15 ส.ค. 2021 เวลา 17:15 • ปรัชญา
#หลวงปู่ดูลย์ตอบปัญหาจิตภาวนา
👨ศิษย์ : คำว่าจิตดูจิต หมายความว่า เอาสติดูจิต หรือเปล่า?
☀️หลวงปู่ : จิตก็คือ "ผู้รู้" แล้วก็ตั้งสติให้อยู่ในนั้น ให้อยู่กับผู้รู้
สติระลึกอยู่ในนั้น
คือ จิตกับสตินั่นเอง
ตั้งจิตในจิต คือให้เป็นอันเดียว ตั้งจิตอยู่ในจิต
จิตกับผู้รู้เป็นของสิ่งเดียวกัน ไม่ได้แตกต่างกันเลย การแตกต่างทั้งหลาย เกิดขึ้นจากเราคิดผิดทั้งนั้น และนำเราไปสู่การก่อสร้างกรรมทั้งหลายทั้งปวงทุกชนิดไม่มีหยุด
เนื่องจากเราเข้าใจผิด แล้วก็ไปสร้างกรรมไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าจิตเห็นจิตแล้ว อะไรอะไร มันขาดหมด มันตัดขาดไปหมดแล้ว กิเลสตัณหาอะไรมันหมดแล้ว เวลานั้นมันหมด
👨ศิษย์ : ผู้ที่จะตัดกิเลสตัณหาอุปาทานหมด คือ พระอรหันต์นี่นะครับผม ดวงจิตดวงนั้นยังอยู่ใช่มั้ยครับผม
☀️หลวงปู่ : ก็อยู่สิ
👨ศิษย์ : แต่ไม่มีปรุงแต่งอะไรทั้งนั้น
☀️หลวงปู่ : ไม่มีปรุงแต่ง
👨ศิษย์ : แม้แต่ละสังขารไปแล้วจิตของเรา
☀️หลวงปู่ : นั่นเลย นั่นเลยสัจธรรม สัจธรรม ก็คือจิตของเรา "สัจธรรม"
สัจธรรมของเรานั้นไม่ได้หายไปจากเรา
แม้ในขณะที่เรากำลังหลงผิดอยู่ในอวิชชา
และไม่ได้รับกลับมาในขณะที่เรามีการตรัสรู้
อันเดียวนี่แหละ อวิชชาคือตัวนี้ รู้ขึ้นในตัวนี้ รู้ อันเดียว
จิตมันเป็นธรรมธาตุ ภูตตถตา
👨ศิษย์ : จิตเป็นธรรมธาตุอย่างหนึ่งหรือครับ
☀️หลวงปู่ : เป็นธรรมธาตุ... ภูตตถตา... คือมันมีอยู่อย่างนั้น เป็นอยู่อย่างนั้น สัจจะของเรา ไม่มีการเปลี่ยนแปลง "ภูตตถตา"
👨ศิษย์ : ขออภัยครับ ไม่มีทั้งจิต ไม่มีทั้งอวิชชา
☀️หลวงปู่ : มีจิต ไม่ได้คิด…หยุดตัวคิดเท่านั้นเอง
หมด ก็หมดคิดใช่ไหม แต่จิตมันยังอยู่ มันไม่เปลี่ยนแปลงไปไหน
👨ศิษย์ : ครับผม
☀️หลวงปู่ : อวิชชามันก็อยู่ในนั้น แต่จิตมันหลงผิดไปตามอวิชชา มันก็อยู่ในนั้น อยู่ในตัวนั้น
👨ศิษย์ : ครับผม มันยังอยู่อย่างนั้นเอง
☀️หลวงปู่ : มันอยู่อย่างนั้นเอง มันไม่เปลี่ยนแปลง
👨ศิษย์ : ถูกอวิชชาครอบงำ
☀️หลวงปู่ : ไปยึดเงา
สัจจะ ก็อยู่ในนั้น แต่ว่ามีปัญญาเกิดขึ้น ปัญญาเกิดขึ้นจึงได้มีความตรัสรู้
ตัวนี้... "ตัวรู้"... ตรัสรู้ ตัวนี้เป็นผู้ตรัสรู้ อวิชชามันก็หมดไป
 
👨ศิษย์ : กระผมเคยเขียนเรื่องหนึ่ง เรียกว่าจิตครับผม เรียกว่า "จิตแท้" และก็ "จิตรับ" คือ รับอารมณ์ต่าง ๆ เข้ามา
ทีนี้คือ "จิตรู้" จิตรู้พอรู้มาก ๆ ก็กลายเป็น "จิตละ" ครับผม เริ่มละกิเลสตัณหาออก ตอนนี้ก็เป็น "จิตหลุด" ครับ
☀️หลวงปู่ : คือละ เราละยังไง อันนี้ตัวเปรียบสำคัญที่สุดเลย
ละไม่ต้นทาง มันก็ไม่ดับ
👨ศิษย์ : ต้องละจนกว่าจะดับ?
