16 ก.ค. 2021 เวลา 13:00
The Ken and Barbie Killers : คู่รักฆาตกร เคน และ บาร์บี้
.
*คำเตือน! เนื้อหาต่อไปนี้มีความรุนแรง เรื่องเพศ ไม่เหมาะกับผู้ที่มีจิตใจไม่แข็งแรง*
.
เรื่องราวความบิดเบี้ยวในจิตใจของคู่รักฆาตกรโหด ที่ได้ฉายาว่า “เคน และ บาร์บี้” ปัญหาครอบครัวที่ทำให้ชายหนุ่มรูปงาม มีนิสัยเกลียดผู้หญิง และหญิงสาวเลอโฉม ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อคนรัก จนก่อคดีสะเทือนใจ ทั้งทารุณทางเพศต่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ก่อนจะจบลงด้วยการฆ่าอย่างเลือดเย็น คดีนี้จะจบลงอย่างไร เชิญติดตามกันได้เลยครับ
.
**รับฟังฉบับ Podcast ได้ที่: https://www.youtube.com/watch?v=mNS68Aru0q4&t=301s**
.
#missiontopluto
#missiontoplutopodcast
#filenotfoundpodcast
1
กำเนิด “เคน”
.
“พอล เบอร์นาโด” ชายหนุ่มรูปงามจากแคนาดา ที่ว่ากันว่ามีใบหน้างดงามราวฟ้าประทาน มีตาสีฟ้า ผมสีบลอนด์ทอง เป็นลูกคนสุดท้องของครอบครัว เป็นเด็กที่สมบูรณ์แบบทั้งด้านร่างกาย รูปลักษณ์ สติปัญญา หรือที่เรียกกันในสมัยนี้ว่า “ลูกรักพระเจ้า” แต่มีข่าวลือหนาหูว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของผู้เป็นพ่อ แต่เป็นลูกชู้ที่เกิดจากความสัมพันธ์ต้องห้ามของคนเป็นแม่ และชู้รักต่างหาก
.
ภาพลักษณ์ของครอบครัวนี้ เป็นเหมือนกับชีวิตในฝันของใครหลายคน ฐานะไม่ได้ยากจน ขัดสน มีคุณแม่ที่ทำหน้าที่ดูแลครอบครัวอย่างดี มีคุณพ่อที่รักครอบครัว มีสระว่ายน้ำ มีกิจกรรมทำกันอย่างไม่มีวันเบื่อ แต่นั่นก็เป็นแค่ “เปลือกนอก” ที่ปกปิดความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในครอบครัวนี้อยู่
.
เบื้องลึกความบิดเบี้ยวภายในครอบครัวนี้ เริ่มที่ผู้เป็นพ่อ เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์กับคนอื่น จิตใจร้อนรุ่ม ใช้อารมณ์อยู่เสมอ เขาชอบของขึ้นและลงมือทำร้ายร่างกายภรรยาอยู่เสมอ เขาไม่ได้มองภรรยาเป็นคนรัก หากแต่เป็น “ทาสรับใช้” ที่ต้องคอยบริการ และเป็นที่ระบายอารมณ์ ที่เลวร้ายไปกว่านั้น เขายังชอบล่วงละเมิดทางเพศเด็กๆ และลูกสาวของตัวเองด้วย เขาชอบลวนลาม รวมถึงแอบดูลูกสาวเปลี่ยนเสื้อผ้า และจบลงด้วยการข่มขืนเป็นเวลานานหลายปี
.
ส่วนในฝั่งของผู้เป็นแม่ หลังจากที่เธอคอยรองรับอารมณ์ของสามี และคอยรับใช้ตามคำสั่งตลอดเวลา ทำให้เธอกลายเป็นคนที่ “ไม่สนโลก” และใช้ชีวิตไปวันๆ เท่านั้น
.
จากความสัมพันธ์ที่เปราะบางของพ่อแม่ ในสายคนเป็นลูกอย่างพอล กลับมองว่าคุณพ่อของเขานั้น “เท่เหลือเกิน” ทั้งแข็งแกร่ง และน่าเกรงขาม ทำให้พอลซึมซับพฤติกรรมของคนเป็นพ่อ เป็นความดำมืดในจิตใจที่เขาเก็บไว้ตลอดมา
.
จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขาพบกับจุดหักเหในชีวิต ซึ่งสร้างความเจ็บปวดในชีวิตเขาอย่างมหาศาล เพราะเขาได้ล่วงรู้ความจริงจากปากของแม่ตัวเองว่า เขาเป็น “ลูกชู้” ตามที่ชาวบ้านเขาลือกันจริงๆ และนั่นทำให้เขาเปลี่ยนไป กลายเป็นคนละคน และจุดเริ่มต้นของความเลวร้ายทั้งหมดของเรื่องนี้ ก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
.
เขาหยาบคายกับแม่ตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากการด่าทอคุณแม่ว่า “ยัยโสเภณี” “นังตัวสกปรก”
จากนั้นก็ได้เริ่มพฤติกรรมแย่ๆ อย่างการ ขโมยของ ที่ติดมาจากเพื่อนๆ รวมถึงมุมมองต่อเรื่องเพศ ซึ่งเขาให้ความสนใจเป็นพิเศษ
.
ถึงแม้ว่าพอลจะเกเรมากขึ้น แต่ด้านความสามารถ ความฉลาด และเสน่ห์ของเขาไม่เคยตกหล่นเลย เขายังคงเป็นที่สนใจของผู้หญิงตั้งแต่สมัยเรียนไปจนถึงวัยทำงาน ด้วยพฤติกรรมที่ซึมซับมาจากพ่อตั้งแต่เด็ก ทำให้เขามีนิสัยดาร์กๆ เช่น ชอบมีเซ็กซ์ในที่สาธารณะ และซาดิสม์แบบ “วิตถาร”
.
ชีวิตในวัยทำงานของพอล เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ เขาทำงานในบริษัทชื่อดัง มีหน้าตาหล่อเหลา แต่งตัวดี มีแบรนด์เนมตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ ไปจนถึงรถหรู ติดแค่เรื่องเซ็กส์ดูจะโหดร้ายผิดมนุษย์ไปมากๆ
5
นักข่มขืนแห่งสการ์บอโรห์
.
บริเวณที่ทำงานของพอล มีข่าวลือเรื่อง “นักข่มขืนแห่งสการ์บอโรห์” ที่ชอบข่มขืนหญิงสาว ดักซุ่มในยามวิกาล บังคับขืนใจเหยื่ออย่างเปิดเผย เหยื่อทุกรายจดจำหน้าตา น้ำเสียง และคำพูดของชายคนนี้ได้เป็นอย่างดี ระหว่างลงมือ เขามักจะชอบสบถคำหยาบ รวมถึงพูดจาลามก และบังคับให้เหยื่อบอกว่ามีความสุขระหว่างที่ถูกเขาข่มขืนตลอดเวลา
.
วีรกรรมของนักข่มขืนรายนี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง มีรายงานว่า พบเหยื่อถึง 18 ราย ซึ่งเหยื่อมีอายุเพียง 15-22 ปีเท่านั้น จากคำให้การของเหยื่อและพยาน ได้ข้อมูลว่า นักข่มขืนดังกล่าวมีลักษณะเป็น ชายผิวขาว อายุราว 20 ปี รูปร่างสันทัด ผมหยักศกสีน้ำตาล ซึ่งมีหญิงรายหนึ่งได้แจ้งเบาะแสมาว่า ลักษณะของนักข่มขืนรายนั้น ช่างคล้ายกับ “พอล เบอร์นาโด” ซะเหลือเกิน จนตำรวจต้องเรียกเขามาสอบปากคำ
.
ทันทีที่ตำรวจได้พบกับพอล พวกเขาไม่อยากจะเชื่อว่า หนุ่มสุดเพอร์เฟกต์คนนี้จะเป็น “นักข่มขืน” ที่มีนิสัยโรคจิตแบบนี้ได้ เขาดูดี น่าเชื่อถือ ตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา สุภาพและใจเย็น ซึ่งพอลเองยังกล้ายืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองด้วยการเสนอให้นำ DNA ของเขาไปตรวจเลยก็ได้ ทำให้พวกตำรวจมั่นใจมากว่าหนุ่มรายนี้ไม่ใช่คนร้ายในคดีนักข่มขืนแห่งสการ์บอโรห์ จากนั้นก็ปล่อยตัวเขาไป
.
