มหาเศรษฐีแสนล้าน ที่ตั้งเป้าบริจาคคืนสู่สังคม จนตัวเองเหลือ 0 บาท
ถ้าเรามีเงิน 2 แสนล้านบาท เราจะทำอะไรกับมันอย่างแรก ?
เงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ เราสามารถใช้ซื้ออาณาจักรค้าส่ง Makro ในประเทศไทย ได้ทั้งบริษัท (มูลค่าบริษัท สยามแม็คโคร ณ ปัจจุบันอยู่ที่ราว ๆ 190,000 ล้านบาท)
หรือบางคนอาจเลือกนำเงินเยอะขนาดนี้ ไปใช้เพื่อซื้อความสุขให้กับตัวของเราเอง อยู่อย่างสุขสบาย เพื่อเป็นรางวัลให้กับชีวิต เพื่อฉลองให้กับความสำเร็จ
แต่สำหรับชายคนที่ชื่อว่า Chuck Feeney ความสุขของเขาคือ การนำเงินตัวเองคืนกลับสู่สังคม และได้ให้คำมั่นสัญญาว่าเขาจะตายจากโลกนี้ไป “ด้วยเงิน 0 บาท”
ว่าแต่.. Chuck Feeney คือใครกัน ?
Charles Chuck Feeney เป็นชาวอเมริกัน เกิดปี 1931 ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา
ซึ่งตรงกับช่วงที่สหรัฐอเมริกาประสบกับวิกฤติครั้งยิ่งใหญ่ ที่เราเรียกวิกฤตินั้นว่า “The Great Depression” พอดี
Feeney สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง จากการทำธุรกิจ Duty Free หรือธุรกิจร้านค้าปลอดภาษี ที่เขาข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำที่ประเทศฮ่องกงร่วมกับเพื่อนสนิทของเขา Robert Miller
ธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีของเขา ก่อตั้งขึ้นในปี 1960 โดยมีชื่อว่า DFS Group
ต่อมาในปี 1996 Miller และ Feeney ได้ขายกิจการของ DFS Group ให้กับเจ้าของแบรนด์หรูจากประเทศฝรั่งเศสอย่าง LVMH โดยมูลค่าดีลนี้ สูงถึงราว ๆ 54,000 ล้านบาท
โดยในปี 1982 ก่อนหน้า LVMH จะมาเทกโอเวอร์กิจการเขาไป เขาได้ก่อตั้งมูลนิธิที่มีชื่อว่า “The Atlantic Philanthropies” จุดประสงค์เพื่อบริจาคเงินให้แก่ วิทยาศาสตร์ สิทธิมนุษยชนและเยาวชนขึ้นมา
ซึ่งรู้หรือไม่ว่า มูลนิธิของเขา กลายเป็นความลับนานถึง 15 ปี ตั้งแต่ปี 1982-1997
จากนั้นคนก็ได้เริ่มต้นรู้จัก Feeney และเข้าใจจุดมุ่งหมายของเขาที่อยากจะเปลี่ยนโลกให้มีความน่าอยู่มากขึ้น
การที่เขาชอบบริจาคเงินช่วยเหลือองค์กรอื่นหรือคนอื่น ๆ แบบไม่เปิดเผยตัวตน ทำให้เขาได้ฉายา เจมส์ บอนด์ ของโลกแห่งการบริจาคเลยทีเดียว
ในบทสัมภาษณ์ต่าง ๆ ของ Feeney มักจะย้ำเตือนสิ่งหนึ่งอยู่เสมอ
นั่นก็คือ “ความรับผิดชอบ” เป็นของคู่กันกับ “ความมั่งคั่ง” เพราะหากคนรวยที่มีทรัพย์สินมากมาย แต่ก็ยังไม่สนใจที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ปัญหาจะไม่มีวันหมดจากโลกนี้
ความเป็นตัวตนของ Feeney กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่าเศรษฐีทั่วโลกอย่าง Bill Gates และ Warren Buffett จนทำให้เขาทั้งคู่ได้ก่อตั้งแคมเปญ “The Giving Pledge” ขึ้นมา
