10 ส.ค. 2021 เวลา 10:16 • ความคิดเห็น
ครั้งนี้จะแรงกว่าทุกรอบ
1
โดย
1
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
เราผ่านวิกฤติการเงินมาหลายครั้ง แต่จะไม่มีครั้งไหนที่ตลาดเงินและตลาดทุนโลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารเหมือนกับยุคโควิด-19
https://news.cgtn.com/news/2021-07-08/COVID-19-Thailand-s-school-dropout-rate-soars-11JmsBKXkv6/index.html
มาตรการที่เราเคยใช้เมื่อ พ.ศ. 2530 เช่นเมื่อเจอวิกฤติ Black Monday ที่ฟองสบู่ของสหรัฐแตกจากการสะสมปัญหาขาดดุลการค้าและขาดดุลงบประมาณ เราก็เปิดเพดานให้บริษัทเงินทุนลงทุนในหลักทรัพย์เพิ่ม อย่างนั้นจะใช้ไม่ได้แล้ว
2
พ.ศ. 2530-2539 เศรษฐกิจไทยโตอย่างไม่ติดเบรค ทุกคนเชื่อว่าไทยจะกลายเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย
กระทั่ง 2 กรกฎาคม 2540 ธนาคารแห่งประเทศไทยถูกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) บังคับให้ลอยตัวค่าเงินบาทเพื่อแลกเงินกู้กอบกู้ซากเศรษฐกิจ 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ระบบสถาบันการเงินของไทยล่มสลาย
บริษัทเงินทุนถูกปิด กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ใช้เงิน 1.4 ล้านล้านบาทอุ้มสถาบันการเงิน
1
ราคาที่ดินลดฮวบฮาบกว่าร้อยละ 40 ผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ล้มละลายเป็นว่าเล่น ส่วนภาคการผลิต โรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กนับแสนแห่งปิดกิจการ
2
หมดยุคของสาวฉันทนา โรงงานขนาดกลางและขนาดใหญ่ต้องแบกภาระหนี้สิน คนไทยตกงานนับล้านคน
พ.ศ. 2540 คนไทยฆ่าตัวตายสูงจากปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุดในรอบ 20 ปี ค่าเงินบาทตกต่ำถึง 45.50 บาทต่อดอลลาร์ (12 ธันวาคม 2540) อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นสูงถึงร้อยละ 24
พ.ศ. 2541 รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ล้มละลายฉบับที่ 4 ดอกเบี้ยผิดนัดพุ่งสูงถึงร้อยละ 27 กลุ่มทุนค้าปลีกไทยต้องขายหุ้นให้ต่างชาติ
พอถึง พ.ศ. 2542 เกิดบริษัทข้อมูลเครดิตไทยเพื่อลดความเสี่ยงในการให้สินเชื่อและลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของระบบสถาบันการเงินโดยรวม
ก่อนหน้านี้ คนไทยยังไม่นิยมให้บุตรหลานเรียนภาษาจีน กระทั่งจีนได้เป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 เป็นต้นมา มีโรงเรียนระดับประถมศึกษา และสถาบันสอนภาษามากกว่า 100 แห่ง สอดแทรกหลักสูตรภาษาจีนให้นักเรียนไทยได้เรียน
6
กรุงเทพฯ เป็นแหล่งรวมสอนภาษาจีนมากที่สุดแห่งหนึ่ง เช่น โรงเรียนจี้จง โรงเรียนเผยอิง โรงเรียนซินหยกฮั่วกงฮัก ฯลฯ ตั้งแต่ พ.ศ.2545 นี่ละครับ ที่ไทยค้าขายกับจีนแรงขึ้น
2
วิกฤติหลายครั้งของไทยมาจากวิกฤติที่เกิดขึ้นในสหรัฐ เช่น วิกฤติซับไพรม์ ที่ได้พัฒนากลายเป็นวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ร้ายแรงครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ถึงขนาดเลแมนบราเดอร์ส ล้มละลายและบริษัทประกันภัยใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเอไอจี ต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐ
2
ปัญหาทั้งหลายทั้งปวงของวิกฤติทั้งหมดที่ผมรับใช้ไป จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกน้อยกว่าเศรษฐกิจที่เกิดจากการโจมตีของไวรัสโควิด-19
3
ตั้งแต่เกิดโควิด-19 ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดทำ QE พิมพ์เงินเข้าระบบมากถึง 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์เงินในยุคโควิดมากเท่ากับที่พิมพ์มาใช้ในรอบร้อยปี
3
เงินดอลลาร์มหาศาลที่เฟดพิมพ์เข้าไปช่วยตลาดหุ้นจะทำให้คนรวย รวยขึ้น ส่วนรายได้ของคนจนยังเท่าเดิม แต่ค่าของเงินจะน้อยลงจากเฟ้อ
3
การพิมพ์เงินดอลลาร์มาใช้อย่างไม่บันยะบันยังชั่งใจทำให้งบดุลของเฟดตอนนี้เป็น 8 ล้านล้านดอลลาร์
1
สิ้นพ.ศ. 2564 มีคนทำนายทายว่างบดุลของเฟดจะโตเป็น 10 ล้านล้านดอลลาร์ เจ้าหนี้สหรัฐรายใหญ่อย่างจีนและญี่ปุ่น ก็คงจะงงและไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับลูกหนี้สหรัฐดี
2
ประเทศที่ไม่ได้ป้องกันไว้ก่อนอย่างญี่ปุ่นก็คงจะโดนกระทบ แต่พวกที่รู้ทันสหรัฐและระมัดระวังตัวไว้ก่อนอย่างรัสเซียและจีนก็อาจจะไม่โดนกระทบมาก
รัสเซียขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติด้วยสกุลเงินอื่นมานานแล้ว พอร์ตกองทุนความมั่งคั่งและเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียทิ้งดอลลาร์และถือสินทรัพย์อื่นแทน
1
จีนก็ด้อยค่าดอลลาร์สหรัฐมาได้หลายปีแล้วเหมือนกัน
ส่วนประเทศที่ไม่ได้เตรียมตัว
นรกเศรษฐกิจอาจจะมาเยือนในเร็ววัน
มาครั้งนี้ จะแรงกว่าทุกรอบ.
โฆษณา