2 ส.ค. 2021 เวลา 03:30 • ธุรกิจ
กรณีศึกษา บ้านบูรณ์ การสร้างแบรนด์ให้ไม้กวาด จาก “ของที่ถูกซ่อน” สู่ “ของที่อยากโชว์”
ถ้าไม้กวาดคู่ใจของแฮร์รี่ พอตเตอร์ คือ ไม้กวาดไฟร์โบลต์
ไม้กวาดคู่บ้านของคนไทย ก็คงหนีไม่พ้น ไม้กวาดดอกหญ้า
3
เรียกได้ว่าไม้กวาดดอกหญ้า อยู่คู่กับคนไทยเรามาอย่างยาวนาน มีใช้กันเกือบทุกบ้าน
 
แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีไม้กวาดอีกประเภทที่น่าสนใจไม่แพ้กัน อย่าง ไม้กวาดข้าวฟ่าง ที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นชิน แต่สำหรับคนญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา หรือในยุโรป กลับใช้กันในชีวิตประจำวัน และยังใช้ไม้กวาดข้าวฟ่างตกแต่งบ้านได้อีกด้วย
 
ซึ่งแบรนด์ บ้านบูรณ์ ก็อยากจะนำเสนอคุณค่านี้ให้คนไทยได้รับรู้
 
และเปลี่ยนภาพจำของไม้กวาดรูปแบบเดิม ๆ อุปกรณ์ทำความสะอาดประจำบ้านที่เราเห็นกันชินตา จนนึกไม่ออกว่ามันจะเปลี่ยนไปได้อย่างไร ให้กลายเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่ม
เรื่องราวของ บ้านบูรณ์ น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
บ้านบูรณ์ คือ แบรนด์แปรงและไม้กวาดข้าวฟ่างสไตล์ญี่ปุ่นคุณภาพเยี่ยม ของครอบครัววิวัฒนานุกูล ที่แม้จะเป็นแบรนด์ไม้กวาดน้องใหม่ เกิดขึ้นมาเพียง 2 ปีเท่านั้น แต่ด้วยประสบการณ์ผลิตไม้กวาดและแปรงปัดฝุ่น ส่งขายต่างประเทศมากว่า 35 ปี ทำให้เราไม่สามารถมองข้ามแบรนด์นี้ไปได้เลย
โดยบ้านบูรณ์ ได้ต่อยอดมาจากแบรนด์ของคุณพ่อสมบูรณ์ วิวัฒนานุกูล อย่าง สมบูรณ์ผล คราฟท์ ผู้ผลิตไม้กวาดและแปรงข้าวฟ่างส่งออกไปกว่า 12 ประเทศทั่วโลก ที่มีรางวัล Seal of Excellence for Handicrafts จาก UNESCO และ AHPADA เป็นเครื่องการันตีคุณภาพอีกด้วย
 
