31 ก.ค. 2021 เวลา 00:06 • กีฬา
การไล่ออกที่ไม่มีทางเลือกอื่น วิเคราะห์ #นิชิโนะเอาต์
ตั้งแต่ทีมชาติไทยตกรอบฟุตบอลโลก ผมประกาศตัวชัดเจนว่า อยู่ทีม #นิชิโนะเอาต์ ดังนั้นเมื่อสมาคมฯ ประกาศแยกทางกับนิชิโนะเมื่อวานนี้ ผมก็ได้แต่รู้สึกว่า สมควรแล้วที่จะเป็นแบบนั้น
ผมไม่ได้เกลียดนิชิโนะเป็นการส่วนตัว แต่เรามองที่ผลงานเป็นหลัก ในเมื่อเป้าหมายแรกสุดที่วางไว้ คือพาทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลกเท่าของเดิม แต่เขาไม่สามารถทำได้ ชนิดที่ไม่ใกล้เคียงเลย ทุกอย่างก็ต้องจบแค่นี้
สิ่งที่สมาคมฯ ตั้งบรรทัดฐานเอาไว้ คือถ้าใครผลงานไม่ดีต้องโดนปลด ในเมื่อคุณเคยบีบซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองให้ออกจากตำแหน่งได้ ในวันนี้ถ้าไม่ไล่นิชิโนะที่ผลงานแย่กว่าออกจากตำแหน่ง มันก็จะแสดงให้เห็นว่า คุณเลือกที่รักมักที่ชัง จริงไหม
5
ดังนั้นสมาคมฯ ไม่มีทางอื่น นอกเหนือจากไล่นิชิโนะออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงจุดยืนของตัวเอง ว่าใครผลงานไม่ดีก็ไล่ออกหมดนั่นแหละ
3
ณ เวลานี้ ในโลกออนไลน์ มีการดีเบทกันระหว่าง 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ #นิชิโนะเอาต์ กับอีกกลุ่มคือ คนที่มองว่าจะไล่นิชิโนะทำไมล่ะ ให้เขาอยู่วางระบบทีมชาติไทยดีกว่า ลองต่อในทัวร์นาเมนต์หน้าไม่ดีกว่าหรือ เปลี่ยนโค้ชบ่อยๆไม่ดีหรอก แบบนี้ถ้าใครมาคุมแล้วไม่ชนะ ก็ต้องโดนไล่ออก เราจะมีคนที่เข้าใจในระบบทีมได้อย่างไร
3
เรื่องนี้ ผมอยากให้เข้าใจบทบาทของตำแหน่งก่อนนะครับ
2
ในฟุตบอลระดับชาติ จะมี 2 ตำแหน่งที่มีความสำคัญมากๆ กับสมาคมฟุตบอลของแต่ละประเทศ นั่นคือ 1) เฮดโค้ชทีมชาติชุดใหญ่ และ 2) ประธานเทคนิค
2
หน้าที่ของเฮดโค้ชคือ ประกาศรายชื่อนักเตะลงแข่งขันในรายการต่างๆ นำทีมลงซ้อม วางแผน วางแท็กติก โดยมุมมองของสมาคมฟุตบอลใดๆ ที่มีต่อเฮดโค้ชคือ "Hire to win" หรือจ้างมาเพื่อให้เอาชนะ
1
หน้าที่ของเฮดโค้ชคือต้องพาทีมชนะ ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ให้ได้ ถ้าไปถึงไม่ได้ก็คือล้มเหลว
1
ส่วนอีกหนึ่งตำแหน่งคือประธานเทคนิค หน้าที่คือวางโครงสร้างในระยะยาว วางระบบว่าจะให้ทีมชาติแต่ละชุดเล่นแผนเดียวกันไหม จะได้เชื่อมต่อกันได้ง่าย
1
ประธานเทคนิคจะดูศักยภาพของผู้เล่นทีมชาติว่าเหมาะกับแผนไหน แล้วเป็นคนตัดสินใจจ้างโค้ชแต่ละชุดอีกที
2
ย้อนกลับไปในตอนที่ ไทยแพ้ญี่ปุ่น 4-0 แล้วพล.ต.อ.สมยศ บีบให้เฮดโค้ช ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ณ เวลานั้น ลาออกจากตำแหน่ง ส่งผลให้ประธานเทคนิคของสมาคมฯ คือโค้ชเฮง-วิทยา เลาหกุล ซึ่งก็ต้องทำหน้าที่เลือกโค้ชคนใหม่มาแทนที่
3
