7 ก.ค. 2021 เวลา 12:03 • สัตว์เลี้ยง
อี๋ !!! เป็นขี้เรื้อนหรอ อย่ามาใกล้ !!!!!! เคยได้ยินคำเหล่านี้ไหม
วันนี้จะมาชี้แจ้งแถลงไขให้ฟัง เพราะคนส่วนใหญ่เห็นหมาเป็นโรคผิวหนังก็พากันเข้าใจว่าเป็นขี้เรื้อนกันหมด
generalized demodecosis [แหล่งอ้างอิงรูปภาพ : https://todaysveterinarypractice.com/dermatology-detailsupdates-management-canine-demodicosis/]
สวัสดีค่ะ วันนี้มาในหัวข้อที่เด็กๆของหลายๆคน อาจจะเคยเจอ ขี้เรื้อนในสุนัข
หลายๆคนอาจจะเคยเข้าใจผิดว่า เป็นขี้เรื้อนแล้วจะติด อย่าไปไกลหมาตัวนั้นนะ เป็นขี้เรื้อน
อี๋ น่ารังเกียจ บลาๆ คำถามคือ เขารู้ได้ยังไงว่า หมาตัวนั้นเป็นขี้เรื้อน คำถามต่อมา แล้วเป็นจริงๆหรอ แล้วติดคนได้จริงๆหรอ ที่น้องเป็น น้องอาจจะเป็นอย่างอื่นก็ได้นะ โรคผิวหนังมีเป็นสิบเป็นร้อย อย่าเข้าใจผิด แล้วทำท่าทางรังเกียจ วันนี้ เราจะมาเล่าให้ฟังค่ะว่า
ขี้เรื้อนในสุนัข แบ่งออกได้ 2 แบบ คือ “ขี้เรื้อนแห้ง ,ขี้เรื้อนเปียก”
แพะรับบาป 1 ขี้เรื้อนเปียก (Demodecosis) เป็นขี้เรื้อน ที่เกิดจากไรขี้เรื้อนรูขุมขน ไม่ติดผ่านทางการสัมผัส สามารถส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่นได้ และอาจเกิดจาก ปัญหาโน้มนำอย่างอื่น เช่น ภูมิคุ้มกัน ความผิดปกติของผิวหนัง โดยขี้เรื้อนเปียก จะแบ่ง ออกได้อีกหลายตัว นะ
1
สรุป คือ ขี้เรื้อนเปียก ไม่ติดคน ไม่ติดหมา ไม่ติดแมว
ส่วนใหญ่ การติดเชื้อขี้เรื้อนเปียกจะน่ากลัวในกรณีที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย เลยมีวิการที่ค่อนข้างน่ากลัว และอาจจะมีความเยิ้มมันตามผิวหนัง หรือมีการติดเชื้ออย่างอื่นร่วมด้วยเช่น ยีสต์ ซึ่งถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ขี้เรื้อนเปียก ก็จะถูกกดไว้ และกลับมาขนสวยเหมือนเดิม
 
แต่!!!!!! ไม่หายไปนะ เพราะอย่างที่เคยบอก ตัวขี้เรื้อนเปียก ส่งผ่านทางพันธุกรรมได้ฉะนั้นคือ การกินยาเพื่อควบคุม เจ้าตัวนี้ไว้ ก็ควรทำทุกเดือน อย่างตอนนี้ก็มียาที่ช่วยคุม ขี้เรื้อนเปียก ออกมาในท้องตลาด ทั้งในรูปแบบ หยด หรือกิน
ขี้เรื้อนเปียกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้ารู้จักจัดการ ถ้าช่วงเดือนไหนที่ไม่ได้ทานยา แล้วภูมิตก อาจทำให้ขี้เรื้อนเปียกกลับมาแข็งแรงพร้อมทำให้ขนหมาเราร่วง อีกก็เป็นได้้้้้
