เมื่อรัฐบาลจีนไล่เชือดบริษัทยักษ์เทคโนโลยี
อ้างความมั่นคง เกรงคุมไม่ได้ กระทบหุ้นร่วงกราว
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาข่าวคราวการเข้าควบคุมบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของประเทศจีน โดยรัฐบาลของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งนับว่าไล่ ‘เชือด’ กันรายบริษัทเลยทีเดียว นับตั้งแต่ที่ แจ็ค หม่า แห่ง Alibaba โดนเชือดจนไม่มีพื้นที่สื่อให้ยืนหลังจากวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนไปเมื่อช่วงปีที่แล้ว
นอกจากนี้ยังจัดการกับ Tencent ด้วยการสั่งให้ยกเลิกการผูกขาดลิขสิทธิ์เพลงภายใน 30 วัน พร้อมสั่งปรับเงินอีกเป็นจำนวน 5 แสนหยวน หรือราว 2.5 ล้านบาท จากการเข้าซื้อกิจการ China Music ในปี 2016 ซึ่งเข้าข่ายการผูกขาดทางการตลาด
รวมทั้งยังจ่อลงดาบแอปพลิเคชัน 43 แอปฯ ซึ่งมีแอปพลิเคชัน ‘WeChat’ ของ Tencent Holdings รวมอยู่ด้วย โดยระบุว่า มีการดำเนินการถ่ายโอนข้อมูลผู้ใช้งานทั้งรายชื่อผู้ติดต่อและข้อมูลอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งยังมีการคุกคามผู้ใช้บริการด้วยหน้าต่างป๊อปอัพ จึงได้สั่งให้บริษัทแม่ของกลุ่มแอปพลิเคชันดังกล่าวเร่งดำเนินการแก้ไขทันที
🔵 ทำไมรัฐบาลจีนต้องคุมเข้ม
ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุว่า รัฐบาลจีนมีมาตรการด้านเศรษฐกิจ ที่คาบเกี่ยวไปถึงความมั่นคงของชาติในด้านต่างๆ ซึ่งเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีก็เป็นหนึ่งในแผนของจีนที่จะเข้าควบคุมอย่างจริงจัง เป้าหมายก็คือการจัดการกับการผูกขาดทางธุรกิจของบริษัทต่างๆ ที่เริ่มรุกคืบเข้ามาต่อกรกับกิจการของรัฐบาล รวมทั้งการจัดการการเข้าถึงความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ซึ่งแผนนี้มีระยะเวลา 5 ปี
เป้าการจัดการไม่ใช่แค่พุ่งไปที่บริษัทเทคฯ เท่านั้นยังมีมิติอื่นๆ ในธุรกิจและอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วย บริษัทให้บริการด้านการศึกษาออนไลน์ หรือพวกติวเตอร์ทั้งหลาย ด้วยการออกมาตรการ ห้ามเป็นธุรกิจที่ค้ากำไร
รวมทั้งธุรกิจเกมออนไลน์ที่รัฐบาลได้วิจารณ์ถึงอุตสาหกรรมดังกล่าวว่ามีการสร้างปัญหาให้เยาวชนเสพติด จนส่งผลให้นักลงทุนได้เทขายหุ้นจีนกันจนร่วงทั้งกระดาน
รัฐบาลจีนมีจุดประสงค์ที่ต้องการจัดระเบียบสังคมภายในประเทศ ในทุกๆ ด้าน การที่บริษัทต่างๆ เริ่มเติบโตมากขึ้นส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะรัฐบาลจีนให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่พอวันที่เติบโตจนปีกกล้าขาแข็งแล้ว สิ่งที่รัฐบาลจีนกลัวคือ การไม่สามารถควบคุมบริษัทเหล่านี้ได้อีกต่อไป ดังนั้นแม้จะใหญ่โตขนาดไหน ก็ต้องไม่ใหญ่หรือมีอำนาจไปกว่ารัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์
อาจเป็นเพราะรัฐบาลจีนมองว่าการเติบโตของ Big Data และปัญญาประดิษฐ์ เมื่อบวกกับพลังของบริษัทเทคโนโลยีจีนแล้วนั้น อาจส่งผลต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนในอนาคตได้ จึงต้องขอเข้าถึงข้อมูลของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งโดยอ้างความมั่นคงของชาติ
🔵 หุ้นจีนร่วงทั้งแผง แต่มั่นใจว่าเป็นแค่ระยะสั้น
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า หุ้นของบริษัท Alibaba Group Holding ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวานนี้ร่วง 5.4% ลงไปสู่มูลค่าต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนแห่เทขายหลังจากทางการจีนจะเข้ามาควบคุมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเพิ่มเติมอีก
นักลงทุนมองว่าหุ้นของบริษัทโฆษณายักษ์ใหญ่ของจีนไม่ค่อยดี หลังจากผู้บริหารของ Tencent Holdings เผยว่า รัฐบาลจีนอาจเปลี่ยนกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการใช้ดาตาในการยิงโฆษณาของบริษัทต่างๆ
การไล่จัดระเบียบธุรกิจเทคโนโลยีของรัฐบาลจีนส่งผลให้มูลค่าหุ้นจีนในตลาดทั่วโลกหายไปราว 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเดือนที่แล้ว ไม่เท่านั้นยังทำให้บรรยากาศหุ้นเอเชียในภาพรวมไม่ค่อยสดใส ท่ากลางสถานการณ์โรคระบาดที่ไม่มีวันจบสิ้นเสียที
อย่างไรก็ตามประธาน Tencent มาร์ติน เลา ยอมรับว่า การปรับปรุงกฎระเบียบของรัฐบาลจีนจะทำให้เกิดความผันผวนในช่วงสั้นๆ แต่ Tencent ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง และมั่นใจว่าจะสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบใหม่ของรัฐบาลจีนได้เป็นอย่างดี
ส่วนมุมมองของนักลงทุนระยะสั้นที่มองการลงทุนหุ้นเทคโนโลยีจีนในระยะเวลาต่ำกว่า 1 ปี อาจต้องเผชิญความผันผวนสูงหากคิดจะลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่รัฐบาลจีนจะยังเดินหน้าตรวจสอบข้อมูลของบริษัทอยู่
- 102
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
