26 ก.ค. 2021 เวลา 21:46 • ปรัชญา
“รู้ชื่อของธรรมไม่สำคัญเท่ากับรู้ในอริยสัจ ๔”
ธรรมะรุ่งอรุณ ☀️
๒๗ กรกฏาคม ๒๕๖๔
ศึกษาธรรมะอย่าไปหลงประเด็น ให้เกาะติดอยู่กับพระอริยสัจ ๔ อย่าไปหลงกับชื่อของธรรมชนิดต่างๆ เป็นความรู้ที่ไม่สำคัญ เท่ากับความรู้ในอริยสัจ ๔ ศึกษาพระอภิธรรมจนจำได้หมดว่า จิตมีกี่ชนิดมีกี่แบบ กิเลสมีกี่ชนิดมีกี่แบบ รู้ไปก็เท่านั้น รู้แต่ชื่อ แต่ตัวที่ปรากฏอยู่ในใจตลอดเวลา กลับไม่รู้ ทางสายปฏิบัติจึงไม่ค่อยได้พูดถึง จะพูดแต่สติสมาธิปัญญา เพราะเป็นเหตุที่จะทำให้เห็นธรรมต่างๆ ที่จารึกอยู่ในพระไตรปิฎก
ถ้าจะละสักกายทิฐิได้ ก็ต้องเห็นว่าขันธ์ ๕ ไม่ใช่ตัวเรา เป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา นี่คือด่านแรกของปัญญา โดยเฉพาะรูปขันธ์และเวทนาขันธ์ ที่เป็นตัวปัญหา มีสัญญาสังขารเป็นผู้สร้าง พอสังขารปรุงไปทางสมุทัยก็จะเกิดความทุกข์ใจขึ้นมา เช่นเวลาเกิดทุกขเวทนา สังขารก็จะปรุงให้อยากให้ทุกขเวทนาหายไป อยากจะให้หายเจ็บ พอไม่หายก็ดิ้นรนกวัดแกว่ง นั่งไม่เป็นสุข ต้องขยับถึงจะหาย แต่ไม่สามารถทำใจให้หายทุกข์ได้ ต้องดิ้นหนีทุกขเวทนาอยู่เรื่อยๆ
ถ้าใช้ปัญญาพิจารณาทุกขเวทนาว่าเป็นธรรมดา เป็นเหมือนฝนตก ห้ามทุกขเวทนาไม่ได้ แต่ห้ามใจได้ ห้ามไม่ให้กลัว ห้ามไม่ให้อยากให้ทุกขเวทนาหายไปได้ ด้วยการบริกรรมพุทโธๆไป อย่าไปคิดถึงความเจ็บ พอไม่คิดถึงความเจ็บ ความอยากที่จะให้ความเจ็บหายไป ก็จะไม่ปรากฏขึ้นมา ทุกข์ที่เกิดจากความอยากก็จะไม่มี ก็จะนั่งต่อไปได้ ความเจ็บจะไม่รู้สึกรุนแรงเลย ความเจ็บก็ยังมีอยู่ แต่ใจไม่กลัว ไม่ได้อยากให้หายไป ความเจ็บจะอยู่ก็ปล่อยให้อยู่ไป เหมือนฝนตก จะตกก็ตกไป ใจปล่อยวางได้
พอปล่อยวางทุกขเวทนา ปล่อยวางร่างกายได้แล้ว ขั้นต่อไปก็ต้องปล่อยวางกามราคะ ต้องพิจารณาอสุภะอย่างต่อเนื่อง เพื่อตัดกามราคะอย่างถาวร ถ้าเห็นอสุภะเป็นพักๆก็จะละได้เป็นพักๆ  ถ้าอยากจะละได้อย่างถาวร ก็ต้องเห็นอสุภะตลอดเวลา เวลาเห็นใครก็ตาม จะต้องเห็นทะลุเข้าไปข้างในเลย ต้องเป็นเหมือนเอ็กซเรย์ พอเกิดอารมณ์ปั๊บจะต้องมองทะลุเข้าไปข้างใน เห็นโครงกระดูก เห็นอวัยวะต่างๆ
มีพระอยู่รูปหนึ่งท่านพิจารณาโครงกระดูกอยู่ตลอดเวลา เวลาเห็นใครเดินผ่านมาจะเห็นแต่โครงกระดูก เวลามีคนมาถามว่าเห็นคนนั้นเดินผ่านมาไหม ท่านจะตอบว่าเห็นแต่โครงกระดูก ไม่สนใจว่าเป็นใคร เห็นแต่โครงกระดูก ท่านดูความจริง แต่พวกเราจะดูแต่สมมุติ จะดูว่าเป็นนาย ก. เป็นนาย ข. เป็นนายกฯ เป็นส.ส. เป็นรัฐมนตรีฯ ไม่เห็นโครงกระดูกกัน
ถ้าพิจารณาโครงกระดูกไปเรื่อยๆ ต่อไปจะเห็นแต่โครงกระดูก ใครมาก็จะเห็นว่าโครงกระดูกเดินมาแล้ว หรือเห็นเป็นซากศพเดินมา เป็นผีที่ยังไม่ตาย ผีมาจากไหน ซากศพมาจากไหน ถ้าไม่ได้มาจากร่างกายที่กำลังเดินกำลังนั่งอยู่นี้ เวลามีลมหายใจก็นั่งอยู่ด้วยกันได้ พอไม่มีลมหายใจแล้วก็ไม่อยากจะเข้าใกล้ ตอนกลางคืนยิ่งไม่อยากอยู่ใกล้ กลัวจะลุกขึ้นมา
จุลธรรมนำใจ ๒๗, กัณฑ์ที่ ๔๓๐      
วันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
#พระจุลนายก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
โฆษณา