2 ส.ค. 2021 เวลา 12:00 • บันเทิง
5 นาทีสะกดโลก GABEZ และ Gamarjobat คู่หูตลกที่มี Charlie Chaplin เป็นไอดอล
ภายในเวลา 5 นาที การแสดง Pictogram ที่เราไม่เห็นแม้แต่หน้านักแสดงกลับสร้างภาพจำและได้รับคำชื่นชมว่าเป็นโชว์ที่ดีที่สุดในพิธีเปิดโอลิมปิกคราวนี้ แล้วใครกันคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการแสดงชุดนี้
ไม่ใช่แค่ตลก แต่กระโดดโลดเต้นก็ทำได้
สำหรับคู่ GABEZ (กาเบซ) เป็นนักแสดงตลกเงียบ (Silent Comedy) และเต้นประกอบเพลง ประกอบด้วยสมาชิก 2 คน คือ “Masa” หรือ มาซาโตมิ โยชิดะ และ “hitoshi” หรือ ฮิโตชิ โอโนะ ซึ่งก่อนหน้าที่ทั้งคู่จะมาจับคู่กันในชื่อ GABEZ พวกเขาต่างเคยเป็นนักเต้นอาชีพมานานกว่า 10 ปี ก่อนที่จะผันตัวมานักแสดงละครใบ้ด้วยกันตั้งแต่ 2007
จึงทำให้การแสดงของพวกเขานอกจากการเล่นตลกทั่วไปก็ยังมีการเต้น Street dance ประกอบด้วย ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้มีชื่อเสียงแค่ในญี่ปุ่นแต่ได้รับการเชิญไปแสดงในเทศกาลงานศิลปะ ประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงในไทยด้วยในงาน “เทศกาลละครนานาชาติสำหรับเด็กและเยาวชน 2018” (BICT Fest 2018) ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในชื่อ “The GABEZ SHOW by GABEZ Dance and Silent Comedy”
.
Gamarjobat คู่หูตลก ผมทรงโทมาฮอว์ก
ส่วนอีกคนในชุด Pictogram ที่มีภาพเดินเข้าไปในห้องแถลงข่าวด้วยนั่นคือ “HIRO-PON” (ฮิโรปง) หรือ ฮิโรชิ โฮชิมิ สมาชิกของ Gamarjobat (กามาร์โจแบต) นักแสดงละครใบ้เดี่ยว ลำดับต้นๆ ของญี่ปุ่นซึ่งเขาเคยมีคู่หูคือ “Ketch!” (เค็ตช์) หรือ เคสึเกะ อุชิดะ
และด้วยเอกลักษณ์การแต่งกาย หน้าตาและทรงผมที่คล้ายกันจนหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นพี่น้องกัน ซึ่งสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าคนไหนเป็นใครก็คือ สีผม โดยฮิโรปงจะไว้ผมโทมาฮอว์ก สีเหลือง-ทอง และเค็ตช์จะไว้ผมสีแดง-ชมพู
ในส่วนของการแสดงนั้นคู่ Gamarjobat จะมาในรูปของการเล่นตลกผ่านการเล่นมายากลและละครสั้นต่างๆ พร้อมกับกล่องอุปกรณ์ติดสติ๊กเกอร์ชื่อวงที่เหมือนสัญลักษณ์ประจำตัวของพวกเขา
ภาพ Facebook: Gamarjobat
โดยฮิโรปง เคยสัมภาษณ์ว่า “เขาได้ดูชาร์ลี แชปลินแสดงตั้งแต่เด็กและชื่นชอบการ แสดงของเขามากกระทั่งมีโอกาสเข้าเรียนละครใบ้ในวัย 25 ปี ที่ Tokyo Mime Theatre ในเมืองชินิบุ ส่วนเค็ตช์เข้าเรียนที่ Tokyo Mime Institute ในเมืองมานิกิ และใช้เวลาฝึกฝนเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับอาจารย์ของแต่ละคนนานถึง 6 ปี” ก่อนจะมาจับคู่กันในชื่อ “Gamarjobat” ในปี 1999 โดยชื่อวงของพวกเขาเป็นคำมาจากภาษาจอร์เจียน แปลว่า “สวัสดี”