☀️หลวงปู่ : ต้องละต้นทางมันถึงจะดับ ต้องละต้นทางถึงจะดับ ตามสติปัญญาให้ได้รู้ได้เห็น
เอานั้นมาแก้ เอานั้นมาแก้ ไม่ได้ความ
👨ศิษย์ : ครับผม
☀️หลวงปู่ : ไม่ดับ
👨ศิษย์ : ครับผม จิตยังส่งออกนอกอยู่
☀️หลวงปู่ : จิตยังส่งออกนอก
👨ศิษย์ : ที่เรียกว่า... ต้องดูจิตข้างในเท่านั้นเอง
☀️หลวงปู่ : นั่นล่ะ เห็นจิต ดับหมดแล้ว ให้ "ตั้งจิตอยู่ในจิต" อะไร ๆ มันขาดหมดแล้ว ดับด้วยปัญญาข้างนอก มันดับไม่สนิท
ภาวะที่แท้ของจิต เป็นสิ่งก่อกำเนิดกรรมทั้งหลายเรียกว่า "วิญญาณ"
เมื่อมีวิญญาณแล้ว ก็เริ่มมีที่แห่งความคิดนึก
มีที่แห่งตัณหาเหตุผล
ภาวะที่แท้ของจิต ก็คือ "อรูป" เป็นวิญญาณประเภทต่าง ๆ
เมื่อวิญญาณรับรู้อารมณ์ทั้งหกเกิดขึ้น ก็จะสำเหนียกรู้ในวัตถุทางอารมณ์ทั้งหกนั้นจากทวารทั้งหก
ดังนั้นจิตของธาตุสิบแปดจึงเนื่องมาจากแรงกระตุ้นของภาวะที่แท้ของจิต
ไม่ว่าบุคคลนั้นจะปฏิบัติผิดในทางชั่ว หรือ ปฏิบัติผิดในทางดี แล้วแต่ว่าภาวะที่แท้ของจิตจะอยู่ในอารมณ์เช่นใด อยู่ในอารมณ์ดี หรือ อยู่ในอารมณ์ชั่ว
อารมณ์ชั่วก็เป็นลักษณะของสามัญชน อารมณ์ดีก็เป็นลักษณะของพุทธะ
เพราะว่า ความรู้สึกที่เป็นของคู่ ประเภทตรงกันข้าม ฝังจิตอยู่ในนิสัยแห่งภาวะที่แท้ของจิตนั่นเอง
ของคู่คืออะไร ดี-ชั่ว สูง-ต่ำ อะไร
บาป... ดำขาวอะไร มีเป็นคู่ ๆ เท่านั้น เป็นคู่ ๆ กันเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด
ถ้าแยกคู่นี้ได้แล้วเท่านั้น ตัวนั้นเป็นตัวว่าง
👨ศิษย์ : ครับ ไม่ซ้ายไม่ขวา
☀️หลวงปู่ :ไม่ซ้ายไม่ขวา
👨ศิษย์ : อยู่ตรงกลาง ไม่มีทั้งบุญทั้งบาป
☀️หลวงปู่ : อยู่เหนือบุญเหนือบาป
เหนือสมมุติเหนือบัญญัติ เหนือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาอีก เหนือเหตุเหนือผล
สมมุติบัญญัติ... ทุกขัง... อนิจจัง... อนัตตา... เหตุผล... อะไรไม่มีอยู่ในนี้หรอก
สิ่งเหล่านี้ มันอยู่เหนือเหตุเหนือผลทั้งหมด
เรียกว่า "โลกุตตระ" อยู่เหนือโลก อยู่เหนือโลกทั้งสาม... กามภพ... รูปภพ... อรูปภพ
มันอยู่เหนือหมด ..ไอ้ที่ว่างนะ
👨ศิษย์ : เหนือเหตุเหนือผลทั้งหมด
☀️หลวงปู่ : เหนือเหตุเหนือผลทั้งหมด
ถ้ามันมีเหตุผล มันยังเป็นโลกทั้งหมด
***********
หลวงปู่ดูลย์ อตุโล
โฆษณา