3 ก.ค. 2021 เวลา 16:58 • ความคิดเห็น
เรื่องรับศีล หรือ ถือศีล รับเมื่อไหร่ก็ผิดเมื่อนั้น พระเห็นเวลาพระท่านให้เสร็จเรียบร้อยก็ ได้ยินเสียงคนเอาเรื่องคนนั้นคนนี้ มานินทา ติเตียน มันก็เป็นวจีกรรมแล้ว สร้างกรรมให้กับตัวเอง เหมือนตัวเองดีแล้ว เวลาไปงานที่มีพระให้ศีลก็ขอรับมาแค่ ห้านาทีสิบนาที อยู่นิ่งๆ ไม่คุยกับใครชั่วขณะ เราไม่ได้รับศีลมายึดถือ แต่ระมัดระวัง เรื่องการใช้กายวาจาใจ ระมัดระมัดระวังอารมณ์ที่ใจตัวเอง อารมณ์พอใจไม่พอใจไม่ให้เกิดขึ้น ไม่ไปเห็นคนนั้นคนนี้ผิด ไม่ไปติเตียนนินทาใคร ส่วนเรื่องของมึนเมา เราก็กินยาธาตุ มีส่วนผสมของมึนเมาอยู่ บุหรี่ก็สูบ แต่พยายามหลีกเลี่ยง ไม่ให้ไปรบกวนใคร ส่วนเหล้าก็เคยเมา หายเมาก็มานั่งปฏิบัติ ทำจิตไม่ได้เลย ไปเป็นอาทิตย์ ที่ไปถือเรื่องศีลห้า เพราะถือ เมื่อไหร่ก็ผิดศีลเมื่อนั่น ตามที่เค้าว่า ด้วยชีวิตยังเป็นเยี่ยงสามัญ นุ่งกางเกงอยู่ ที่พยายามทำก็คือ ทำใจระมัดระวังไม่ให้ไปเบียดเบียนใคร ไม่ไปจับผิดใคร แต่จับผิดตัวเอง ผิดพลาดไปก็ พยายามดึงสติกลับมาเตือนตนเอง ว่าเราเผลอสติไปสร้างกรรมให้ตัวเองแล้วนะ ทำได้แค่นี้เอง
ส่วนเรื่องปฎิบัติก็พยายามทำเป็นปกติ ได้ทบทวนตัวเอง ว่าวันนี้เราใช้กายวาจาใจ ทำตามอารมณ์อะไรบ้าง ก็พยายามทำว่า เราผิดพลาดอะไรตรงไหน ในการไม่ให้จิตเรามีกรรม คล้องกรรมเกิดขึ้น ก็ระมัดระวังที่ตัวเอง ทบทวนตัวเอง เห็นว่าสิ่งไหนไม่ดี จะเกิดเป็นเวรกรรม ก็หลีกเลี่ยงไม่ทำ เห็นว่าสิ่งไหนดี เช่น สร้างบุญกุศลสวดมนต์ภาวนาเป็นเรื่องราวดีๆก็พยายามกระทำ เพื่อคลี่คลายสิ่งที่เป็นกรรมของตัวเอง ออกไปจากจิตใจของตัวเอง ทำได้แค่คือดูแลใจของตัวเองอารมณ์ตัวเอง ลดละอารมณ์ที่จะไปสร้างเวรกรรม หยุดที่ตัวเรา ทำได้แค่นี่เอง
โฆษณา