กลับมาในส่วนของพอล เขาใช้ชีวิตแบบเปลี่ยนสาวไปเรื่อยๆ ไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นเหมือนกับ “จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้าย” ที่ขาดหายไปในชีวิตของพอล ซึ่งเธอมีชื่อว่า “คาร์ล่า”
1
กำเนิด “บาร์บี้”
.
“คาร์ล่า” สาวสวยจากแคนาดา ลูกสาวคนแรกของครอบครัว ในวัยเด็กเธอมีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เป็นโรคหอบหืดเรื้อรัง เธอมีผลการเรียนที่เป็นเลิศ รักสัตว์ และชื่นชอบในด้าน “การแสดง” ซึ่งนี่คืออีกจุดหนึ่งที่สำคัญของคดีครั้งนี้
.
ชีวิตของเธอเหมือนกับพอลตรงที่ มักจะมีปัญหาในครอบครัว พ่อของเธอชอบไปนอนกับหญิงอื่น ซึ่งคุณแม่ของเธอไม่ได้ห้ามปราม หรือแสดงท่าทีไม่พอใจ แต่กลับสนับสนุนเรื่องนี้ด้วยการช่วยคุณพ่อ โดยการพาหญิงสาวจากที่ทำงานมาให้สามีตัวเองหลับนอนด้วย หรือบางครั้งก็ทำในลักษณะเซ็กซ์หมู่ ทำให้คาร์ล่า เกลียดพ่อตัวเองมากๆ
.
คาร์ล่า กลายเป็นเด็กต่อต้านสังคม นิสัยและพฤติกรรมของเธอแย่ลงเรื่อยๆ จนไม่มีเพื่อนคบ ทำตัวไม่สนโลก เธอกลายเป็นแกะดำในโรงเรียน จากนั้นเธอใช้ชีวิตแบบตามใจตัวเอง ทำเรื่องต่างๆ ทั้งเสพยา รวมไปถึง “เซ็กซ์ซาดิสม์” กับเพื่อนในวัยเด็กคนหนึ่ง
.
ในวันที่ คาร์ล่า ได้เจอกับ พอล เป็นครั้งแรก พอลตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง และแน่นอนฝั่งของคาร์ล่าก็ไม่ปิดกั้นตัวเอง ทั้งคู่ชวนกันไปต่อ พูดคุยราวสนิทกันมานาน ความหลงใหลในตัวกันและกันที่เกิดขึ้น ทำให้ทั้งคู่ได้หลับนอนด้วยกัน ก่อนจะแยกย้ายกันไปในตอนเช้า แต่สำหรับเสือผู้หญิงแบบพอล เขารู้สึกถึงบางอย่าง ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตเขามาก่อน พอลเกิดติดใจ และคิดถึงคาร์ล่า จนบุกไปหาเธอถึงบ้าน และบอกความจริงเรื่องหนึ่งที่เป็นใครก็คงต้องกลัวและรีบหนีไปให้ไกล
.
พอลบอกคาร์ล่าในความจริงที่ว่า เขาคือ “นักข่มขืนแห่งสการ์บอโรห์” และไม่น่าเชื่อว่า เธอรับได้กับความชั่วร้ายของเขา นับแต่นั้นเป็นต้นมา พอลได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอ ทั้งคู่เริ่มความสัมพันธ์ตามแบบฉบับคู่รักซาดิสม์ มีการใช้บทบาทสมมติ ที่มีพอลเป็นเจ้านาย และมีคาร์ล่าเป็นทาสรับใช้ ทำทุกอย่างที่เขาต้องการ
.
ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคู่ได้ตกลงปลงใจที่จะหมั้นกัน คาร์ล่าดีใจที่ได้เจอชายที่ตัวเองตามหา ชายที่ดีเลิศเกินกว่าใครทุกคน เธอคลั่งรักจนคิดว่าโลกนี้มีเราสองคน ก็เพียงพอแล้ว โดยที่ไม่รู้เลยว่า โศกนาฏกรรมอันเลวร้ายจากการ “นอกใจ” โดยสามี ที่เธอเกลียดจากพ่อของตัวเอง กำลังจะเกิดขึ้นอีกนับครั้งไม่ถ้วน
3
เด็กสาวผู้เคราะห์ร้าย เหยื่อของคู่รักใจโหด
.
