6 ก.ค. 2021 เวลา 13:53 • กีฬา
#สิบปีไม่สายที่จะล้างแค้นกัน
#ยูโรรำลึก
โดย มิสมาต้า
สเปน vs อิตาลี ณ ยูฟ่า ยูโร​เปียน ฟุตบอล แชมเปี้ยนชิพ
ทีมชาติอิตาลี เป็นแชมป์​ฟุตบอลโลก 4 สมัยชาติแรกของยุโรป
ทีมชาติสเปน เป็นชาติเดียวในโลกที่เป็นแชมป์ระดับเมเจอร์ 3 รายการติดต่อกัน
แต่ในฟุตบอลยูโร พวกเขามีรักในรอยแค้นระหว่างกันอยู่เห็นๆ เมื่อมองย้อนไปที่ปี 1988 อิตาลีที่มี โรแบร์​โต มันชินี กับ จิอันลูกา วิอัลลี เป็นสองหัวหอก ลงแข่งกับสเปนที่ หลุยส์ เอ็นริเก ยังไม่ได้ติดทีมชาติชุดใหญ่ แล้วก็เป็น วิอัลลี เป็นผู้ยิงประตูชัยส่งสเปนตกรอบแบ่งกลุ่มในยูโร​ครั้งนั้น
ปัจจุบัน​ วิอัลลี ได้เข้ามาเป็นผู่ช่วยโค้ชให้ โรแบร์​โต​ มัน​ชิ​นี เพื่อนรัก จนพาทีมทะลุเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ
หลุยส์​ เอ็นริเก ได้ออกมาให้​สัมภาษณ์​แบบโยนภาระความกดดันไปยังอิตาลีว่า ถ้าสเปนของเขาแพ้อิตาลี เขาจะเชียร์ให้อิตาลีชนะในเกมนัดชิง
สถิติระหว่างสองชาติในฟุตบอล​ยูโร​ล้วนมีความน่าสนใจ ตามรายละเอียด​ดังต่อไปนี้
ยูโร 1980 อิตาลีเจ้าภาพที่เท้าบอดเพราะขาด เปาโล รอสซี ทำได้แค่เสมอสเปน 0-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม สเปนตกรอบในฐานะบ๊วย อิตาลีเข้ารอบรองชนะเลิศ​
ยูโร 1988 อิตาลีชนะสเปน 1-0 จากประตูชัย​ของวิอัลลี สเปนตกรอบแบ่งกลุ่ม​อีกครั้ง ส่วนอิตาลีเข้ารอบรองชนะเลิศ
ยูโร 2008 สเปนที่กำลังอยู่ในช่วงต้นของยุคทองดวลจุดโทษชนะอิตาลีที่มาในฐานะแชมป์โลก 4-2 ในรอบควอเตอร์​ไฟนอล​ หลังจากเสมอกันในเวลา 120 นาที 0-0 หลังจากนั้นสเปนเดินทางไปไกลจนได้เป็นแชมป์
ยูโร 2012 ทั้งคู่เสมอกัน 0-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนแชมป์​โลกหมาดๆ จะไปสอนบอลอิตาลีในรอบชิงชนะเลิศ​ 4-0 จนกลายเป็นรอบชิงที่ขาดลอยที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสต​ร์ของ​วงการ​ฟุตบอล
2
ยูโร 2016 อิตาลี​กลับมาถอนแค้นได้บ้างในรอบควอเตอร์​ไฟนอล​ เมื่อเอาชนะไป 2-0
1
::
ในเกมรอบชิงชนะเลิศ​ ปี 2012 อิตาลีเข้ามาในรอบชิงด้วยสภาพที่นักวิจารณ์​บอกว่าเหมือนรถถังที่กระสุนหมดคลัง เพราะนักเตะหลายคนขาดความสมบูรณ์​จนดูเป็นรองตั้งแต่เริ่มแข่ง
1
อันเดรีย ปิร์โล อาจจะเก่งกาจระดับโลก แต่สเปนมี Trio Midfielders​ ที่ดีที่สุดในประวัติศาสต​ร์ของ​ฟุตบอลยุคศตวรรษ​ที่ 21 ที่ยกขบวนการ​มาจากบาร์เซโลน่า​
