชา
นักข่าวรายหนึ่งได้เขียนข่าวว่า กองทัพญี่ปุ่นเดินทัพไปนานกิงอย่างรวดเร็วก็เนื่องจากทหารญี่ปุ่น ต่างรู้กันว่าหากไปถึงนานกิง พวกตนสามารถหยิบฉวยทุกอย่างในเมือง อีกทั้งจะข่มขืนผู้หญิงคนไหนก็ได้ตามที่ตนต้องการ
เมื่อกองทัพญี่ปุ่นใกล้ถึงนานกิง กองทัพจีนซึ่งอยู่ในเมืองนานกิง ก็ตระหนักดีว่าตนคงไม่สามารถสู้หรือต้านทานญี่ปุ่นได้ ผู้บัญชาการจึงสั่งให้ถอยทัพออกจากเมืองในวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ.1937 (พ.ศ.2480) ทิ้งให้ชาวเมืองเผชิญกับกองทัพญี่ปุ่นโดยลำพัง
1
เมื่อกองทัพญี่ปุ่นมาถึงนานกิง ทหารญี่ปุ่นก็ออกลายทันที
1
พวกเขาขุดหลุมและทำการฝังชาวจีน ให้เฉพาะส่วนหัวโผล่พ้นดิน และปล่อยสุนัขล่าเนื้อออกไปกัดและฉีกชาวจีนเป็นชิ้นๆ
2
นอกจากนั้น พวกเขายังนำชาวจีนมาห้อยต่องแต่ง โดยผูกเชือกกับลิ้นและให้ห้อยอยู่อย่างนั้น อีกทั้งยังจับทหารที่ยังเหลืออยู่ในเมือง ก่อนจะต้อนมายังริมน้ำและทำการสังหารด้วยปืนกล
2
ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ต่างถูกล่วงละเมิดทางเพศ และสำหรับตัวเลขของเหยื่อในเหตุการณ์นี้ ก็ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าตลอดเวลาหกสัปดาห์ของการสังหารหมู่นี้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 300,000 คน ถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือตัดอวัยวะอีกกว่า 20,000 คน
จากบันทึกของผู้อยู่ในเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ทหารญี่ปุ่นจะไปเคาะประตูบ้านทีละหลัง และทำการสังหารและล่วงละเมิดทางเพศคนในบ้านนั้น เป็นอย่างนี้ไปทีละหลัง
นอกจากนั้น ยังมีรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น ว่ามีทหารญี่ปุ่นสองนายได้จัดแข่งขัน แข่งกันว่าใครจะฆ่าชาวจีนได้ถึง 100 รายก่อนกัน โดยใช้อาวุธคือดาบซามูไร
นอกจากชีวิตจำนวนมากที่ต้องสูญเสีย ห้างร้านต่างๆ ก็เสียหาย ทหารญี่ปุ่นต่างหยิบฉวยทุกอย่างที่พบเห็น ยึดครองเป็นของตน
แต่ถึงอย่างนั้น “นายพลอิวาเนะ มัตสุอิ (Iwane Matsui)” ทหารระดับสูงในกองทัพญี่ปุ่น ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจและกล่าวว่าไม่ได้เห็นด้วยในการกระทำนี้ แต่สุดท้าย ภายหลัง มัตสุอิก็ถูกตัดสินว่ามีความผิด และถูกตัดสินประหารชีวิต
นายพลอิวาเนะ มัตสุอิ (Iwane Matsui)
แต่จากเหตุการณ์นี้ ก็มีเรื่องที่น่าประทับใจ นั่นคือมีสมาชิกนาซีบางคนได้ให้การช่วยเหลือชาวจีน
“จอห์น ราเบอ (John Rabe)” เป็นนักธุรกิจชาวเยอรมันและเป็นสมาชิกพรรคนาซี
หากแต่ราเบอ ซึ่งเห็นสิ่งที่ญี่ปุ่นทำต่อชาวจีน ก็ทนไม่ได้ และตัดสินใจเสี่ยงชีวิต ช่วยชีวิตชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นขุดหลุมหลบภัยเพื่อใช้เป็นที่ซ่อนตัวของชาวจีน อีกทั้งยังส่งเสบียงให้ชาวจีน และหยุดยั้งไม่ให้ทหารญี่ปุ่นข่มขืนหญิงชาวจีน
1
จอห์น ราเบอ (John Rabe)
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่ากล่าวถึง นั่นคือการฆ่าตัวตายของ “ไอริส จาง (Iris Chang)”
จางได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเหตุการณ์สังหารหมู่ที่นานกิงและออกวางจำหน่ายในปีค.ศ.1991 (พ.ศ.2534) โดยเธอเป็นหลานของชาวจีนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้
ภายหลังจากออกหนังสือ จางก็หดหู่และมีอาการทางจิต ก่อนที่จะฆ่าตัวตายในปีค.ศ.2004 (พ.ศ.2547)
ไอริส จาง (Iris Chang)
เหตุการณ์การสังหารหมู่ที่นานกิง เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่โหดร้ายที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์โลก
เหตุการณ์นี้ผ่านมานานกว่า 80 ปีแล้ว แต่เชื่อว่าไม่มีใครลืมเหตุการณ์นี้ลง โดยเฉพาะกับชาวจีนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้
โฆษณา