16 ส.ค. 2021 เวลา 10:38 • ความคิดเห็น
ฝึกเขียน Freewriting
สำรอกความคิดในหัวออกมา เพื่อปลดล็อกตัวเอง
มันเป็นอะไรที่ว้าว ๆ ๆ มากค่ะทุกคน
เมื่อวันก่อนผู้เขียนได้ไปเจอ บทความหนึ่งของพี่โจ้ & พี่เน็ต เกี่ยวกับการเขียน อ่านแล้วมันใช่ จนต้องนำมาแชร์
ผู้เขียนติดตามทั้งสองท่านจาก The Standard Podcast ในช่วงการแนะนำหนังสือ คือพี่ ๆ เขาอ่านมาแล้ว ถึงมาย่อยให้เราฟัง "Readery" ชอบมากค่ะ ติดใจในเสียง ในการพูดคุย การอ่านสรุปหนังสือจากพิธีกรทั้งสองท่าน แล้วตามมาเจอบทความพี่ ๆ เขาใน Readawrite.com
การเขียนแบบไม่ต้องวางแผน คือการฝึกเขียนที่ท้าทายมาก เพราะปกติพวกเราส่วนมากจะคิดกันว่า ต้องมีเป้าหมายในการเขียนใช่ไหมคะ
ว่าเรา ต้องเขียนสิ่งที่ดี ที่มีประโยชน์ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดนะคะ (ในการเขียนแบบมีเป้าหมาย)
และมันจะแตกต่างจากการเขียนแบบ Freewriting เพราะการเขียนแบบนี้ไม่ใช่การสร้างผลงาน แต่มันคือกระบวนการให้เราฝึกใช้ความคิด
ก้าวข้ามสมองส่วน Logic ไปสู่ Trought Self และพาตัวหนังสือของเราไปเจอกับ
"นักเขียนที่อยู่ข้างในตัวเราจริง ๆ"
มีอิสระในการเขียนความคิดในหัว
เขียนมันออกมา ไม่ว่ามันจะเป็นความคิดที่ดี หรือในตอนนั้นคุณอาจจะกำลังคิดเรื่องไม่ดีอยู่ เขียนมันออกมาค่ะ เขียนไปเรื่อย ๆ เขียนต่อไป ห้ามหยุดคิด ห้ามหยุดอ่าน ห้ามวางแผน แค่เขียน ๆ ๆ ห้ามให้ใครอ่านด้วยนะ
ถึงจะเรียกว่า Freewriting
เขาก็มีสูตร มีเทคนิค ให้ทำนะคะ 7 ขั้นตอน สอนเขียนความคิดในหัว
(เพื่อเป็นการตกผลึกทางความคิด ปลดล็อกชีวิต)
ตอนนี้เราแค่เขียนมันออกมาก่อน
1 เขียนโดยไม่หยุดมือ กำหนดเวลาเขียนด้วยนะ เช่นตั้งเวลาไว้ที่ 10 นาที
 
เมื่อเช้านี้ ผู้เขียนเริ่มเขียนความคิด ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า ตอนแรกคิดว่าจะเขียนอะไร สมองมันว่าง ๆ เหมือนไม่ได้คิดอะไร ที่ไหนได้ ผู้เขียนทำเวลา 05.15 - 06.25 กับ 7 หน้ากระดาษ ขนาด A4 …
โอ้ ฉันทำไปได้ยังไง ฉันเขียนอะไรลงไปบ้างเนี้ย
อยากอ่านความคิดของตัวเองมาก ๆ แต่มีกฏให้ตัวเองจากบท Morning Pages ว่า ห้ามอ่าน ห้ามแก้ ห้ามให้ใครอ่านด้วย
ถ้าจะทำ ให้รอหลังจากวันนี้ไปอีก 8 สัปดาห์ ค่อยกลับมาอ่าน มันตื่นเต้นตรงนี้ค่ะ
อยากรู้จริง ๆ ว่าตัวเองเขียนอะไรลงไปบ้าง
… ในใจนะคะ ผู้เขียนลุ้นมากว่าให้ลูกสาวมาแอบอ่าน แล้วมาเล่าให้แม่ฟัง ไม่ค่ะ นางไม่สนใจเลย 555
ถ้าไม่รู้จะเขียนอะไร ก็ให้เขียนไปว่า "ไม่รู้จะเขียนอะไร" ให้ครบเวลาที่กำหนด
ข้อ 2,3,4,5,6,กดเข้าไปอ่านในบทความนะ
ข้อ 7 ถึงจะต้องเขียนไป ร้องไห้ไป ก็เขียนต่อไป เค้นเอาความเจ็บปวดออกมาเขียนลงในกระดาษให้หมด …
*** ขอเสริมข้อนี้ เพราะเคยเกิดขึ้นกับตัวเองแต่ในตอนนั้นเราไม่รู้จัก
เป็นการเขียนเพื่อปลดล็อกของจริงนะคะ ถ้าใครที่คิดว่าตัวเองมีปม หรือมีความหลังอะไรก็แล้วแต่ที่ยัง ก้าวไม่พ้น ก้าวไม่ข้ามสักที ลองเขียนเลยค่ะ ***
ขออนุญาตนำบางส่วนจากบทความมาเล่าต่อ
"การเขียนไปเรื่อย ๆ จนพบความเจ็บปวดนั้น เป็นเรื่องธรรมดามาก
เพราะถ้าผู้เขียน เอาแต่ควบคุมตัวเองไม่ให้ไปแตะความเจ็บปวด แสดงว่า Freewriting ยังพาเราไปไม่สุด
สมองของเรา ควรจะหลุดจากการควบคุมของร่างกาย แล้วปล่อยให้ความคิดที่ผุดขึ้นมา ในตอนนั้น พามือเราเขียนออกไป
แม้ว่าการเขียน มันจะทำให้เราร้องไห้ เจ็บปวด แต่มันเป็น "Good Cry" เราจำเป็นต้องทะลุถ้ำน้ำตานี้ไปสู่ปลายอุโมงค์ที่มีแสงสว่างให้ได้"...