จนกระทั่ง​ จิออร์จิโอ คิเอลลินี ต้องออกจากเกมตั้งแต่นาทีที่ 21 แฟนบอลอิตาลี​จึงเริ่มวิตกกังวลกับชะตากรรม​ของทีมอย่างหนัก พวกเขาดูหมดทางสู้ในทางทฤษฎี​ ซึ่งสเปนก็ปฏิบัติ​ให้เห็นจริงด้วยการยิงขึ้นนำสองประตูเมื่อปราการเหล็กของอิตาลีมีจุดอ่อน
3
แล้วตามมาด้วย อันโตนิโอ คาสซาโน ที่ฝืนร่างกายไม่ไหวในต้นครึ่งหลัง ซึ่ง อันโตนิโอ ดิ นาตาเล ที่ลงมาแทนก็เกิดบาดเจ็บหลังเปลี่ยนตัวครบโควตา​ 3 คนแล้ว
อิตาลีที่ถูกขึ้นนำตั้งแต่ครึ่งแรก 2-0 จึงต้องลงเล่นในสภาพ 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 60 เป็นต้นไป
แล้วเมื่อพวกเขาถูกรัวยิงเป็น 3-0 กับ 4-0 ในช่วงท้ายเกม จนเกมนี้ถูกเล่าขานว่านี่คือการฆาตกรรม​ที่โหดที่สุดในเกมนัดชิงชนะเลิศ​
ซึ่งความป่าเถื่อนของเกมนี้มีความสยองยิ่งกว่ายุคที่ เอซี มิลาน​ ลงมือฆาตกรรม​ บาร์เซโลน่า​ 4-0 ในเกมนัดชิงฟุตบอลยูฟ่า ​แชมเปี้ยนส์ ลีก ใน​ยุค90sเสียอีก
อิเกร์ กาซิยาส กัปตันทีมชาติสเปนยังทนดูเพื่อนร่วมอาชีพทนทุกข์ทรมาน​ไม่ไหว จนเขาต้องตะโกนบอกผู้ตัดสิน​ เปรโด โปรเอนซา ให้ยุติการทดเวลาบาดเจ็บลง อันเป็นการแสดงความเคารพต่อคู่แข่งของเขาที่ไม่อยู่ในสภาพที่จะสู้ได้อีกแล้ว
1
ขุนพลอัซซูรี่ใน​สภาพเอาท์คลาสหมดสภาพแชมป์โลก​สี่สมัย พวกเขาแพ้ตั้งแต่ก่อนแข่ง และ สเปนที่อยู่ในช่วงยุคทองดีเกินไปสำหรับการก่อปาฏิหาริย์ให้สำเร็จ​
::
สำหรับในค่ำคืนนี้ ทั้งสองทีมผ่านเกมหนักมาในสองรอบก่อนหน้า แต่คราวนี้เป็นสเปนที่กำลังมีสภาพเป็นกระทิงเหนื่อยหลังผ่านเกม 120 นาทีมาสองครั้งติดต่อกัน
พวกเขาใช้ปาฏิหาริย์ทั้งในเกมที่​เอาชนะโครเอเชีย​ และ ดวลจุดโทษ​ชนะสวิตเซอร์แลนด์​ รวมทั้งใช้ร่างกายอย่างหนักหน่วงมากกว่าจะผ่านมาถึงรอบนี้ได้
ในขณะที่​อิตาลีผ่านทั้งห้าเกมก่อนหน้ามาได้สบายกว่า พวกเขาจึงพร้อมลงสนามด้วยสภาพที่พร้อมกว่า ทั้งความฟิตของนักเตะ และ รูปเกมที่มีความเสถียร​มากกว่า
แต่เมื่อฟุตบอล​ที่ถูกขนานนิยามว่าเป็นลูกกลมๆ ที่มีลมอยู่ข้างใน มักจะเกิดสิ่งที่เป็นไปได้ยากให้เป็นไปได้เสมอ
เอ็นริเกที่ออกตัวว่าเป็นรองอาจจะแอบคิดก่อปาฏิหาริย์​ขึ้นมาอีกครั้งก็ได้ ในขณะที่มันชินีเองก็มั่นใจว่าสไตล์ "คาเตมันโช่" ของตัวเองจะโยนความแค้นนั้นคืนกลับไปให้สเปน เหมือนกับสมัยที่เขาทำได้เมื่อปี 1988
รวมทั้ง จิออร์จิโอ คิเอลลีนี กับ ลีโอนาโด โบนุชชี สองนักเตะที่หลงเหลือ​มาจากชุดปี 2012 ก็พร้อมที่จะทำทุกสิ่งอย่างเพื่อล้างอายให้เพื่อนเก่าของเขาทุกคน
1
#PlayNowThailand #khelnow #football #footballgames #footballhighlights #footballplayers #manchesterunited #manchester #แมนยู #Euro2020
1
โฆษณา