คำถามคือ แล้วใครจะมาแทนซิโก้ล่ะ? ณ เวลานั้นมีโค้ชมากมายยื่นใบสมัครเข้ามาให้พิจารณา แม้แต่อเลฮันโดร ซาเบย่า อดีตโค้ชทีมชาติอาร์เจนติน่าชุดรองแชมป์โลกปี 2014 ก็ยังเป็นหนึ่งในแคนดิเดทด้วย
2
โค้ชเฮง ร่วมกับทีมงานของสมาคม พิจารณาแล้วว่า ยุคซิโก้ ทีมชาติไทยมีเกมรุกยอดเยี่ยมก็จริง แต่มีปัญหาเกมรับหลวม ดังนั้นคนที่เข้ามาแทน ก็น่าจะมีศาสตร์เกมรับแข็งๆ หน่อย จะได้กลบจุดอ่อนตรงนี้ได้
นั่นทำให้สมาคมฯ จ้างมิโลวาน ราเยวัชเข้ามา และทีมชาติไทยในยุคของเขาก็เกมรับแน่นขึ้นจริงๆ เพียงแต่จุดเด่นที่หายไปคือเกมรุกที่สวยงาม
1
ราเยวัชถูกจ้างมา ไม่ได้เพื่อวางระบบใดๆทั้งสิ้น แต่เขาถูก Hire to Win จ้างมาให้ชนะ แต่สุดท้าย ราเยวัชก็ไม่สามารถทำได้ ทีมชาติไทยยุคของเขาตกรอบรองชนะเลิศซูซูกิ คัพ ตามด้วยไปเอเชียน คัพที่ยูเออี แล้วประเดิมเกมแรกด้วยการแพ้ อินเดีย 4-1
ดังนั้นมันก็ชัดเจนว่า คุณต้องโดนไล่ออก อย่างที่บอกไว้ว่าสมาคมวางบรรทัดฐาน มาตั้งแต่ซิโก้แล้ว เมื่อราเยวัชทำไปถึงเป้าหมายไม่ได้ก็ต้องโดนเด้ง มันเรียบง่ายมากอยู่แล้ว และเมื่อราเยวัชโดนไล่ออกไป ทีมชาติไทยแต่งตั้ง ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย คุมทัพเป็นการชั่วคราว
2
หลังจบเอเชียนคัพ 2019 โค้ชเฮงอำลาตำแหน่งประธานเทคนิค ทำให้สมาคมต้องหาใครสักคนเข้ามาเติมเต็มตำแหน่งนี้ และสุดท้ายก็ไปได้ตัว การ์เลส โรมาโกซ่า อดีตโค้ชเยาวชน ที่มีประสบการณ์ทั้งกับบาร์เซโลน่า และปารีส แซงต์ แชร์กแมงมารับตำแหน่งนี้
3
หน้าที่ของโรมาโกซ่าคือ "วางระบบ" โดยเอาไอเดียสมัยที่เขาอยู่บาร์ซ่า และเปแอสเช มาวางโครงสร้างให้ทีมชาติไทยทุกชุด เพื่อที่จะได้ป้อนนักเตะคุณภาพจากรุ่นสู่รุ่นได้โดยไม่ขาดตอน นอกจากนั้นหน้าที่ของโรมาโกซ่าคือเลือกเฮดโค้ชคนใหม่แทนที่ราเยวัชที่โดนไล่ออกด้วย
2
ในการเลือกโค้ชคนใหม่ โรมาโกซ่ามี 2 ทาง ทางแรกคือเอาโค้ชหนุ่ม ที่ดูเหมาะกับการปลุกปั้นเยาวชน หรืออีกทางคือเอาโค้ชเก๋าๆ แบบโพรไฟล์ดีๆไปเลย ซึ่งสุดท้ายโรมาโกซ่าเลือกเส้นทางหลัง เขาจึงไปคว้าตัวอากิระ นิชิโนะ มาเป็นเฮดโค้ชทีมชาติ
2
นิชิโนะ มีประสบการณ์เชี่ยวชาญฟุตบอลเอเชีย ดังนั้นก็ดูเป็นชอยส์ที่เหมาะ ถ้าเราอยากจะประสบความสำเร็จให้สูงขึ้นกว่านี้ ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก เพราะต้องมาชนกับทีมเอเชียแกร่งๆทั้งนั้น นิชิโนะน่าจะมีกลยุทธ์ที่ดีในการรับมือ
1
ในมุมของสมาคมจึงตั้งบาร์ขั้นต่ำเอาไว้ว่า เป้าหมายแย่ที่สุดที่พอรับได้ในการคุมทีมของนิชิโนะ คือเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก คือถ้ามองว่าทีมชาติไทยอยู่กลุ่มเดียวกับเพื่อนร่วมอาเซียน เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย มันก็น่าจะมีเหลี่ยมให้เราเข้ารอบได้อยู่นะ