... เครดิต : พี่โจ้พี่เน็ต …
กดเข้าไปอ่านต่อในบทความนะคะ สปอยมากกว่านี้เกรงใจพี่ ๆ เขา ฝากกดหัวใจ ติดตาม เก็บเข้าชั้น ให้พี่โจ้พี่เน็ตด้วยนะทุกคน
...
ทำให้คิดไปถึงประโยคนี้ขึ้นมาได้
"น้ำตาสลายม่านหมอกในใจ"
เครดิต : คัมภีร์มรกต
ซึ่งมันจริงมาก มันไม่ใช่การร้องไห้ฟูมฟาย ตีอกชกหัว เอาแต่ใจ โทษลมโทษฝน แต่มันเป็นน้ำตาของความเข้าใจตัวเอง เข้าใจคนอื่น ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น และปล่อยมันไป แล้วความกลัวก็หายไปจากใจ ความกล้าหาญเข้ามาแทนที่ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ดี และอิสระจริง ๆ
เรียกอีกชื่อหนึ่งน่าจะเป็น
"การเขียนเพื่อเยียวยาตัวเอง"
ตอนที่ผู้เขียนแต่งนิยายใหม่ ๆ แล้วเจอประสบการณ์นี้ ไม่รู้จักนะ ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร มีความรู้สึกกลัวขึ้นมาด้วยแหละ แบบว่า มันใช่เหรอวะ ป้าอินกับตัวละครเกินไปป่ะ นี่นิยายนะ แต่งไปร้องไห้ไป ไบโพล่าร์ป่าว 555
อืมมมมม ถ้างั้นพักก่อน ไปแต่งสายกาว นิยายแชท สักเรื่อง สองเรื่อง ดีกว่าไหม !!!
ผลงานนิยาย by แสงอักษร
เห้อ !!! คิดแล้วก็เสียดาย ตอนนั้นความคิดไหลมาเยอะมาก แต่ไม่ได้เขียนเก็บไว้ …
แต่ไม่เป็นไร เพราะมันผ่านไปแล้วเนอะ หือออออ เสียดาย
นี่ไง คนเรา พอไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็จะตีความไปผิด ๆ แบบผู้เขียนนี้ละค่ะ
ถือว่ายังโชคดีที่ได้เจอกับทั้งสองท่าน คือพี่โจ้พี่เน็ตและหนังสือ Big Magic ในวันนั้น ของ อลิซาเบธ กิลเบิร์ต
ขอบคุณค่ะ
แถมไว้อีกนิดกันลืม
พอได้เขียนบทนี้แล้ว ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า เคยฝึกเข้าฌานสี่ลัดนิ้วมือเดียว แล้วก็มีนักเรียนท่านหนึ่งถามอาจารย์ท่านที่สอนว่า แล้วฌาน 1,2,3, ละ เข้ายังไง อาจารย์ไม่สอนเหรอครับ ?
อาจารย์ตอบว่า ผมพาฝึกแบบง่าย ๆ สายติวเตอร์ ขึ้นข้างบนให้ได้ก่อน แล้วค่อยย้อนลงมาข้างล่าง ไม่ดีเหรอ ทำไมถึงอยากไต่ 1,2,3, …
… โอกาสหน้าจะเขียนเรื่องแนวนี้เพิ่ม วันนี้นึกขึ้นได้แค่นี้ก่อน (ยังไม่ได้ขออนุญาตท่านอาจารย์)
...ผู้สังเกตการณ์
ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการเขียน Morning Pages
เกี่ยวกับผู้เขียน แต่งนิยายในนาม : แสงอักษร
ติตามผลงานเพิ่มเติ่มที่
โฆษณา