นับจากนั้นจนถึงปัจจุบันมาพวกเขาได้ออกรายการทีวีและเดินสายแสดงมาแล้วใน 30 ประเทศกับอีก 200 งานเทศกาลและมีผลงานที่เป็นรู้จักอย่าง
ปี 2009 - ร่วมงานกับสถานี BBC ผลิตหนังสั้นความยาว 30 นาที กล่าวถึง การตามหาคนรักของฮิโรปง ในชื่อ “Ketch! and HIRO-PON Get It On” ออกอากาศทาง BBC3
ภาพ YouTube: adaystudioofficial
ปี 2011 - เดินทางมาเปิดการแสดงที่ไทยในชื่อ “GAMARJOBAT SHOW in Bangkok The World-Class Silent Comedy” ที่เซ็นเตอร์พอยต์ เพลย์เฮาส์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิลด์ และเนื่องในโอกาสที่พวกเขาเดินทางมาแสดงที่ไทยครั้งนั้นจึงได้รับคำเชิญให้มาออกรายการทีวีเพื่อเล่าถึงเส้นทางการมาเป็นนักแสดงละครใบ้กับพิธีกร คุณเปอร์ สุวิกรม อัมระนันทน์ ในรายการ THE IDOL คนบันดาลใจ
และในปีเดียวกันยังได้รับการยกย่องจากนิตยสาร Newsweek ประเทศญี่ปุ่น จัดอันดับให้พวกเขาเป็น “1 ใน 100 ชาวญี่ปุ่นที่โลกยกย่อง” รวมถึงยังไปปรากฏในรายการโชว์อย่างการเข้าประกวดรายการ “France’s Got Talent” ที่ฝรั่งเศสในปี 2014 และขึ้นโชว์ในเรียลลิตีโชว์จากจีน “欢乐喜剧人” ในปี 2015
.
โปรเจ็กต์รวมนักแสดงที่ไปได้ไม่ไกล
เพราะความสำเร็จของทั้งคู่ทำให้ใน 2014 พวกเขามีความคิดที่จะรวมนักแสดงละครใบ้ให้มาอยู่ด้วยกันเพื่อเดินสายแสดงทั่วญี่ปุ่นในโปรเจ็กต์ชื่อ “The Gamarjobat Company” ซึ่งก็มีสมาชิกด้วยกัน 6 คน ได้แก่ ฮิโรปง, เค็ตช์, มาสะ, ฮิโตชิ และอีก 2 คนคือ คาโดยะ มาซาชิ กับ ฮามากูชิ เคสึเกะ (โดยทั้ง คาโดยะ และ ฮามากูชิ ก็เป็นคู่นักแสดงละครใบ้เช่น กันในชื่อ ZEROKO แต่สมาชิกทั้ง 6 คนเลือกที่จะเข้าร่วมโปรเจ็กต์ในฐานะนักแสดงเดี่ยว)
(จากซ้ายไปขวา) คาโดยะ, มาสะ, เค็ตช์, ฮิโรปง, ฮิโตชิ และฮามากูชิ
โดยการแสดงครั้งแรกของพวกเขาเกิดขึ้นในปี 2015 กับ “THE GAMARJOBAT COMPANY 1st JAPAN TOUR” แต่ด้วยตารางการแสดงเดี่ยวของแต่ละคู่แยกออกไปค่อนข้างแน่นทำให้ทั้ง 6 คน ที่แม้จะอยู่ในสังกัดเดียวกันกลับไม่มีโอกาสได้ขึ้นแสดงพร้อมกันอีกเลยหลังจบทัวร์ในครั้งนั้น และจุดเปลี่ยนสำคัญของ Gamarjobat ก็เกิดขึ้นในปี 2019 หลังจบทัวร์ “Gamarjobat Silent Comedy Japan Tour 2018” (ซึ่งจัดมาถึงต้นปี 2019) เค็ตช์ ประกาศถอนตัวจากออกการวง ทำให้ ฮิโรปง ที่ยังคงแสดงอยู่กลายเป็นนักแสดงเดี่ยวในนาม Gamarjobat
และเมื่อเหลือคนเดียว คุณฮิโรปง ก็เลือกจะรับงานเฉพาะในญี่ปุ่นเป็นส่วนมากเพื่อความสะดวกในการเดินทางและการจัดตารางคิวแม้จะได้รับคำเชิญให้ไปแสดงในต่างประเทศอยู่ตลอด ซึ่งเรื่องนี้เองก็ส่งผลให้สมาชิกที่เหลือเพียง 5 คน ที่ต่างก็เดินสายแสดงในนามชื่อวงของแต่ละคู่ตัดสินใจประกาศยุติการใช้ชื่อ The Gamarjobat Company ลงในเดือนสิงหาคม 2020
.