ข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ ในเดือนกรกฎาคมปี 2019 ตอนที่จ้างนิชิโนะ เขามีอายุ "64 ปี" แล้ว คือไม่ใช่อายุที่จะยืนหยัดคุมทีมไปนานๆ หรอก อีกไม่กี่ปีนิชิโนะก็รีไทร์แล้ว
2
ดังนั้นเหตุผลที่จ้างนิชิโนะมีอย่างเดียวคือ Hire to Win จ่ายมาเพื่อพาเราชนะในรายการต่างๆ แค่นั้น สมาคมจึงยอมเปย์ด้วยค่าจ้าง 33 ล้านบาทต่อปี ซึ่งก็ถือว่าสูงมหาศาล
4
นิชิโนะขอรับงานควบ คุมทั้งทีมชาติชุดใหญ่ และชุด U-23 ซึ่งสรุปผลงานของเขามีดังนี้
- ซีเกมส์ 2019 ขนนักเตะมีชื่อเสียงไปหลายคน เช่น ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ศุภชัย ใจเด็ด และสุภโชค สารชาติ แต่สุดท้าย ทีมชาติไทยตกรอบแรก
1
- U-23 ชิงแชมป์เอเชีย ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ถ้าหากเราเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ เราจะมีโอกาสได้เข้าแข่งขันโอลิมปิกที่โตเกียว แต่นิชิโนะก็พาทีมไปไกลได้แค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อพ่ายแพ้ซาอุดิอาระเบียไปคาบ้าน
ไม่ไปถึงเป้าหมาย 2 รายการ แต่นั่นคือ U-23 มันก็ยังพออ้างได้ว่าไม่ใช่ภารกิจหลักของเขา คือถ้าหากนิชิโนะทำผลงานกับทีมชุดใหญ่ได้ดี ก็จะเป็นการชดเชยกันไป แต่สุดท้ายก็อย่างที่เราทราบ ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 3 นัดสุดท้าย ไทยเสมออินโดนีเซีย ทีมที่ใครๆก็ชนะขาดลอย ด้วยสกอร์ 2-2
1
ตามด้วยแพ้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และแพ้มาเลเซีย จบด้วยการเป็นรองบ๊วยของกลุ่ม ทั้งๆ ที่ในกลุ่มของเรา มีแต่ชาติอาเซียนเต็มไปหมด เรากลับไม่สามารถผ่านเข้ารอบได้
ดังนั้นเมื่อผลงานมันเป็นแบบนี้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปกป้องเขาอีก ผมจำได้เลยว่าผมเขียนบทความชื่อ "ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน" หลังเกมแพ้ยูเออี เพราะในเมื่อคุณถูก Hire to Win แต่กลับไม่สามารถเอาชนะได้ มันก็ต้องโดนไล่ออกสิ ถูกต้องที่สุดแล้ว คือถ้าไม่เด้ง ผมจะผิดหวังในสมาคมฯ ยิ่งกว่านี้อีก
4
อยากให้เข้าใจตรงนี้ว่านิชิโนะ "ไม่ใช่" คนวางระบบของฟุตบอลไทย นั่นมันคือหน้าที่ของกามาโรซ่า หน้าที่ของนิชิโนะคือพาทีมผ่านเข้ารอบ และเมื่อเขาทำไม่ได้ ไม่ผ่าน KPI ทุกอย่างก็ต้องจบแค่นี้
สำหรับคนที่เชียร์ให้นิชิโนะอยู่ต่อ ยาวๆ หลายปีไปเลย จะได้วางระบบได้ ผมอยากย้ำว่า นิชิโนะปัจจุบันอายุ 66 ปีแล้วนะครับ เขาจะยืนหยัดคุมทีมได้อีกกี่ปี ซึ่งด้วยอายุขนาดนี้ ไม่ใช่คนที่พร้อมจะวางรากฐานอะไรแน่ๆ อีกแป้บเดียวเขาก็รีไทร์แล้ว
1
อยากบอกว่า เรื่องการปลดโค้ช เป็นเรื่องปกติมากๆ ในเวทีทีมชาติ ถ้าคุณถึงเป้าหมายก็ได้อยู่ต่อ หรือถ้าคุณคุมทีมแล้วมีทรงสวยมากๆ เห็นอนาคตใสๆ แบบนี้ก็มีโอกาสได้อยู่ต่อเหมือนกัน
3
