21 ก.ค. 2021 เวลา 13:00 • ธุรกิจ
เปิดบริษัทกับเพื่อนแบ่งเงินกันอย่างไร
ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย มีหลายธุรกิจที่เกิดจากเปิดบริษัทร่วมกันกับเพื่อนๆ
แต่การทำธุรกิจร่วมกันกับเพื่อนไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะในอนาคตไม่มีอะไรการันตีว่าเราจะผิดใจกันกับเพื่อนหรือเปล่า
เปิดบริษัทกับเพื่อนแบ่งเงินกันอย่างไร
เอาล่ะ…ถ้าวันนี้เราอยากทำธุรกิจร่วมกับเพื่อน สิ่งนึงที่อยากให้เข้าใจกันไว้ก่อน ก็คือ เรื่องการแบ่งส่วนแบ่งว่าเรามีวิธีการแบ่งส่วนแบ่งได้อย่างไรบ้าง จะได้ตกลงกันไว้แต่เนิ่นๆ ป้องกันการผิดใจกันในอนาคต
1. แบ่งปันผลตามสัดส่วนหุ้นที่ลง
แน่นอนว่าทุกๆ ธุรกิจต้องการเงินทุน เงินทุนสำหรับการก่อตั้งบริษัทเริ่มแรกจะมาจากส่วนที่เราและเพื่อนๆ ลงเงินร่วมกัน ดังนั้น พวกเราจึงมีฐานะเป็น “ผู้ถือหุ้น” ในบริษัท ตามกฎหมายแล้ว สัดส่วนของการแบ่งกำไรนั้นจะผันแปรอย่างชัดเจนตามสัดส่วนของผู้ถือหุ้น
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าบริษัท Zero to Profit จำกัด จัดตั้งด้วยหุ้นจดทะเบียน 10,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียน = 10,000*100 =1,000,000 บาท ประกอบด้วย นาย A = 5,000 หุ้น นาย B = 3,000 หุ้น และนาย C = 2,000 หุ้น
และสมมติว่าในสองปีแรกทำกำไรสะสมได้และอยากแบ่งปันผลกันสัก 500,000 บาท เราจะแบ่งกำไรกันตามสูตรนี้
เงินปันผลต่อคน = เงินปันผลรวม * สัดส่วนหุ้นที่ถือ/จำนวนหุ้นรวม
ทำให้นาย A ได้เงินปันผล = 500,000*5,000/10,000 = 250,000 บาท
นาย B ได้เงินปันผล = 500,000*3,000/10,000 = 150,000 บาท
นาย C ได้เงินปันผล = 500,000*2,000/10,000 = 100,000 บาท
ถ้าเรารู้วิธีการคิดเงินปันผล สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจตั้งแต่เนิ่นๆ คือ แต่ละคนจะตกลงเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นอย่างไรบ้าง เพราะนั่นหมายถึงจำนวนผลตอบแทนที่ได้รับ และเงินลงทุนที่ต้องลงมากันจริงๆ ในกิจการ
2. ใครทำงานก็รับเงินเดือนตอบแทน
ส่วนวิธีที่ 2 นอกเหนือจากการจ่ายปันผลตามสัดส่วนหุ้น คือ การตั้งเงินเดือนให้คนที่ทำงาน เพราะบริษัทไม่มีทางรันได้ถ้าไม่มีคนบริหาร เพราะฉะนั้น การตกลงกันก่อนว่าจะให้ใครเป็นกรรมการบริหารก็เป็นเรื่องสำคัญ และคนที่ทำงานก็ควรได้รับผลตอบแทน นอกเหนือจากเงินปันผลด้วย และในบางกรณีหุ้นส่วนคนนั้นอาจจะไม่ใช่พนักงานประจำ เพราะช่วยงานเป็นครั้งคราว หรือเป็นจ๊อบๆ ไป เค้าก็ควรได้รับผลตอบแทนตามจ๊อบนั้นเช่นกัน
ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Zero to Profit จำกัด ตกลงกันว่าให้นาย A เป็นกรรมการ บริหารงานทั้งหมดในบริษัท และโดยมีนาย C ทำงานวางระบบบัญชีให้ขั้นต้น ฉะนั้น นาย A จึงได้รับผลตอบแทนเป็นเงินเดือนเดือนละ 15,000 บาท และนาย C ได้รับผลตอบแทนเมื่อทำงานเสร็จจำนวน 20,000 บาท
และเงินเดือน 15,000 บาท กับค่าจ้างงานนาย C 20,000 บาท นี้จะถือเป็นค่าใช้จ่ายของกิจการ นำไปหักกลบกับรายได้ และสุดท้ายเหลือกำไรสุทธิเท่าไร ค่อยไปแบ่งกันตามวิธีเงินปันผลข้อ 1 อีกที
เข้าใจวิธีการแบ่งเงินในธุรกิจแล้ว คราวนี้ถ้าเปิดบริษัทร่วมกับเพื่อน คุยกันให้ชัด 2 เรื่อง 1) เงินลงทุน 2) เงินเดือน ก่อนเริ่มต้นจะได้ร่วมงานกันอย่างสบายใจ ไม่ผิดใจจนเสียเพื่อนแน่นอน
#zerotoprofit #จดบริษัท #แบ่งส่วนแบ่งอย่างไร
โฆษณา