1
ขี้เรื้อนเปียก [แหล่งอ้างอิงรูปภาพ : https://todaysveterinarypractice.com/dermatology-detailsupdates-management-canine-demodicosis/]
มาดูอาชญกรที่แท้จริงกันค่ะ เขาคือ แท่นทะดาแด่นแทนแท่น แท้นแทนแท้นนนนนน
ขี้เรื้อนแห้ง (Scabies ) ไอ้เจ้าตัวขี้เรื้อนแห้งนี่แหละ ที่เป็นคนร้ายที่แท้จริง เพราะถ้าสุนัขเป็น แล้วเราไปจับ อาจทำให้ติดจากเด็กๆเราได้ โดยขี้เรื้อนแห้งนี้ สามารถส่งผ่านจากหมาสู่หมา หมาสู่คนได้ และทำให้เกิดการขนร่วงอย่างหนัก คันคะเยอตลอดแทบจะ 24 ชั่วโมง กินๆอยู่สักพักคัน เดินๆอยู่สักพักเกา นอนเล่นก็เกาอีก
มาเหลาแป้บนึงนะ ส่วนตัวไม่ได้เป็นหมอคนอ่ะเลยไม่รู้ว่า เจอคนเป็น scabies จากการติดจากสุนัขเยอะแค่ไหน แต่จากการอ่านรายงาน จะเป็นในตปท ซะมากกว่า ถัามีการการล้างมือ อาบน้ำ ให้สะอาดไม่หมักหมม อาจจะช่วยลดปัจจัยการเกิดได้มากขึ้น ถ้ามีคุณหมอท่านไหน แวะมาอ่านบล็อคแล้วเคยเจอ scabies ในคน ในบ้านเรามาแชร์ให้ฟังหน่อยนะคะ
Scabies in dog [แหล่งอ้างอิงรูปภาพ : http://authenticredwingsstore.com/scabies-treatment-and-scabies-rash/]
สำหรับการตรวจวินิจฉัย
ทั้งสองอย่าง พื้นฐานจะเริ่มจาก การขูดตรวจ skin scraping โดยการตรวจขี้เรื้อนเปียก จะต้องมีเลือดซิปนิดหน่อย (deep skin scraping )เนื่องจากมันอยู่ในรูขุมขน ในขณะที่ ขี้เรื้อนแห้ง อยู่บนผิว (superficial) ในตปท มีการตรวจที่ยิบย่อยลงไปอีก เช่นตรวจเลือด เช็คค่าเลือด ค่าเม็ดเลือดขาวต่างๆ
การรักษา
มีหลายรูปแบบ หรือ เป็นแบบบูรณาการณ์ คือ ร่วมกันทั้งหมด
มีตั้งแต่ dip ,topical , ทานยา
แชมพูรักษา ไปจนสเปรย์ยา หรือถ้าเป็นทั้งตัว ก็ ยากิน (ยาลดคัน,ยาฆ่าเชื้อ,ยาบำรุงขน)โดย + ยาที่กำจัดขี้เรื้อนด้วย ที่ต้องก้นเดือนละครั้ง หรือ หยด หรือแล้วแต่คุณหมอจัดการ
การรักษาไม่ยาก ยกเว้นแต่มี condition เพิ่มเติม ที่เป็นเพิ่มขึ้นมาด้วย
ทีนี้ ทราบแล้วน้า ว่าขี้เรื้อนมี 2 แบบ ไม่ได้ติดคนทั้งหมด แล้วก็ไอ้ที่ติดคน ก็ไม่ได้ติดง่ายขนาดว่าแตะแล้วก็เป็นเลย อาจต้องมีเป็นแผล หรือไม่ค่อยได้ล้างมือ ทำความสะอาด ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ติดได้มากขึ้น อย่าพึ่งไปตัดสินหมาถ้าคุณไม่รู้ หรือถ้าไม่รู้จริงๆก็ไม่ต้องไปจับแล้ว โพล่งคำที่ไม่น่ารักออกมาให้ใครได้ยินอีกโอเคนะ ;)
โฆษณา