18 ก.ค. 2021 เวลา 00:40
ในฐานะปชช ผมแยกเป็น 2 ประเด็น คือการติดเชื้อ กับ การเสียชีวิต
การติดเชื้อเกินหมื่น ผมคิดว่า เพราะคนเราขาดวินัย และจิตสำนึกในการรับผิดชอบชีวิตตัวเองเป็นหลัก เพราะหากทุกคนยัง (แอบ) ทำ ตัวเองให้เสี่ยงอยู่เสมอๆ ต่อให้มีกฎเกณฑ์อะไร ก็ติดอยู่ดี สังเกต บ่อยครั้งเห็นคนถอดหน้ากาก แล้วคุยกับคนอื่นๆมากมาย หรือแม้กระทั่งขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ใส่หมวกกันน็อค ขับรถยนต์ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ต้องให้ตำรวจมาคอยกวดขันทั้งที่เป็นความปลอดภัยตัวเอง ในขณะที่รัฐก็ออกกฎช่วงแรกๆได้อ่อนไป และประเมินสถานการณ์ต่ำ และ(อาจ)มีเลือกปฏิบัติ ปล่อยปละละเลยกับบางกลุ่มคน ให้มาแพร่เชื้อได้ (เราเห็นกันแยู่แล้วว่าธุรกิจกลางคืน บางประเภท หรือบ่อนการพนัน คือแหล่งแพร่เชื้อ ซึ่งรัฐ ต้องเอาจริง แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง ก็ไม่มีใครบังคับใครให้ไปเล่นการพนัน หรือไปใช้บริการธุรกิจโลกีย์ที่มีความเสี่ยงสูง มิใช่หรือ ? ผมเห็นคนไป สมัครใจทั้งนั้น!! คิดแล้วเพลีย)
แต่…
การที่ “คนตายรายวันเยอะ ขนาดนี้” ผมคิดว่า รัฐบาล และฝ่ายตรงกันข้ามรัฐ มีความผิดอย่างมาก เช่นกัน ตั้งแต่ การรณรงค์การฉีดวัคซีน ที่รัฐ ประชาสัมพันธ์ไม่ดี บวกกับ พวกเฟคนิวส์ต่างๆ จากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล (ไม่ใช่แค่ฝ่ายค้านเท่านั้น) ใช้บั่นทอนความเชื่อมั่นในวัคซีน และ การจัดระบบสาธารณสุข ให้พอเพียง แม้วัคซีน จะกันติดไม่ได้ และอาจจะยังกันตายไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มันเป็นหน้าที่รัฐบาล ที่เร่งประชาสัมพันธ์ อย่างน้อย ฉีดดีกว่าไม่ฉีด แต่การสื่อสารช่วงหลังๆ ถือว่าล้มเหลวอย่างมาก แพ้ พวกเฟคนิวส์กับข่าวบิดเบือนไปหลายช่วงตัว (อันนี้ก็อยากให้ ปชช ช่วยกันประณาม คน ทำเฟคนิวส์ และสื่อมวลชนที่แชร์ก่อนเช็คด้วยเช่นกัน )
ส่วนการจัดซื้อวัคซีนยี่ห้อต่างๆ
เมื่อรู้ว่า สถานการณ์เปลี่ยน จากไวรัสกลายพันธุ์ มีเดลต้า มาใหม่ ก็ควรดำเนินการ กลับลำอย่างเร่งด่วน ยืดอกชี้แจง ปชช เลยว่า มีตัวแปรเพิ้ม รัฐพร้อมเปลี่ยนยุทธศาสตร์ มิใช่ยึดกลยุทธ์เดิม จนปชช ด่าทอ ค่อยเปลี่ยน ตามคำด่าทอ
แต่นาทีนี้ ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการทำตนเองและครอบครัวให้ปลอดภัย และเราต้องรอดก่อนครับ ปัจจัยที่ใกล้ตัว ควรทำให้ถึงพร้อมก่อนปัจจัยภายนอกที่ยากเปลี่ยนแปลง
โฆษณา