21 ก.ค. 2021 เวลา 11:50 • ธุรกิจ
Mark Cuban จากเด็กขายถุงขยะ สู่ มหาเศรษฐีแสนล้าน
1
เมื่อพูดถึงวงการอาหาร หลายคนคงจะนึกถึง Gordon Ramsay
ชายที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด แต่ฝีไม้ลายมือและความอัจฉริยะด้านอาหาร
ก็เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจนเถียงไม่ออก
สำหรับวงการธุรกิจเอง ก็มีคนหนึ่งที่มีบุคลิกคล้าย Ramsay ไม่มีผิด
เขาคนนั้นก็คือ Mark Cuban มหาเศรษฐีวัย 63 ปี ผู้ที่เด็ดขาดกับเรื่องธุรกิจ
และเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างมหาศาล
2
เขาคนนี้มีจุดเริ่มต้นเป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่ง
แต่ปัจจุบัน เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีแสนล้าน
แล้วเรื่องราวของ Cuban น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Mark Cuban เกิดในเมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 1958
โดยพ่อของเขาประกอบอาชีพเป็นช่างทำเบาะรถยนต์และแม่ของเขาทำงานรับจ้างทั่วไป
1
จุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการของ Cuban เกิดขึ้นเมื่อเขามีอายุเพียง 12 ปี
1
ในขณะนั้น เขาได้ขอเงินจากพ่อเพื่อซื้อรองเท้าคู่ใหม่ แต่แทนที่จะได้รองเท้า
เขากลับได้คำตอบที่จำได้ไม่เคยลืมว่า รองเท้าที่เขามีนั้นดีอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องซื้อใหม่เลย แต่ถ้าอยากได้รองเท้าคู่ใหม่ ก็ต้องทำงานเก็บเงินเอง จะได้มีเงินซื้อ
คำพูดของพ่อเขาทำให้ Cuban เกิดแรงบันดาลใจในการหาเงินด้วยตัวเอง
จึงนำไปสู่ธุรกิจแรกในชีวิตคือ “การขายถุงขยะ”
1
ไอเดียของเขาในตอนนั้นก็คือ ซื้อสินค้าราคาส่งมาขายในราคาปลีก
โดย Cuban เริ่มจากไปซื้อถุงขยะชุดใหญ่ในราคา 100 บาท แล้วนำมาแบ่งขายต่อราคา 200 บาท
2
สำหรับวิธีการขาย ก็คือเดินเคาะขายตามบ้านเรือนรอบข้างและจี้จุด Pain Point เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนอยากซื้อ เช่น การอธิบายข้อเสียของการไม่มีถุงขยะและบอกข้อดีคือไม่ต้องเหนื่อยเดินทางออกไปซื้อเอง
จากธุรกิจนี้เอง ก็ได้ทำให้เขาตกหลุมรักการทำธุรกิจอย่างมาก เพราะเขารู้สึกว่านอกจากมันจะสร้างเงินได้แล้ว เขายังสนุกไปกับมันอีกด้วย
1
นั่นจึงทำให้ Cuban ในวัยเด็กรู้จักการหาเงินด้วยตัวเองอยู่เสมอ
ซึ่งนอกจากขายถุงขยะ เขายังขายของสะสม เช่น แสตมป์ หรือเหรียญต่าง ๆ ด้วย
2
ในเวลาต่อมา บริษัทสำนักพิมพ์ท้องถิ่นของเมืองที่ Cuban อาศัยอยู่
โดนพนักงานประท้วงหยุดงานจนต้องหยุดส่งหนังสือพิมพ์
Cuban ก็ได้ใช้เหตุการณ์นี้เป็นโอกาสเพราะเขามองว่านิสัยของคนมักชอบเสพและติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจออกเดินทางไปเมืองอื่นเพื่อซื้อหนังสือพิมพ์ แล้วนำกลับมาวางขาย
และนั่นก็ทำให้เขาสามารถสร้างเงินก้อนใหญ่ให้กับตัวเองอีกครั้ง
1
แม้กระทั่งช่วงที่ศึกษาที่มหาวิทยาลัย
Cuban ก็ยังคงอยู่บนเส้นทางผู้ประกอบการเสมอ
เขาและเพื่อน ๆ เช่าบาร์ใกล้มหาวิทยาลัยเพื่อทำธุรกิจจัดงานปาร์ตี
ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี จนทำให้ในที่สุดเขาสามารถซื้อบาร์เป็นของตัวเองได้
1
เมื่อเรียนจบ Cuban เลือกกลับมาบ้านเกิดอีกครั้ง และทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง
แต่ในเวลาต่อมา เขาตระหนักได้ว่า เมืองนี้เล็กเกินกว่าที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่
เขาจึงตัดสินใจลาออกและย้ายชีวิตไปอยู่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส แทน
ก็ต้องบอกว่าช่วงแรกของเขาไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คาดหวังไว้
1
