28 ก.ค. 2021 เวลา 13:00 • สุขภาพ
สมมูนอธิบาย “ทำไมปัจจุบันนี้โควิด-19 มีหลายสายพันธุ์จัง!”
ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานและน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน มีการพูดถึงสายพันธุ์ใหม่ๆ เกือบทุกสัปดาห์ ข้อมูลข่าวสารละลานตาไปหมด ทำเอาหลายคนตื่นตระหนกได้ง่ายๆ
.
แต่สิ่งที่หลายคนอาจสงสัยเหมือนกันคือ “ทำไมถึงมีสายพันธุ์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลย!?!”
.
วันนี้สมมูนเลยอยากจะมาแบ่งปันความรู้แบบเข้าใจง่าย ว่าเหตุใดโควิด-19 จึงมีสายพันธุ์มากมายขนาดนี้ โดยการพาไปรู้จักการทำงานของไวรัส ทำไมถึงกลายพันธุ์ และทำไมสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ถึงระบาดรุนแรงกว่าเดิม
.
เราไปหาคำตอบกันดีกว่าว่าเป็นเพราะเหตุใด และเราจะหยุดการกลายพันธุ์นี้ได้อย่างไร
1
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าไวรัสทำงานอย่างไร
.
เป้าหมายของไวรัสคือการเพิ่มจำนวนไวรัสไปเรื่อยๆ เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ อย่างไรก็ตาม ไวรัสไม่สามารถขยายพันธุ์โดยการแบ่งเซลล์ (Cell Division) แบบสิ่งมีชีวิตได้ เพราะไวรัสไม่ถูกจัดว่าเป็นเซลล์ เนื่องจากไม่มีเยื่อหุ้มเซลล์
.
ดังนั้นไวรัสจึงต้องอาศัยเซลล์ของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ​ เพื่อขยายพันธุ์
.
การเพิ่มจำนวนของไวรัส (Viral Replication) เริ่มเมื่อไวรัสเข้าสู่ร่างกายและพยายามยึดเกาะกับผิวเซลล์ที่มีลักษณะจำเพาะเจาะจง หรือที่เราเรียกว่า Receptor เมื่อยึดเกาะได้แล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆ เพื่อ ‘ยึด’ ระบบการทำงานและเมตาบอลิซึม (Metabolism) ในเซลล์ของโฮสต์เพื่อใช้ในการสร้าง ร่างจำลองของตัวเองขึ้นมาเป็นจำนวนมาก
.
แต่ใครๆ ก็ทำพลาดบ้าง แม้กระทั่งไวรัส!
.
ในระหว่างขั้นตอนการเพิ่มจำนวนนี้เอง มีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดและการกลายพันธุ์ ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดสายพันธุ์ใหม่ๆ (Variants) นั่นเอง
จริงๆ แล้วการกลายพันธุ์ของไวรัสเกิดขึ้นแทบจะตลอดเวลา แต่ส่วนใหญ่ความผิดพลาดนี้ไม่ได้ทำให้ไวรัสต่างจากเดิมมากนัก หรือไม่ก็ทำให้ไวรัสอ่อนแอลงกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ เพราะการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เปลี่ยนโครงสร้างของโปรตีน (Protein Configuration)
.
เราเรียกการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนี้ว่า “Drift” โดยส่วนใหญ่แล้วภูมิคุ้มกันจะจดจำหน้าตาของเหล่าไวรัสนี้ได้อยู่ จึงทำหน้าที่ของมันต่อไปได้
แต่หลายๆ ครั้งการกลายพันธุ์ก็รุนแรง อย่างสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่ระบาดในตอนนี้!
.
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
.
เมื่อไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก (หรือที่เรียกว่าการ “Shift”) อาจทำให้การตรวจหาไวรัสด้วยเครื่องมือที่มีอยู่แล้วยากขึ้น หรือการรักษาที่มีอยู่อาจไม่ได้ผล เพราะหน้าตาของไวรัสนั้นแตกต่างไปจนภูมิคุ้มกันไม่ตอบสนอง
.
ด้วยเหตุนี้ คนที่เคยติดโควิดแล้วอาจติดซ้ำได้ และวัคซีนบางชนิดที่เคยทำงานได้ดี จึงมีประสิทธิภาพต่ำเมื่อเจอกับสายพันธุ์ใหม่บางสายพันธุ์
การกลายพันธุ์แล้วเปลี่ยนไปอย่างไร?
.