โครงการมูลนิธิ The Giving Pledge กลายเป็นคำมั่นสัญญาของเหล่ามหาเศรษฐีทั่วโลกที่จะการันตีว่า เมื่อพวกเขาได้จากโลกนี้ไปแล้ว พวกเขาจะบริจาคเงินคืนให้แก่สังคม
โดยในปี 2020 โครงการนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก จนมีเหล่ามหาเศรษฐีเข้าร่วมโครงการนี้ไปแล้วถึง 211 คน จาก 23 ประเทศทั่วโลก
นี่คือความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของ Feeney ชายผู้ที่ก่อนหน้านี้ ถูกประเมินว่ามีทรัพย์สินส่วนตัวมากกว่า 2.5 แสนล้านบาท ได้สร้างแรงบันดาลใจในการคืนเงินกลับสู่สังคม
ชายผู้เคยมีทรัพย์สินมากกว่า 2.5 แสนล้าน แต่ยังคงพักอาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ กับภรรยาของเขา
ชายผู้เคยมีทรัพย์สินมากกว่า 2.5 แสนล้าน แต่ยังชอบใช้บริการสายการบินชั้นประหยัด
ชายผู้เคยมีทรัพย์สินมากกว่า 2.5 แสนล้าน แต่ยังชอบใส่นาฬิกา Casio เรือนละไม่กี่ร้อยบาท
แม้หลายคนจะมองว่า คนรวย มีเงินเป็นแสนล้าน จะพูดอะไรก็ได้ จะบริจาคเยอะแค่ไหนก็ได้ เพราะอย่างไรชีวิตเขาก็ไม่ลำบากลงมากเท่าไรอยู่แล้ว
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตัวตนที่แท้จริงของ Feeney ที่ถือปณิธานเรื่องอยากช่วยเหลือสังคมให้ดีขึ้น มันก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เศรษฐีหลายคน และเขาก็ได้กลายเป็นฮีโร ในเรื่องของใครหลายคน ไปแล้วในตอนนี้
โดยปัจจุบัน Feeney บริจาคเงินส่วนตัวคืนกลับสู่สังคมมากกว่า 2.5 แสนล้านบาท ทำให้ตอนนี้เขาเหลือทรัพย์สินส่วนตัว อยู่ไม่ถึง 60 ล้านบาท..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
ในเดือนกันยายน ปี 2020 Feeney ในวัย 89 ปี
ก็กำลังเข้าใกล้การบรรลุเป้าหมายสุดท้ายของชีวิตอีกขั้นแล้ว โดยการโอนเงินเกือบทั้งหมดในบัญชีของเขาไปสู่มูลนิธิ The Atlantic Philanthropies ที่เขาได้ก่อตั้งขึ้น
เขากำลังทำตามสัญญาที่ได้บอกไว้กับทุกคนว่า เขาอยากจะจากโลกนี้ไปด้วยเงิน 0 บาท และทำให้โลกได้รู้ว่า “สุดท้ายคนเราตายไป ก็เอาอะไรกลับไปไม่ได้”
Feeney ยังพูดไว้เสมอว่า Zero is the new hero หรือก็คือ เลข 0 คือ ฮีโรอันแท้จริง..
Sponsored by JCB
เอกสิทธิ์สไตล์ญี่ปุ่นเหนือระดับกับบัตรเครดิต JCB สามารถติดตามข้อมูลที่น่าสนใจ ทั้งเกร็ดความรู้จากประเทศญี่ปุ่น และสิทธิประโยชน์พิเศษเฉพาะผู้ถือบัตรเครดิต JCB ได้ สนใจคลิก https://www.facebook.com/JCBCardThailandTH
#JCBThailand #JCBใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา
References:
- 37
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