เพราะ Cuban ต้องทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ ประทังชีวิตในแต่ละวัน และอาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์กับเพื่อนอีก 5 คน เพื่อประหยัดอดออม
แต่แล้วในที่สุดเขาก็ได้รับโอกาส เมื่อ “Your Business Software”
บริษัทซอฟต์แวร์รับเขาเข้าทำงาน ในตำแหน่งพนักงานขาย
ซึ่ง Cuban บอกว่าตอนแรกเขาไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เลย
แต่เขาก็ได้ใช้ความพยายามในการเรียนรู้ หากไม่รู้ในสิ่งไหนก็ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
1
Cuban ยังได้บอกอีกว่าแม้จะกลับมาที่พักดึกแค่ไหน เขาต้องอ่านหนังสืออยู่เสมอ และแม้กระทั่งที่ทำงาน ก็จะใช้เวลาในการเรียนรู้คอมพิวเตอร์อย่างเต็มที่
3
จากความพยายามครั้งนี้ จึงทำให้ตัวเขาเองมีความรู้ความเชี่ยวชาญมากขึ้น
ลูกค้าหลายรายจึงเชื่อใจในตัวเขา จนเขาสามารถสร้างยอดขายได้มหาศาล
3
เมื่อทุกอย่างกำลังไปได้ดี บริษัทที่เขาทำงานอยู่กลับไล่ Cuban ออก
เนื่องจากมองว่าเขากำลังสะสมลูกค้าเป็นของตัวเองมากเกินไป
ซึ่ง Cuban ก็ได้ยืนยันว่าเขาเพียงช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทเท่านั้น
หลังจากถูกไล่ออก Cuban จึงตัดสินใจเอาคืน Your Business Software
ด้วยการเปิดบริษัทของตัวเองที่ชื่อว่า “MicroSolutions”
บริษัทที่จัดจำหน่ายซอฟต์แวร์และบริการให้คำปรึกษาด้านคอมพิวเตอร์
3
โดยในเวลานั้นเขาสามารถสร้างรายได้ต่อปีสูงที่สุดถึง 980 ล้านบาท
ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็คือ ลูกค้าเก่าจากบริษัทที่ไล่เขาออกมา
ต่อมาเขาตัดสินใจขายธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ในปี 1990 ด้วยมูลค่าราว 200 ล้านบาท
เพื่อที่จะได้เกษียณการทำงานและกลับไปใช้ชีวิตของตนอย่างปกติ
Cr.dallasnews
แต่เมื่อเกษียณไปได้ไม่นาน Cuban กลับรู้สึกเบื่อและโหยหาการทำงานอีกครั้ง
เขาจึงเริ่มมองหาโอกาสการทำธุรกิจใหม่และก็ได้พบเข้ากับ AudioNet
บริการสตรีมการแข่งขันกีฬา ที่มีผู้ก่อตั้งคือ Christopher Jaeb
Cuban มองว่าบริการลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ต้องการ แม้กระทั่งตัวเขาเอง
เขาจึงให้เงินสนับสนุนไป และเมื่อ AudioNet เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
บริษัทแห่งนี้ก็ได้ผลตอบรับที่ดีอย่างที่คาดการณ์ไว้
ทำให้เวลาต่อมา Cuban ตัดสินใจซื้อหุ้นจาก Jaeb จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทจาก AudioNet เป็น “Broadcast.com
หลังจากนั้นไม่นาน บริษัทได้เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO
ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะราคาหุ้นของ Broadcast.com
พุ่งขึ้นในวันแรกเกือบ 300% จึงทำให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่าง Cuban ร่ำรวยอย่างก้าวกระโดด
1
และสิ่งที่ทำให้ Cuban รวยเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลอีก คือการเข้ามาซื้อกิจการของ Yahoo
โดยเป็นการเข้าซื้อด้วยวิธีแลกหุ้นกัน ซึ่ง Cuban ก็ได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใน Yahoo
แต่หลังจากที่ Cuban ได้รับหุ้นมาแล้ว เขาก็ได้มองว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังจะเกิดฟองสบู่แต่การแลกหุ้นกับ Yahoo ยังติดเงื่อนไขห้ามขายหุ้นอยู่ เขาจึงทำการประกันความเสี่ยงโดยใช้อนุพันธ์โดยร่วมมือกับ Goldman Sachs
1
และก็เป็นอย่างที่รู้กันดีว่าฟองสบู่ดอตคอมก็ได้เกิดขึ้นจริง
และ Cuban ก็สามารถรอดจากวิกฤติครั้งนั้นมาได้
1
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Cuban ได้นำเงินไปลงทุนในเหล่าธุรกิจอยู่เรื่อยมา
และเขาได้เข้าซื้อทีมบาสเกตบอลในดวงใจอย่าง Dallas Mavericks
ด้วยมูลค่าถึง 9,000 ล้านบาท
1
