28 ก.ค. 2021 เวลา 22:06 • ปรัชญา
“เดี๋ยวตายไปก็หมด”
ธรรมะรุ่งอรุณ ☀️
๒๙ กรกฏาคม ๒๕๖๔
ความอยากของใจเองที่ไปอยากกับสิ่งที่ไปดูไปเห็นไปรับรู้ เห็นไหม ดูฟุตบอล เป็นไง ถ้าไม่ไปสนใจดูเฉยๆ มันก็ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร มันก็ไม่มีตื่นเต้นอะไร แต่พอไปรู้นี่ทีมชาตินี้ทีมชาตินั้น เราก็อยากให้ทีมนี้ชนะทีมโน้น โอ้ย ทีนี้ใจมันตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว เร้าใจขึ้นมา แล้วพอแพ้ก็เสียใจไปกับเหตุ ซึมเศร้าไปเลยบางคนพอแพ้ขึ้นมา ถ้าชนะก็ฉลองกันทั้งคืนเลย นี่แหละคือใจ มันบ้า มันไม่รู้เรื่องว่ามันกำลังสร้างความสุขสร้างความทุกข์ให้กับตัวมันเอง ด้วยการไปเกิดมีความอยาก อยากแล้วมันก็ต้องตื่นเต้นล่ะ มันต้องคอยลุ้นแล้วว่าจะได้ดั่งใจอยากหรือเปล่า ถ้าอยากได้แฟน พอชอบคนนี้ ใจก็เต้นแล้วไง จะได้แฟนคนนี้หรือเปล่า ต้องไปคอยจีบ ไปคอยอะไร ใจก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ถ้าไม่มีความอยากได้แฟน ก็เฉยๆ ไม่เดือดร้อน เขาจะชอบเราหรือไม่ชอบเรา เราก็ไม่เดือดร้อนอะไร แต่พอมีความอยากได้เขามา อยากให้เขาชอบเรานี้ตื่นเต้นแล้วสิ ถ้าเขายิ้มให้เราหน่อยนี้ โหย ใจนี้ฟองฟูขึ้นไปเลย พอเขาไม่สนใจหน่อยนี้ โอ้ย ใจนี้ตกวูบลงไปเลย
นี่แหละคือใจของพวกเรา ที่เราขึ้นเราลงนี้ก็เพราะความหลงของเรา ความอยากของเรา พอได้ตามความอยากก็ดีใจ พอไม่ได้ดั่งใจอยากก็เสียใจเศร้าใจ นี่ความทุกข์มันไม่ได้อยู่ที่ร่างกาย ร่างกายแก่เจ็บตายนี้ ถ้าเรารู้มันไม่ได้เป็นเรา เราไม่มีความอยากให้มันไม่แก่ไม่เจ็บไม่ตายเราก็ไม่เดือดร้อน นี่เราเป็นเหมือนคนดูหนังดูร่างกายว่าเป็นเรา ความจริงร่างกายเป็นเหมือนตัวแสดงในภาพยนตร์ แล้วเราไปเชียร์มันว่าเป็นเรา ก็เลยอยากให้มันดีอยากให้มันเก่ง อยากให้มันได้อะไรอย่างที่เราอยากได้ พอมันได้เราก็ดีใจกับมัน พอมันไม่ได้ก็เสียใจไปกับมัน แต่ถ้ารู้ทันมันว่าเป็นภาพยนตร์ เดี๋ยวก็จบ เดี๋ยวหนังก็จบ จะได้มากได้น้อย จะเสียมากเสียน้อย เดี๋ยวตายไปก็หมด ลบทิ้งหมด ร่างกายชีวิตเรานี้ พอตายไปก็เอายางลบมาลบชีวิตของเราประวัติของเรา ตั้งแต่วันเกิดขึ้นมาจนถึงวันตายนี้ ลบทิ้งไปหมด เหลืออยู่แต่ในความทรงจำเท่านั้น
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
#พระจุลนายก พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
โฆษณา