25 ก.ค. 2021 เวลา 02:58 • ความคิดเห็น
สมบัติอันล้ำค่าที่สุดคือความเก๋า
เมื่อวานนี้ เชื่อว่าคนไทยหลายล้านคนคงมีความสุขเพราะน้องเทนนิส “พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ” ที่คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์กีฬาเทควันโด โดยเอาชนะเอเดรียน่า สาวน้อยวัย 17 ปีจากสเปนไปได้อย่างฉิวเฉียด
ตอนที่เหลือเวลาอยู่เพียง 9 วินาทีนั้น น้องเทนนิสยังตามอยู่ 9 ต่อ 10 คะแนน
เราเป็นแค่คนเชียร์ยังรู้สึกถูกบีบหัวใจจนแทบจะทนดูไม่ได้ แล้วน้องเทนนิสที่เป็นมือหนึ่งของโลกและแบกความหวังของคนทั้งประเทศเอาไว้จะรู้สึกกดดันขนาดไหน
แต่ตอนที่เหลือเวลาอยู่เพียง 7 วินาที น้องเทนนิสก็หลอกต่อย ก่อนจะเตะเข้าหน้าอกของเอเดรียน่า พลิกขึ้นมานำเป็น 11 ต่อ 10 คะแนน และรักษาสกอร์นี้ไว้ได้จนหมดเวลาการแข่งขัน
ถ้าไม่เรียกว่า “โคตรเก๋า” ก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร
ความเก๋านี้ไม่ได้มาฟรีๆ มันคือผลลัพธ์จากการฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงและยาวนานระดับ 10,000-Hour Rule และเกิดจากการพ่ายแพ้อย่างเจ็บปวดในโอลิมปิกรอบที่แล้วที่น้องเทนนิสพลาดท่าเสียทีในช่วง 5 วินาทีสุดท้าย
ทำให้ผมนึกถึงถ้อยความหนึ่งในหนังสือ How to Live ของ Derk Sivers ที่กล่าวไว้ว่า
Mastery is the best goal because the rich can’t buy it, the impatient can’t rush it, the privileged can’t inherit it, and nobody can steal it.
You can only earn it through hard work.
Mastery is the ultimate status.
ความเชี่ยวชาญคือเป้าหมายที่มีคุณค่าสูงสุด เพราะคนรวยหาซื้อไม่ได้ คนใจร้อนเร่งให้เกิดไม่ได้ อภิสิทธิ์ชนรับเป็นมรดกไม่ได้ และไม่มีใครขโมยมันได้
ทางเดียวที่จะได้มันมาคือการฝึกฝนอย่างหนัก
ความเชี่ยวชาญ (หรือความเก๋า) จึงเป็นฐานันดรขั้นสูงสุด
กลับมาถามตัวเองว่ามีเรื่องใดบ้างที่เราทำได้ดี อะไรที่คือสิ่งที่เราจะมี mastery กับมันได้
นี่คือสิ่งที่ต้องลงทุนลงแรงและอดทนรอคอย
แต่ในวันที่ได้มา มันจะติดตัวและตอบแทนเราไปทั้งชีวิตครับ
โฆษณา