ช่วงที่ Cuban เข้าซื้อ Dallas Mavericks เป็นช่วงที่ Performance ของทีมตกอย่างมาก
อัตราการชนะของทีมอยู่ที่เพียง 40% เท่านั้น
2
แต่หลังจากการเข้ามาบริหารของ Cuban ทีม Dallas Mavericks ก็มีผลงานที่ดีขึ้นและอัตราการชนะของทีมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 69%
1
สิ่งที่ Cuban ใช้สำหรับบริหารทีม คือ การใช้ความเป็นแฟนคลับผสมกับความสามารถด้านธุรกิจ
เช่น สำหรับแฟนคลับ เขาเองก็เป็นแฟนบาสเกตบอลเช่นกัน จึงทำให้รู้ว่าคนต้องการอะไร
เขาลงทุนในสิ่งต่าง ๆ ที่ช่วยให้แฟนคลับได้รับประสบการณ์ที่ดี อย่างช่องทางการสื่อสารกับผู้เล่น
นอกจากนั้น ก็ยังมีเรื่องของการดูแลและสนับสนุนผู้เล่นในทีม
Cuban สนับสนุนและดูแลสมาชิกของทีมในหลาย ๆ เรื่องอย่างที่พักและการเดินทาง
ซึ่งแตกต่างจากเจ้าของทีมคนเก่า ที่ดูจะไม่ค่อยให้การสนับสนุน
1
และนั่นก็เปรียบเหมือนว่า Cuban ให้ใจกับพวกเขา จึงทำให้ผู้เล่นในทีมมีความสุขและมีความเชื่อมั่น ทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้การซ้อมและการแข่งขันเป็นไปอย่างเต็มที่
2
เขาเป็นคนที่คอยช่วยสร้าง Culture ใหม่ในทีมร่วมกับโค้ช Don Nelson ด้วย
เพื่อให้สมาชิกในทีมคลิกกันและให้ความสำคัญกับผลงานมากกว่าความอาวุโส
2
อีกส่วนสำคัญคือ การใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์
โดย Cuban จ้าง Roland Beech นักคณิตศาสตร์สถิติ เพื่อเก็บข้อมูลตัวเลขต่าง ๆ ของผู้เล่น
แล้วนำมาวิเคราะห์ ในการวางแผนกลยุทธ์สำหรับการแข่งขัน และนั่นก็ส่งผลให้ทีมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
1
จากการเข้ามาบริหารของ Cuban ส่งผลให้ Dallas Mavericks กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง
และมีการประเมินว่า มูลค่าทีมปัจจุบันสูงถึง 80,000 ล้านบาท
1
โดยสิ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังไม่ใช่เพียงแค่ Broadcast.com กับ Dallas Mavericks เท่านั้น
แต่การมาเป็นนักลงทุนในรายการ Shark Tank ก็ทำให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งทะยานอีก เช่นกัน
Cr.thaismescenter
Shark Tank คือรายการสุดฮิตของสหรัฐอเมริกาที่เหล่าผู้ประกอบการจะต้องพรีเซนต์ให้นักลงทุนฟัง
เพื่อโน้มน้าวนักลงทุนให้มาลงทุนในธุรกิจของตน
ด้วยสไตล์การวิพากษ์วิจารณ์ธุรกิจของเขาที่ให้แก่ผู้ประกอบการอย่างดุดันและตรงไปตรงมา
ซึ่งอาจจะฟังแล้วเจ็บแสบ แต่ล้วนเป็นความรู้และข้อคิดที่ดี
จึงทำให้มีแฟนคลับมากมาย ทั้งนักธุรกิจ นักลงทุน รวมถึงผู้รับชมทั่วไป
ตั้งแต่ Cuban เข้าร่วมรายการ Shark Tank
เขาลงทุนไปแล้วรวมธุรกิจมากกว่า 80 แห่ง
คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 650 ล้านบาท
นอกจากนี้ เขายังได้ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับกลุ่ม Blockchain และ Cryptoasset อีกด้วย
เช่น OpenSea และ SuperRare แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ขนาดใหญ่
Polygon Blockchain ที่ได้รับความนิยมในช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า แม้เขาจะอายุ 60 กว่าปีแล้ว แต่ก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้และเปิดรับสิ่งใหม่
2
ปัจจุบัน Cuban ยังคงเป็นทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนไปพร้อม ๆ กัน
จึงทำให้เขามีมูลค่าทรัพย์สินรวมที่ 140,000 ล้านบาท
2
ปิดท้ายด้วยคำกล่าวของ Mark Cuban
ที่ได้พูดถึงเคล็ดลับความสำเร็จของเขาว่า
1
“สิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จนั้น
เกิดขึ้นจากความพยายามค้นหาและศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา
สิ่งเหล่านี้เอง ที่คนส่วนใหญ่ไม่มี จึงทำให้เขาได้เปรียบในการแข่งขันอยู่เสมอ”
4
โฆษณา