# สวนสยาม คือทะเลกรุงเทพ
แต่สวนสยอง ต้องโควิด "เดลต้า" #
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยุโรปออกมาเตือน โควิด “สายพันธุ์เดลต้า” กำลังคุกคามหนักทั่วยุโรป แม้ประชาชนจะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม ส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส เยอรมัน โปรตุเกส และสเปน ซึ่งในเดือนที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรก็มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า โดยพบว่าเป็นสายพันธุ์ “เดลต้า” ถึงร้อยละ 98 ของผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด!
หากหวังพึ่งวัคซีนอย่างเดียว บวกกับมาตรการที่หละหลวม คงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อได้ ทางสาธารณสุขอังกฤษได้เผยว่า ถึงแม้ผู้ที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca ครบ 2 โดสแล้ว ประสิทธิภาพของวัคซีนจะป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้เพียงร้อยละ 60 เท่านั้น ซึ่งเป็นความแกร่งของเชื้อกลายพันธุ์ที่นักวิทยาศาสตร์ระดับโลกต่างเฝ้าดูกันอย่างใกล้ชิดทีเดียว
อย่างที่เราทราบกัน ชื่อเสียงของไวรัสกลายพันธุ์ “เดลต้า” มีคุณสมบัติการแพร่กระจายเร็วและรุนแรงกว่าสายพันธุ์ “อัลฟ่า" เพียงเราเดินสวนกับผู้ติดเชื้อไม่กี่วินาที ก็สามารถสูดไวรัสที่เกาะอยู่ในอากาศบริเวณนั้นกลับบ้านได้แล้ว
ว่าแต่รัฐบาลในประเทศอื่นๆ เขามีวิธีรับมือกับไวรัสสุดโหดนี้อย่างไรบ้าง?
ข้ามทะเลมาดูวิธีจัดการของประเทศ “อิสราเอล” ที่พอรู้แล้วต้องปรบมือให้ ไม่กี่เดือนนี้เองอิสราเอลสยบโควิดได้เกือบสำเร็จแล้ว แต่พอเจอสายพันธุ์เดลต้านี้ระบาดหนัก ยอดผู้ติดเชื้อก็กลับมาพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้ง!
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล Naftali Bennett จึงจัดตั้ง "คณะรัฐมนตรีโคโรน่า" อย่างไม่รีรอ เพื่อถอนรากถอนโคนสายพันธุ์เดลต้านี้ให้หมดไปจากประเทศ และออกนโยบายสาธารณสุขให้พลเมืองที่ฉีดวัคซีนไปแล้วที่มีแนวโน้มได้รับความเสี่ยงให้แยกตัว (Isolation) เป็นเวลา 14 วัน อีกทั้งยังเรียกเก็บ “ค่าปรับ” จำนวนไม่น้อยแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนกฏการเดินทางของประเทศ โดยทุกมาตรการที่อิสราเอลออกมานั้น นับว่าเด็ดขาดและไม่รอช้าที่จะสู้กับศึกไวรัสกลายพันธุ์นี้แต่อย่างใด
วันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา Soumya Swaminathan หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเตือนในที่ประชุมว่า “เดลต้าจะยึดครองโลก” ซึ่งดูแล้ว “เดลต้า” ก็ไม่แคล้วว่าจะเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดรุนแรงในบ้านเราเช่นเดียวกับประเทศอื่น
แล้วไทยล่ะพร้อมรับมือหรือยัง...?
ไม่มีคำว่า “สายไป” เสมอ หากเราตื่นตัวและทบทวนแผนการจัดการของบ้านเมืองให้ดี และมุ่งหน้าเดินบน “ยุทธศาสตร์ลดยอดติดเชื้อให้เหลือ 0” จนกว่าเราจะถึงฝั่ง
แล้วเราจะหยุดภัยคุกคามจากไวรัสนี้ให้สำเร็จได้อย่างไรบ้าง?
