ในปี 2015 เธอก็เข้าสู่วงการแข่งขันจักรยานอย่างเต็มตัว ลงงานใหญ่ระดับโลกมากมาย ในปี 2016 เธอก็คว้าอันดับที่ 2 ของงานใหญ่อย่าง Tour Cycliste Féminin International de l’Ardèche
สิ่งที่สั่นสะเทือนวงการนักปั่นน่าจะเป็นความเชื่อในเรื่องของการ self training มากกว่า ดร.แอนนา กำลังพิสูจน์ให้เห็นความกล้าที่จะลุกขึ้นมา Solo เดี่ยวและไม่พึ่งพาตารางเทรนของทีมองค์กรกีฬา สิ่งนี้น่าจะสั่นคลอนและถูกตั้งคำถามในอนาคตมากทีเดียว
แม้จะถูกมองว่า Under radar หรือไม่อยู่ในสายตาของนักปั่นมืออาชีพ แต่จากที่ดร.แอนนาบอกกับสื่อว่า “in my head cycling takes up a huge space” และ “cycling takes up a lot of space in my life” และจากผลงานการปั่นแบบพายุที่โหมกระหน่ำไม่มีแผ่วในสนาม บอกเราได้อย่างดีว่า คนที่ชีวิตมีแต่เรื่องปั่น ในสมองคิดแต่เรื่องปั่น ไม่ว่าป้ายที่ห้อยคอจะเรียกเธอว่ามืออาชีพ หรือ มือสมัครเล่น นั้นไม่สำคัญเท่ากับผลงานที่ออกมาในท้ายที่สุด และสำหรับเธอแชมป์สามสมัยระดับชาติ และหนึ่งเหรียญทองโอลิมปิก บอกทุกอย่างได้เป็นอย่างดี
“there are no shortcuts, there are no miracles” “มันไม่มีทางลัด และไม่มีปาฏิหาริย์” ดร.แอนนา คีเซนโฮเฟอร์