ยกตัวอย่างอังกฤษ ของแกเร็ธ เซาธ์เกต ทัวร์นาเมนต์แรกของเขาคือฟุตบอลโลก 2018 โอเค ทีมชุดนั้นของเซาธ์เกตอาจจะเล่นไม่ค่อยสวย เน้นแต่ลูกเซ็ตพีซ แต่ในเมื่ออังกฤษไปถึงเป้าหมายคือรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก เขาก็เลยได้โอกาสอยู่ต่อ
หรือโยอาคิม เลิฟ เขาทำทีมชาติเยอรมันตกรอบรองชนะเลิศ 2 ทัวร์นาเมนต์ติดกัน (ฟุตบอลโลก 2010 และ ยูโร 2012) แต่ทีมของเลิฟ มีทรง มีทิศทาง ก็ได้โอกาสให้คุมทีมต่อ ก่อนจะได้แชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2014
2
แต่กับนิชิโนะ ความสำเร็จก็ไม่มี ทรงบอลก็ไม่ได้มีเอกลักษณ์เป็นชิ้นเป็นอัน ดังนั้นเมื่อตกรอบทุกสิ่งทุกอย่าง จะไปมีเหตุผลอะไรที่ต้องเก็บเขาไว้ล่ะ
โค้ชเก่งๆ ไทย และเทศ ที่ว่างงานมีเยอะแยะ ถ้าเราไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไงว่าเวิร์กหรือเปล่า แต่กับนิชิโนะเราเห็นๆอยู่ว่าเขาพาทีมประสบความสำเร็จไม่ได้ จะให้ยึดเก้าอี้ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
สำหรับสเต็ปต่อไปของเฮดโค้ชทีมชาติ ก็จะเป็นโรมาโกซ่าที่ทำหน้าที่เลือกเช่นเคย ว่าใครจะสมควรจะเป็นโค้ชทีมชาติไทยในสถานการณ์นี้ โดยจะคำนึงจากตัวผู้เล่นที่มี ว่าเหมาะกับโค้ชสไตล์ไหน และกระบวนการ ก็จะเริ่ม Recruit โค้ชคนใหม่ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป
1
ผมถามสมาคมฯ ว่าโค้ชคนใหม่ เป็นไทย หรือต่างชาติ เขาบอกว่า ไม่ได้มีข้อกำหนดอะไร ขอให้โรมาโกซ่าคิดว่าเป็นชอยส์ที่ถูกต้อง แล้วจะเอามาประชุมกันอีกที แต่มั่นใจได้ว่า จะหาโค้ชได้ทันศึก u-23 ชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือก ในเดือนตุลาคมนี้ และ ซูซูกิคัพ ในเดือนธันวาคมนี้แน่นอน
ดังนั้นกับคำถามคลาสสิค ที่มีในโลกออนไลน์คือ ไม่เอานิชิโนะแล้วจะเอาใคร คำตอบคือ คนดูอย่างเราเสนอได้ แต่ไม่มีสิทธิ์เลือก คนที่เลือกคือโรมาโกซ่า ซึ่งก็จะมีกรรมวิธีของเขา แฟนบอลก็ทำได้แต่คาดเดา และลุ้นกันไปว่าจะโดนใจหรือเปล่า
2
จะว่าไปสมาคมแป้กมาสองคนติดแล้วนะ ราเยวัช ตามด้วยนิชิโนะ หวังว่าคราวนี้จะได้โค้ชที่ตอบโจทย์ สมกับเจตนารมณ์ Hire to Win ซะทีนะ
1
สุดท้ายนี้ ผมยืนยัน Position ตัวเอง ว่าหน้าที่ของโค้ชทีมชาติชุดใหญ่ เขาถูกจ้างมาเพื่อพาทีมชนะ และไปถึงเป้าหมายในการแข่งขัน เฮดโค้ชชุดใหญ่ ไม่ใช่คนที่จะวางระบบวางโครงสร้างอะไร มันคนละหน้าที่กันนะ
1
สำหรับนิชิโนะ ขอบคุณมากกับช่วงเวลา 2 ปีกับทีมชาติชุดใหญ่ อย่างน้อยโมเมนต์ที่เอาชนะยูเออีได้ 2-1 ที่สนามธรรมศาสตร์ ก็เป็นสตอรี่ที่น่าจดจำ เอาเป็นว่าจะเหลือภาพจำดีๆ เอาไว้แล้วกันนะ
จริงๆ เขาก็เป็นโค้ชที่มีโพรไฟล์ดีคนหนึ่ง แต่อย่างที่บอก ทุกอย่างมันต้องตัดสินกันตามผลงานที่เห็นจริงๆ
1
#HIRETOWIN
โฆษณา