ย้อนกลับไปในปี 2529 หรือเมื่อ 35 ปีก่อน ในขณะนั้นคุณพ่อสมบูรณ์ได้ลองผิดลองถูกทำธุรกิจมาหลายประเภท
จนกระทั่งผู้ผลิตไม้กวาดชาวไต้หวัน ได้ชักชวนให้ลองปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าวฟ่างสำหรับใช้ถักไม้กวาด เนื่องจากค่าแรงในไต้หวันเริ่มสูงขึ้น ผู้ผลิตไม้กวาดจึงอยากย้ายฐานการผลิตมาที่ประเทศไทยแทน
คุณพ่อสมบูรณ์จึงเริ่มต้นจากการช่วยหาวัตถุดิบ หาแรงงานปลูกหญ้าข้าวฟ่างในภาคเหนือ ลองมัดไส้ มัดไม้กวาดแบบง่าย ๆ ทีละขั้นตอน จนพัฒนากลายมาเป็นไม้กวาดที่ซับซ้อนมากขึ้นอย่างในทุกวันนี้
ซึ่งคุณตูน บูรณิตา วิวัฒนานุกูล ทายาทรุ่นที่สองของสมบูรณ์ผล คราฟท์ ได้เปิดเผยว่าธุรกิจของพวกเขาเน้นการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศแทบจะ 100%
โดยมีตลาดหลัก คือ ประเทศญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, สวีเดน และประเทศอื่น ๆ ที่เคยส่งออก เช่น ไต้หวัน, สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, อิตาลี, สวิตเซอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และออสเตรเลีย
จึงทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กำลังการผลิตที่มีอยู่ไม่เพียงพอสำหรับจำหน่ายในประเทศไทย
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังไปได้สวย แต่ด้วยสถานการณ์โควิด 19 ที่เกิดขึ้น
กลับทำให้การส่งออกชะลอตัว รวมถึงคุณตูนและครอบครัวก็ไม่สามารถบินไปดูงานที่เชียงรายได้
แต่คุณตูนก็ใช้จังหวะช่วงเวลานี้ โดยพลิกวิกฤติมาเป็นโอกาส หันมาโฟกัสตลาดในประเทศเหมือนอย่างที่คุณพ่อสมบูรณ์ตั้งใจมานาน
เนื่องจากปกติที่ตารางการผลิตไม้กวาดจะค่อนข้างแน่น แต่ด้วยสถานการณ์ที่ประเทศคู่ค้าต่างได้รับผลกระทบจากโรคระบาด ออร์เดอร์ต่างประเทศลดลง ทำให้มีช่องว่างในการผลิตสินค้าสำหรับขายในประเทศเพิ่มเติมได้
และทั้งหมดนี้จึงกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ บ้านบูรณ์ ภายใต้การดูแลของคุณตูนนั่นเอง
แล้วแบรนด์บ้านบูรณ์แตกต่างจากแบรนด์สมบูรณ์ผล คราฟท์อย่างไร ?
สมบูรณ์ผล คราฟท์ จะเน้นตลาดต่างประเทศ ในขณะที่บ้านบูรณ์ เป็นแบรนด์สำหรับตลาดในประเทศไทยโดยเฉพาะ ทั้งลูกค้าคนไทยและลูกค้าชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย
ซึ่งชื่อแบรนด์ “บ้านบูรณ์” ก็สอดคล้องมาจากชื่อของคุณพ่อสมบูรณ์ กับลูก ๆ ทั้ง 3 คน ได้แก่ คุณบูรณิตา, คุณบูรณ์เมตต์ และคุณบูรณา ประกอบกับลักษณะการทำงานที่เหมือนครอบครัวกับพี่น้องพนักงาน นอกเหนือจากนั้น โลโกแบรนด์ก็มาจากลายมือคุณพ่อสมบูรณ์อีกด้วย
ที่น่าสนใจ คือ จุดเด่นของบ้านบูรณ์ในตลาดประเทศไทย นอกจากการนำหญ้าข้าวฟ่างมาใช้ผลิตไม้กวาด ที่ถือว่าค่อนข้างแปลกใหม่แล้ว
บ้านบูรณ์ยังอยากลบภาพจำเดิม ๆ ที่หลายคนมองว่า ไม้กวาดเป็นของสกปรกที่ต้องเอาไปหลบซ่อนในตู้ ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปประดับตกแต่งบ้านได้
1
ดังนั้นแบรนด์จึงได้เน้นไปที่คุณภาพการผลิต ทั้งการออกแบบ การถักลวดลาย การเล่นกับสีสัน รวมไปถึงการมัดต่าง ๆ ผลิตไม้กวาดที่นอกจากมีดีไซน์ดึงดูด คนเห็นแล้วอยากจะใช้ แต่เป็นไม้กวาดที่ใช้ได้จริง และใช้ได้นานอีกด้วย
โดยแรกเริ่มบ้านบูรณ์ได้จำหน่ายสินค้าเพียงช่องทางอินสตาแกรม baanboon.brooms และหน้าร้าน Woot Woot Store ที่ Warehouse 30 เท่านั้น
แต่ผลปรากฏว่า ได้รับเสียงตอบรับที่ดีเกินคาด สินค้าขายหมดอย่างรวดเร็ว และหลาย ๆ สถานที่ โดยเฉพาะร้านอาหาร ร้านขายต้นไม้ และร้านตัดผม ก็นำสินค้าจากบ้านบูรณ์ไปใช้ประดับตกแต่งกัน
ส่งผลให้บ้านบูรณ์มีช่องทางขายสินค้ามากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งช่องทางออฟไลน์และช่องทางออนไลน์
ซึ่งช่องทางออฟไลน์มีวางจำหน่ายอยู่ 15 แห่ง โดยจะอยู่ในร้านค้าประเภท คอนเซปต์สโตร์, ร้านขายของดีไซน์ และร้านขายผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ในกรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่
ส่วนช่องทางออนไลน์ ได้แก่ ไลน์ อินสตาแกรม และเว็บไซต์ของแบรนด์
3
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ แม้ว่าตัวแบรนด์บ้านบูรณ์เพิ่งจะมีอายุเพียง 2 ปี แต่กลับมีฐานลูกค้าที่มีการซื้อซ้ำสูงพอสมควร
โดยคุณตูนมองว่าไม่อยากให้บ้านบูรณ์เป็นเพียงกระแสที่มาไวไปไว จึงไม่ได้เน้นเพียงแค่กลุ่มลูกค้าใหม่ แต่อยากให้ความสำคัญกับลูกค้าที่ผูกพันกับแบรนด์ อยากให้พวกเขาได้มีตัวเลือกสินค้าใหม่ ๆ จากบ้านบูรณ์ต่อไปเรื่อย ๆ จึงคอยสังเกตทิศทางของลูกค้า กระแสตอบรับและความต้องการของตลาดภาพรวม แล้วนำมาปรับใช้กับบ้านบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตคุณตูนอยากจะผลักดันแบรนด์บ้านบูรณ์ และเพิ่มกำลังผลิตให้มากขึ้น
เนื่องจากสถานการณ์การส่งออกของสมบูรณ์ผล คราฟท์กลับมาในมุมปกติมากขึ้น ทำให้หาเวลาในการแทรกการผลิตสินค้าสำหรับบ้านบูรณ์ได้ยาก คุณตูนจึงต้องพยายามสร้างสมดุลการผลิตให้สินค้าของบ้านบูรณ์และสมบูรณ์ผล คราฟท์ แต่ยังคงคุณภาพของทั้งสองแบรนด์เท่ากับสินค้าส่งออก
มากไปกว่านั้น คุณตูนยังมีอีกหนึ่งเป้าหมายในอนาคต คือ การนำวัสดุจากหญ้าข้าวฟ่างมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ได้จำกัดเฉพาะไม้กวาดเท่านั้น
ทั้งหมดนี้ ก็คือเรื่องราวของธุรกิจไม้กวาดที่แม้จะเป็นสินค้าที่มีทั่วไปอยู่แล้วในตลาด
แต่บ้านบูรณ์ ก็สามารถพัฒนาของใช้ใกล้ตัว ที่หลายคนมองข้ามให้เป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
ที่นอกจากจะขายดีในประเทศไทยแล้ว ธุรกิจไม้กวาดของครอบครัว ก็ยังได้ไปไกลถึงตลาดต่างประเทศอีกด้วย..
References:
-สัมภาษณ์ตรงกับคุณตูน บูรณิตา วิวัฒนานุกูล ผู้ก่อตั้งแบรนด์บ้านบูรณ์
IG : baanboon.brooms
1
โฆษณา