(1) ออกคำสั่ง “ล็อกดาวน์อย่างเข้มข้น” ทันที ทั้งในกรุงเทพฯและจังหวัดที่มีการระบาดหนัก เพื่อเป็นการหยุดการแพร่เชื้อเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน ประชาชนทุกคนจะต้องอยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นเมื่อต้องออกไปซื้ออาหารและของใช้จำเป็นอื่นๆ ไปรับการรักษาพยาบาล หรือทำงานที่จำเป็นต่อการคงอยู่ของสังคม รวมถึงสั่งปิดสถานที่เสี่ยงทั้งหมด เช่น ห้างสรรพสินค้า สำนักงาน ฯลฯ การล็อกดาวน์ชั่วคราวแบบจริงจัง จะช่วยลดยอดผู้ติดเชื้อจากวันละ 5,000 รายเป็นวันละไม่ถึงร้อยในไม่กี่สัปดาห์
(2) ภาครัฐ เอกชน และอุตสาหกรรม จับมือให้ความช่วยเหลือ “ค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐาน” โดยตรงแก่ประชาชน เช่น อาหาร ยารักษาโรค ของใช้จำเป็น และเว้นค่าน้ำ-ไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต ฯลฯ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ เช่นเดียวกับที่รัฐบาลในหลายประเทศทำ รวมทั้งออกมาตรการช่วยเหลือธุรกิจและผู้ประกอบการ พักชำระหนี้และค่าเช่าในช่วงล็อกดาวน์ชั่วคราวนี้
(3) ผลักดันให้ “โควิดแพร่ทางอากาศ” (Covid is Airborne) เป็นวาระแห่งชาติ ให้ความรู้ที่ถูกต้องต่อสาธารณะเรื่องการแพร่เชื้อโควิดผ่านละอองลอย (Aerosol) รวมทั้งแจกหน้ากาก N95 ให้กับประชาชนในทุกจังหวัดอย่างต่อเนื่อง สอนวิธีปฏิบัติตนเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่สาธารณะและสถานที่เสี่ยงต่างๆ รวมถึงวิธีดูแลสมาชิกภายในบ้านที่ติดเชื้อและวิธีการอยู่ร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อประชาชนจะได้นำความรู้เหล่านี้ไปใช้ตลอดจนหลังเปิดประเทศ
(4) เผยความรู้เรื่อง “การระบายอากาศ” ให้กับอาคารและสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ เช่น โรงเรียน โรงงาน ร้านอาหาร ฟิตเนส ฯลฯ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อขณะเปิดทำการ โดยวิธีที่ทำได้ง่ายคือ เปิดประตู หน้าต่าง และใช้พัดลมตั้งพื้นเปิดระบายให้อากาศหมุนเวียน เลือกใช้ตัวกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้มีการวัดผลได้จริง ถ้าจะให้ผลดีที่สุดคือ ใช้เครื่องวัดค่าคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เพื่อเช็คและรักษาคุณภาพอากาศในสถานที่ต่างๆให้อยู่ระดับที่ปลอดภัย โดยระดับค่า CO2 ที่แสดงผลจะใช้แทนความเสี่ยงในการกระจายเชื้อโควิดนั่นเอง
นี่คือมาตรการที่จะช่วยประคองชีวิตประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤตระดับชาตินี้ไปได้
มารวมพลังกันตัดวงจรการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยให้เร็วที่สุดกันนะคะ เพื่อชีวิตของเราจะได้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ติดตาม ZERO COVID THAILAND ได้ที่
Twitter : twitter.com/zerocovidthai
Website : www.zerocovidthai.org/
Facebook : www.facebook.com/zerocovidthailand
Blockdit : www.blockdit.com/zerocovidthai
อ้างอิง:
Effectiveness of COVID-19 vaccines against the B.1.617.2 variant (Bernal et al, 2021)
Delta variant begins to spread, threatening EU’s Covid progress: Strain that swept UK appeared in clusters across Germany, France and Spain
“NO MORE THAN MERE SECONDS”
The Delta variant is serious. Here’s why it's on the rise.
‘Increased transmissibility’: WHO warns that Delta strain is taking over the globe
Vaccinated Israelis may need to quarantine because of Delta variant
ชี้โควิด'เดลต้า'ระบาดแน่ ลั่นห้ามย้ายแรงงานเด็ดขาด
เผยแพร่ความรู้ หยุดแพร่ไวรัส
#zerocovidthailand #ซีโร่โควิดไทยแลนด์ #ประเทศไทยไร้โควิด #COVID19 #ฝ่าวิกฤตโควิด19
- 130
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
