ทำไมนาโอมิ โอซากะ นักกีฬาที่คนญี่ปุ่นเอง ก็ไม่ได้ปลื้มเท่าไหร่ กลับถูกเลือกเป็นคนจุดคบเพลิงในโอลิมปิก ที่โตเกียว วิเคราะห์บอลจริงจังจะเล่าให้ฟัง
ไฮไลท์ท้ายที่สุดของพิธีเปิดโอลิมปิกที่ทุกคนรอคอย คือการจุดคบเพลิง
การจุดคบเพลิงนั้นจะถูกโฟกัสสองเรื่องคือ จุดด้วยวิธีไหน และจุดโดยใคร แต่คำถามแรกคือจุดด้วยวิธีไหน คนไม่ค่อยคาดหวังมาก เพราะโอลิมปิกครั้งนี้ที่โตเกียว มีงบเหลือจำกัดมาก ดังนั้นมันก็คงมาแบบเรียบง่ายนั่นแหละ
ซึ่งสุดท้ายก็เป็นแบบนั้นจริงๆ แต่มีการใส่กิมมิคเล็กๆ ว่าใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนในการจุด เข้ากับกระแสการรณรงค์ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นการแสดงให้เห็นว่าญี่ปุ่นมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมโลก
คำถามที่น่าสนใจมากกว่าคือ "จุดโดยใคร" โดยคนที่ทำหน้าที่จุดคบเพลิงมันมีความสำคัญตรงที่ จะเป็นคนที่ชาติเจ้าภาพต้องการให้เป็นตัวแทนของประเทศ เพื่อสื่อสารอะไรบางอย่างออกไปเสมอ
ในปี 2000 ซิดนีย์เกมส์ ที่ออสเตรเลีย คนที่ได้จุดคบเพลิงคือ เคธี่ ฟรีแมน นักวิ่งที่เป็นออสเตรเลียนเชื้อสายอะบอริจิน การที่เลือกฟรีแมนเป็นการบ่งบอกว่า ชาวอะบอริจิน ก็มีศักดิ์ศรีเทียบเท่ากับคนขาวนั่นแหละ ไม่มีการกีดกันเชื้อชาติใดๆ ทั้งนั้น
หรือในปี 2016 ริโอเกมส์ ที่บราซิล คนที่ได้จุดคบเพลิงคือ วันเดอร์เลย์ เดอ ลิม่า นักวิ่งมาราธอน ที่ได้แค่เหรียญทองแดงเท่านั้น คือผลงานในสนามของเดอ ลิม่า อาจจะไม่ไปถึงเหรียญทองก็จริง แต่เขาเป็นคนที่ชาวบราซิลศรัทธา กล่าวคือในโอลิมปิกที่เอเธนส์ปี 2004 เดอ ลิม่า วิ่งนำเดี่ยวกำลังจะเข้าเส้นชัยในอีกไม่กี่กิโลเมตร แต่โดนคนบ้า บาทหลวง นีล โฮแรน ผลักกลิ้งลงข้างทางเฉยเลย
พอเดอ ลิม่า ลุกขึ้นมาก็แทบจะไม่เหลือพลังแล้ว จนโดนแซงไป 2 คน แต่เขายังกัดฟันวิ่งจนจบอันดับ 3 ได้เหรียญทองแดง ซึ่งการที่ผู้จัดเลือก เดอ ลิม่ามาจุดคบเพลิง เพื่อสื่อถึงสัญลักษณ์ว่า ชาวบราซิลจะไม่ยอมแพ้ต่อวิกฤติใดๆที่เข้ามา แต่จะต่อสู้ไปให้ถึงเป้าหมายให้ได้เสมอ
ดังนั้นในโอลิมปิกที่โตเกียวครั้งนี้ ทุกคนจึงจับตามองว่าโอเค แล้วญี่ปุ่นจะเลือกใครเป็นคนจุดคบเพลิงกันแน่ และ "Message" ที่ต้องการจะบอก คืออะไร
คบเพลิงเริ่มต้นจาก ซาดาฮารุ โอ, ชิเกโอะ นากาชิมะ และ ฮิเดกิ มัทสึอิ สามนักเบสบอลคนดัง ในกีฬาที่คนญี่ปุ่นนิยมที่สุด ก่อนจะถูกส่งต่อให้ คุณหมอฮิโรโกะ โอฮาชิ และ พยาบาลจุนโกะ คิตากาวะ วิ่งต่ออีกราวๆ 100 เมตร โดยทั้งแพทย์และพยาบาล เป็นสัญลักษณ์ของผู้ต่อสู้กับโควิด-19 ถ้าการระบาดไม่ทุเลาลง การแข่งโอลิมปิกก็คงเกิดไม่ได้