กลับมารวมกันอีกครั้งในโอลิมปิก
เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูพิธีเปิดอาจจะสงสัยว่าทำไมการแสดงของพวกเขาที่นอกจากเล่นเองให้ทันเพลงและกราฟิกของกีฬาแต่ละชนิด ยังต้องวิ่งมาเซ็ตกล้องเอง ถ่ายเองอีก ไม่มีทีมงานคนอื่นคอยช่วยถ่ายนอกจากเตรียมอุปกรณ์และรับส่งให้ทัน
คำตอบน่าจะมาจาก ฮิโรปง ที่นอกจากจะเป็นคนแสดงเองแล้วตัวเขายังเป็นสมาชิกของ “ฝ่ายสร้างสรรค์การแสดงในพิธีเปิด” ด้วยซึ่งเท่ากับเขาเป็นคนดูแลงานแสดงทุกอย่างในโชว์ Pictogram ตามที่เขาโพสต์ใน Facebook ว่า “ผมเป็นคนสร้างโชว์ Pictogram ในพิธีเปิดเอง มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมก็สนุกกับมัน” และทำให้เขาเลือกเป็นตากล้องเองเพื่อที่จะได้คุมการถ่าย แต่ใครจะมาเป็นคนแสดงให้เขาเพราะเกือบทั้งโชว์เป็นการเล่นกันสดๆ ดังนั้น คนแสดงต้องเร็วและมีความยืดหยุ่น ของร่างกายด้วย
ภาพ Twitter: DANCE&MIME COMEDY GABEZ ガベジ
คนใกล้ตัวของเขาที่พอมีทั้งครบทั้งสองอย่างจึงกลายเป็นคู่นักแสดงละครใบ้ GABEZ ที่เคยร่วมงานกันมาแล้ว แต่โจทย์ยากของมันมีตั้งแต่การคิดว่าจะเอากีฬาชนิดไหนขึ้นก่อนหลัง การเตรียมคิวกับทีมงานในการรับส่งอุปกรณ์และคิวการแสดงของพวกเขาเอง
ซึ่งถ้าเราสังเกต ฮิโรปง เลือกที่จะจับ Pictogram ที่ต้องเล่นกับมุมกล้องเข้ามาอยู่ครึ่งแรก ทั้งหมดในลำดับที่ 2 ถึง 31 โดยที่เขาเป็นคนถือกล้องถ่ายและ GABEZ เป็นคนแสดง ก่อนที่จะเดินออกมาแสดงด้วยตั้งแต่ลำดับที่ 32 ซึ่งเริ่มมีนักกีฬาอยู่ในสัญลักษณ์ 2 คน
แต่พอมันเป็นการถ่าย Long Take ครั้งเดียวแบบไม่มีโอกาสให้กลับมาถ่ายซ่อมได้แล้ว ก็น่าจะทำให้เขาเลือกถ่ายกีฬาทั้งว่ายน้ำและขี่ม้าที่ต้องใช้พร็อพชิ้นเล็กชิ้นน้อยบวกกับต้องถ่าย Close up ไปที่นิ้ว ซึ่งต้องใช้สมาธิสูงจึงไม่น่าจะเหมาะกับการนำมาเล่นสดที่เน้นความเร็ว มาเก็บไว้ล่วงหน้ารวมกับกีฬาต่อสู้ที่ช่วยคั่นเวลาให้พวกเขามีเวลาพักสั้นๆ และเตรียมเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของโชว์ที่จะต้องแสดงเป็น Pictogram กีฬาปั่นจักรยาน
ภาพ Twitter: Tokyo 2020
การแสดง Pictogram ของพวกเขาคงบอกอะไรได้หลายอย่างนอกจากการได้เล่าถึงจุดกำเนิดสัญลักษณ์เหล่านี้ มันยังถูกใช้เพื่อเผยแพร่ “การแสดงละครใบ้” ที่พวกเขานำไปใช้สร้างชื่อ ให้กับตัวเองและเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมที่ถูกส่งออกไปต่างประเทศผ่านการแสดงโชว์และรายการทีวีไม่ได้น้อยไปกว่าเกมหรือมังงะที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว
อีกทั้งการวิ่งมาดีใจหน้ากล้องและเดินขึ้นโพเดียมพร้อมกันทั้ง 3 คน ก็เหมือนเป็นการบอกว่า พวกเขาแข่งมาครบแล้วทั้ง 50 ชนิดกีฬาและพร้อมจะขึ้นมารับรางวัลซึ่งไม่ใช่เหรียญแต่เป็นเสียงปรบมือดังกึกก้องในสนามกับการได้เป็นตัวแทนของนักแสดงละครใบ้ที่ได้มาเผยแพร่วัฒนธรรมของพวกเขาสู่สายตาชาวโลกนั่นเอง
โฆษณา