ปี 1990 ในคืนวันคริสต์มาส พอลต้องการของขวัญชิ้นหนึ่งจากคาร์ล่า ซึ่งก็คือการขอข่มขืน “แทมมี่” น้องสาวแท้ๆ ที่มีอายุเพียง 15 ปี โดยให้เหตุผลว่า เพราะเขาชอบเธอมากๆ แถมแทมมี่ยังเป็นสาวบริสุทธิ์ เขาเลยอยากมีเซ็กซ์ด้วย แต่แทนที่คาร์ล่าจะปฏิเสธและสั่งสอนว่ามันคือเรื่องเลวร้าย เธอกลับยินยอมและให้ความร่วมมือ วางแผนอย่างแนบเนียน
.
ในคืนนั้น พวกเขาแอบวางยาสลบในเครื่องดื่มของแทมมี่ จากนั้นก็ให้พอลข่มขืนแทมมี่อย่างสะใจ โดยมีคาร์ล่ายืนถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้ด้วย แต่ระหว่างที่พอลกำลังสนุก แทมมี่ก็เกิดอาการหายใจไม่ออก หน้าเริ่มเปลี่ยนสี เมื่อทั้งคู่เห็นน้องอาการไม่ดี จึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลและตำรวจ แล้วจึงจัดการทำให้ทุกอย่างอยู่ในสภาวะปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ทันการ แทมมี่เสียชีวิตลงก่อนที่ความช่วยเหลือจะมาถึง หลังสอบปากคำ เจ้าหน้าที่คาดว่าแทมมี่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทำให้ทั้งคู่ลอยนวล ไม่ต้องรับผิดอะไรทั้งสิ้น
.
แต่หลังการเสียชีวิตของแทมมี่ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว พอลเบื่อหน่ายในตัวคาร์ล่า เขายังคงคิดถึงแทมมี่ และจินตนาการว่าได้มีเซ็กซ์กับเธอทุกวัน ทำให้คาร์ล่าพยายาม “สวมบท” เป็นน้อง เธอเอาเสื้อผ้าของน้องมาใส่ ดัดเสียง ทำท่าทาง ไปจนถึงนำรูปมาตั้งไว้บนหัวนอน เพื่อให้พอลมองระหว่างมีเซ็กซ์ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะพอลหมดแพสชันไปนานแล้ว ตอนนี้เขาไม่ต้องการใคร นอกจากทำตามความบิดเบี้ยวใจหัวใจตัวเองเท่านั้น ซึ่งมันจะนำไปสู่เหตุการณ์สยองหลังจากนี้อีกมากมาย
.
1 ปีหลังจากเหตุการณ์ในคดี “แทมมี่” สภาพจิตใจของพอล มืดมิดลงเรื่อยๆ เขามองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ต่ำต้อย สกปรกและอ่อนแอ จนรู้สึกเกลียดชัง และอยากจะ “ฆ่าข่มขืนใครสักคน”
จนพอลได้ไปเจอกับ “เลสลี่” สาวน้อยวัย 14 ปี ที่กำลังจะถึงคราวซวยอย่างไม่ทันระวังตัว
.
วันนั้นเลสลี่ กำลังกลับจากงานศพเพื่อน แต่คงดึกไปหน่อย เธอเลยเข้าบ้านไม่ได้เพราะประตูบ้านถูกล็อกหมด เธอเลยเดินเตร่ไปตามถนนเปลี่ยว และนั่งพักที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ซึ่งได้ไปพบกับพอล ความสวยของเลสลี่สะดุดตาพอล จนเขาต้องพยายามเข้าหาเธอ ความไร้เดียงสาของสาวน้อยวัย 14 ทำให้ในตอนนั้นเธอไม่ได้กลัวพอล แต่กลับคิดว่าเขาคงเป็นผู้หวังดีคนหนึ่ง แต่โลกนี้ที่เต็มไปด้วยอันตราย ยิ่งกับคนแปลกหน้าและไร้จิตสำนึก พอลก็ชักมีดขึ้นมาจี้เธอ พร้อมจับมัด ปิดตา แล้วลากไปเพื่อจัดการข่มขืน
.