คุณหมอและพยาบาล ส่งคบเพลิงต่อให้วาคาโกะ สึชิดะ นักกีฬาพาราลิมปิก โดยใช้วีลแชร์ขยับเลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ ก่อนส่งต่อให้เด็กนักเรียน 6 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุสึนามิเมื่อปี 2011 เป็นหลักฐานว่าคนที่เคยเจอความลำบากขนาดนั้น วันหนึ่งก็เอาตัวรอดมาได้ ดังนั้นเจอวิกฤติโควิดที่เป็นอยู่ตอนนี้ เดี๋ยวเด็กๆทุกคนก็ผ่านไปได้เหมือนกัน
และคบเพลิงไม้สุดท้าย ถูกส่งต่อให้ นาโอมิ โอซากะ นักเทนนิสเจ้าของแกรนด์แสลม 4 รายการ และลงแข่งขันในโอลิมปิกครั้งนี้ ในฐานะนักกีฬาจากญี่ปุ่น
ชอยส์โอซากะนั้น ถ้ามองในสายตาคนทั่วๆไป ก็เข้าใจได้ เพราะ ณ เวลานี้ เธอคือนักกีฬาชาวญี่ปุ่นที่โด่งดังที่สุดในโลก แน่นอนล่ะว่าใช้คนดังๆ ก็ย่อมดีกว่าไม่ดัง
แต่ถ้ามองในสายตาของคนญี่ปุ่น นี่เป็นชอยส์ที่น่าประหลาดใจเหมือนกัน
ข้อแรกคือ โอซากะ ไม่ใช่โอลิมเปี้ยน เธอไม่เคยลงแข่งขันโอลิมปิกมาก่อน ในอดีตประเทศอื่นๆ จะเลือกนักกีฬาระดับตำนานที่เลิกเล่นไปแล้ว แต่ในคราวนี้ญี่ปุ่นเลือกเธอ ที่ยังเล่นอยู่ และยังอยู่ในจุดพีกของอาชีพด้วย
ข้อสองคือ โอซากะเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-เฮติ เธอฟังญี่ปุ่นรู้เรื่อง แต่ไม่ชอบพูด เวลามีนักข่าวถามเป็นภาษาญี่ปุ่น เธอจะตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษ คือไม่ได้ Priority ความเป็นญี่ปุ่นขนาดนั้น
สำหรับประเทศที่ชาตินิยมมากๆ อย่างญี่ปุ่น การยอมให้ลูกครึ่ง ที่พูดอังกฤษคำ ญี่ปุ่นคำ มารับหน้าที่สำคัญที่สุด ก็น่าแปลกใจพอตัว
ข้อสามคือ เธอเป็นผู้หญิง ในประวัติศาสตร์ของโอลิมปิกฤดูร้อน มีแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ที่เจ้าภาพเลือกผู้หญิงเป็นคนจุดคบเพลิงแบบเดี่ยวๆ ญี่ปุ่นแม้จะยอมรับความแตกต่างทางเพศมากขึ้น แต่ค่านิยมชายเป็นใหญ่ก็ยังมีอยู่ ดังนั้นการเลือกโอซากะ จึงเป็นการแหวกกระแสอนุรักษนิยมได้อย่างดีมากๆ
สรุปแล้ว หากให้วิเคราะห์ เหตุผลที่ญี่ปุ่นเลือกโอซากะ ก็เพื่อ 1- เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ เพราะโอซากะเป็นสัญลักษณ์ของคนในเจเนเรชั่นนี้ ที่กล้าคิดกล้าทำ กล้าถาม บ่งบอกว่าญี่ปุ่นเตรียมพร้อมออกไปจากกรอบเดิมๆแล้ว
2- บ่งบอกว่า จากนี้ไปญี่ปุ่นเอง จะยอมรับความหลากหลายมากขึ้น เข้าใจคำว่าพลเมืองโลกมากขึ้น ลดความชาตินิยมลง ยอมรับความแตกต่างทุกๆด้าน รวมถึงให้ความเท่าเทียมทางเพศด้วย
แนวทางที่ญี่ปุ่นคิดจะเดินไป ก็จะเป็นแนวทางที่สังคมโลกควรจะเป็นด้วย นี่คือสาส์น ที่ถูกส่งไปจากการเลือกนาโอมิ โอซากะครั้งนี้ การคิดคำนวณทุกอย่างถูกกลั่นกรองมาเป็นอย่างดีแล้วจริงๆ
#OSAKA
- 27
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