การกลายพันธุ์ หรือ Mutation สามารถทำให้ ‘ส่วนไหนก็ได้’ ของไวรัสเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่นักวิจัยกังวลที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงบริเวณ ‘หนามโปรตีน’ (Spike Proteins) เนื่องจากหนามเหล่านี้มีส่วนช่วยให้ไวรัสเกาะตัวและระบาดเข้าสู่เซลล์ของโฮสต์
.
ในบรรดา “สายพันธุ์ที่น่าเป็นห่วง” (Variant of Concern) อย่าง Alpha, Beta, Delta และ Gamma ล้วนมีการกลายพันธุ์บริเวณ ‘หนามโปรตีน’ ทั้งสิ้น
.
ด้วยเหตุนี้เอง สายพันธุ์เหล่านี้จึงมีการแพร่กระจายในอัตราที่สูงกว่า เพราะยิ่งหนามโปรตีนเกาะได้ดีเท่าไหร่ ยิ่งระบาดได้ดีเท่านั้น
.
.
สายพันธุ์ Delta ที่ระบาดหนักอยู่ในตอนนี้มีการกลายพันธุ์ที่จุด L452R เหมือนกับสายพันธุ์ Epsilon ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับตัวกับ ACE2 Receptors ของเซลล์ในมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เกิดการแพร่กระจายได้ง่าย หรือไม่ก็ที่จุด E484Q เหมือนในสายพันธุ์ Gamma ซึ่งมีคุณสมบัติในการแพร่เชื้อในกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกัน
เป็นเพราะโควิด-19 เป็นไวรัส RNA ด้วยไหมถึงกลายพันธุ์เก่ง?
.
เราสามารถแบ่งไวรัสตามประเภทกรดนิวคลีอิกได้สองประเภทคือ DNA และ RNA
.
ไวรัสชนิด DNA มีกลไกในการแก้ไขข้อผิดพลาด หากพบปัญหาระหว่างการขยายจำนวน (Replication) จะมีการเข้าไปซ่อมแซมให้ถูกต้อง ราวกับเป็นการพิสูจน์อักษรอย่างไรอย่างนั้น
.
ส่วนไวรัสชนิด RNA มักจะมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลาเพราะระบบ RNA-synthesizing ที่ใช้ในการคัดลอกจีโนมมักจะไม่มีกลไกในการแก้ข้อผิดพลาด ทำให้ไวรัส RNA กลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและหลบหลีกภูมิคุ้มกันของมนุษย์ได้เรื่อยๆ
.
ดังนั้นสำหรับโควิด-19 แล้ว การกลายพันธุ์ถือเป็นเรื่องปกติเพราะเป็นไวรัส RNA อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์พบว่าโควิด-19 มีเอนไซม์พิเศษในการแก้ไขข้อผิดพลาดคล้ายๆ กับไวรัส DNA ทำให้อัตราการกลายพันธุ์ยังไม่สูงมาก หากเทียบกับไวรัส RNA ตัวอื่นๆ
1
ไวรัสจะหยุดกลายพันธุ์เมื่อไร?
.
ตราบใดที่ยังมีการระบาด ไวรัสก็มีโอกาสเพิ่มจำนวนเรื่อยๆ ซึ่งเท่ากับว่า โอกาสในการกลายพันธุ์และพัฒนาเป็นสายพันธุ์ใหม่ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน แม้วัคซีนคุณภาพดีๆ ยังสามารถป้องกันสายพันธุ์ใหม่ได้อยู่ แต่ถ้าหากเราปล่อยให้ไวรัสมีโอกาสได้ขยายไปเรื่อยๆ เช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่า ในอนาคตจะเกิดสายพันธุ์ที่สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้อย่างสมบูรณ์
.
ดังนั้นกุญแจสำคัญในการหยุดการกลายพันธุ์คือการหยุดการระบาด
.
สถานการณ์จะทุเลาลงได้ก็ต่อเมื่อประชากรทุกคนบนโลกเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพ ประกอบกับความรับผิดชอบต่อสังคมที่หลายๆ คนปฏิบัติมาอย่างดีโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการล้างมือ สวมหน้ากาก และเว้นระยะห่าง
.
สามารถชมวิดีโอที่พูดถึงการลดการกลายพันธุ์ ฉบับสั้นๆ เข้าใจง่ายจากองค์กรอนามัยโลกได้ที่นี่ >> https://bit.ly/3zBmyMJ
.
สมมูนหวังว่าคนไทยทุกคนจะได้ฉีดวัคซีนมีคุณภาพเร็วๆ นี้ และระหว่างที่รอวัคซีนก็ดูแลตัวเองด้วยนะคร้าบ สมมูนเป็นห่วง
อ้างอิง:
.
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#society
#covid19
โฆษณา