เลสลี่ ถูกพอลปฏิบัติเยี่ยงวัตถุสนองความต้องการ เธอถูกข่มขืน ทารุณ พร้อมถ่ายคลิป แล้วพอลยังสั่งให้คาร์ล่ามาร่วมทำเรื่องเลวร้ายนี้ด้วย จนถึงวันที่เลสลี่ทนความเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตัวเองไม่ไหว เธอขัดขืนพอล นั่นทำให้พอลและคาร์ล่าไม่พอใจ จนลงมือฆ่าเธอทิ้ง เริ่มจากวางยานอนหลับ แล้วค่อยใช้สายไฟรัดคอจนขาดอากาศ จากนั้นหั่นศพออกมาเป็น 10 ชิ้น ด้วยเลื่อยไฟฟ้า ปิดท้ายโบกปูนทับแล้วนำไปทิ้งในทะเลสาบ
.
หลังจากเหตุการณ์ “เลสลี่” คู่รักใจโหดได้แต่งงานกันและไปใช้ชีวิตอย่างหวานชื่น ในขณะที่ศพของเลสลี่ก็ถูกค้นพบในทะเลสาบแห่งนั้นในเวลาต่อมา และแน่นอนว่าวีรกรรมชั่วร้ายของคู่รักใจโหด ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้
.
หลังจากฮันนีมูน พอลและคาร์ล่า ผันตัวมาเป็นฆาตกรต่อเนื่อง และกลับมาก่อคดีอีกครั้ง
ปี 1992 พวกเขาได้พบกับเหยื่อรายใหม่ เป็นเด็กสาวสวย อายุเพียง 15 ปี ชื่อว่า “คริสเตน”
เธอถูกพอลฉุดขึ้นรถ และลงมือเหมือนกับเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคนก่อนไม่มีผิด แน่นอนว่าจุดจบของเธอคือความตาย
.
ความดำมืดในใจของพอล มืดมิดลงเรื่อยๆ หนึ่งปีหลังจากจัดการกับคริสเตน เขายิ่งทำเลวกับภรรยาหนักกว่าเดิม พอลทุบตีคาร์ล่าหนักจนเธอและครอบครัวของเธอ ทนไม่ไหวอีกต่อไป สุดท้ายเลยแจ้งความจับพอลในข้อหาทำร้ายร่างกายในปี 1993
4
สั่งลา “คู่รักฆาตกร”
.
ตอนแรกที่พอลถูกแจ้งจับ เขาได้รับการประกันตัวเพราะประวัติขาวสะอาด เขาไม่เคยมีคดีติดตัวเลยสักครั้ง
จนกระทั่งมีรายงานว่า DNA ของพอลที่เคยให้ไว้ตั้งแต่สมัยโดนเรียกมาสอบปากคำในคดี “นักข่มขืนแห่งสการ์บอโรห์” ดันไปตรงกับ DNA จากน้ำเชื้อที่ได้จากคดีฆาตกรรม แทมมี่ เลสลี่ และคริสเตน เด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 3 ราย ที่เสียชีวิตจากน้ำมือของพอล
.
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบต่อ จากคำให้การของคาร์ล่า ที่อยากจะได้ลดโทษจากประหาร / ติดคุกตลอดชีวิต เป็นติดคุก 12 ปี แลกกับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เธอสารภาพว่า พอลนั้นเป็นทั้งนักข่มขืนแห่งสการ์บอโรห์ และเป็นคนฆ่าเด็กสาวทั้ง 3 โดยมีเธอยืนดูเขาในขณะลงมือ
.
หลักฐานที่แน่นหนา มีทั้งคลิปวิดีโอหลักฐานทุกอย่าง ร่องรอยต่างๆ นานา ประกอบกับคำให้การจากปากของคาร์ล่า สุดท้ายพอลก็หนีความผิดนี้ไปไม่ได้ เขาได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ที่แปลว่าตลอดชีวิตจริงๆ เขาไม่ได้รับการอุทธรณ์ แม้เขาจะบอกว่ากลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้วก็ตาม
.
หลังจากคดีนี้เป็นที่โด่งดัง พอลและคาร์ล่า จึงได้ฉายาว่า “คู่รักฆาตกร เคนและบาร์บี้” อันเนื่องมาจากใบหน้าที่งดงาม ขัดกับจิตใจอันมืดมิดของพวกเขานั่นเอง
4
โฆษณา