Update! Texas พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์แลมบ์ดารายแรก
โรงพยาบาลรายใหญ่ของเท็กซัสได้รายงานกรณีผู้ป่วยรายแรกของสายพันธุ์แลมบ์ดา ในขณะที่รัฐกำลังรับมือจากสายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดหนัก
โรงพยาบาล Houston Methodist ซึ่งเป็นเครือข่ายโรงพยาบาลหลักประจำรัฐกล่าวว่า “ผู้ป่วยสายพันธุ์แลมบ์ดารายแรกได้รับการยืนยันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา”
รายงานขององค์การอนามัยโลกระบุว่า สายพันธุ์แลมบ์ดาตรวจพบครั้งแรกในเปรูในเดือนธันวาคม 2563 และคิดเป็น 81% ของผู้ป่วยโควิด-19 ตามลำดับในประเทศ
ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ตามรายงานขององค์การอนามัยโลกปัจจุบัน WHO กำหนดให้แลมบ์ดาเป็น "variant of interest”
ข้อมูลจาก โรงพยาบาล Houston Methodist มีผู้ป่วย COVID-19 น้อยกว่า 100 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 185 รายในวันจันทร์ โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกล่าวว่าในบรรดาผู้ติดเชื้อเหล่านี้ ประมาณ 85% ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นสายพันธุ์เดลต้า
“เราเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจในจำนวนผู้ป่วย COVID-19 ทั่วพื้นที่ฮูสตัน โดยเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในช่วงสุดสัปดาห์” ฮูสตัน เมธอดิสต์ กล่าว "การรักษาตัวในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้นเพิ่มความเครียดให้กับโรงพยาบาลหลายแห่งของเรา"
ดร.มาร์ค บูม ประธานและซีอีโอของโรงพยาบาลย้ำว่า “จำเป็น” ที่ประชาชนทุกคนต้อง “ได้รับการฉีดวัคซีนและลดการแพร่กระจายของไวรัส”
แม้จะมีรายงานเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา ผู้เชี่ยวชาญจาก Houston Methodist กล่าวว่าสายพันธุ์เดลต้ายังคงเป็นปัญหาหลักในสหรัฐอเมริกา
สายพันธุ์แลมบ์ดาเป็นสายพันธุ์หลักในเปรู และเปรูมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากกับโควิด-19 นอกจากนี้ทางสหรัฐยังมีความกังวลเกี่ยวกับโควิดสายพันธุ์เดลต้ามากกว่าแลมบ์ดาเนื่องจากยังไม่มีหลักฐานเพียงพอให้กังวล
แต่มีหลักฐานอีกมากมายที่แสดงว่าเดลต้าติดต่อได้ง่ายกว่ามากรวมทั้งปริมาณไวรัสนั้นสูงกว่ามาก ดร.เวสลีย์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของ Diagnostic Microbiology ที่ Houston Methodist กล่าว ปัจจุบันมีสัดส่วนผู้ป่วยจากสายพันธุ์เดลต้าประมาณ 83% ของผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้ WHO กำหนดให้เดลต้าเป็น "สายพันธุ์ที่น่ากังวล"
เกี่ยวกับโควิดสายแลมบ์ดา
สายพันธุ์แลมบ์ดา "มีความเกี่ยวข้องกับอัตราการแพร่เชื้อในชุมชนที่มีนัยสำคัญในหลายประเทศ โดยมีความชุกเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปพร้อมกับอุบัติการณ์โควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น" WHO กล่าวในรายงานเมื่อเดือนมิถุนายน
ข้อมูลจาก WHO อ้างจากผลการวิจัยพบว่าโควิดสายพันธุ์นี้มี "การต่อต้านบางส่วนต่อneutralisation" อย่างไรก็ตาม "ไม่ทำให้สูญเสียการป้องกันการติดเชื้ออย่างมีนัยสำคัญ" ในผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีน Pfizer, Moderna
แต่ในงานวิจัยอื่น พบว่าแลมบ์ดามีการกลายพันธุ์ที่มี “ความสามารถในการหลบหนีจากแอนติบอดีที่กระตุ้นโดย CoronaVac (Sinovac)” ซึ่งเป็นวัคซีนที่ใช้ในหลายประเทศในเอเชีย
ในขณะนี้ 51% ของประชากรในรัฐเท็กซัสอายุ 12 ปีขึ้นไปได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน 2 เข็มเรียบร้อยแลัว
- 177
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
