3 ก.ย. 2021 เวลา 07:00 • ประวัติศาสตร์
บริษัทอีสท์เอเชียติก – สายสัมพันธ์การค้าและประชาชนไทย-เดนมาร์ก
สำนักงานใหญ่บริษัทอีสท์เอเชียติก ในกรุงเทพฯ
บริษัทอีสท์เอเชียติก มีความสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์พิเศษต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเดนมาร์ก โดยบริษัทฯ ได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๐ โดยนายฮันส์ นีลส์ แอนเดอร์เซน กัปตันเรือชาวเดนมาร์ก ที่เดินทางถึงกรุงเทพฯ ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๖ และต่อมาได้เป็นกัปตันเรือพระที่นั่ง “ทูลกระหม่อม” ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕)
นายฮันส์ นีลส์ แอนเดอร์เซน ผู้ก่อตั้งบริษัทอีสท์เอเชียติก
เรือพระที่นั่ง “ทูลกระหม่อม” ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ซึ่งนายฮันส์ นีลส์ แอนเดอร์เซน ผู้ก่อตั้งบริษัทอีสเอเชียติก เป็นกัปตันเรือ
บริษัทอีสท์เอเชียติกมีต้นกำเนิดมาจากบริษัท Andersen & Co. ซึ่งเป็นบริษัทที่นายฮันส์ฯ ก่อตั้งขึ้นร่วมกับนาย ปีเตอร์ แอนเดอร์เซน กัปตันเรือชาวเดนมาร์กอีกคนหนึ่ง โดยเปิดกิจการครั้งแรกที่กรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๗ เพื่อทำธุรกิจเดินเรือ การค้า และการขนส่งไม้สัก และต่อมาเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ลในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ บริษัท Andersen & Co. ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสยามก่อนแปรสภาพมาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทอีสท์เอเชียติกอีกด้วย
ในช่วงที่นายฮันส์ นีลส์ แอนเดอร์เซน ก่อตั้งบริษัทอีสท์เอเชียติกขึ้นที่เดนมาร์กในเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๔๔๐ บริษัทฯ มีสำนักงานเพียงสองแห่ง คือ ที่กรุงโคเปนเฮเกนและกรุงเทพฯ โดยสำนักงานกรุงโคเปนเฮเกนทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของยุโรปและดำเนินกิจการนำเข้าและส่งออกสินค้าทั่วโลก ในขณะที่สำนักงานในกรุงเทพฯ ดูแลการนำเข้าและกิจการป่าไม้ทั้งหมดของบริษัท Andersen & Co. รวมทั้งการส่งออกไม้สักและการทำป่าไม้สัก
โรงเลื่อยบริษัทอีสท์เอเชียติก และการแปรรูปไม้สักที่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาธุรกิจและการเติบโตของบริษัทฯ ในด้านการส่งออกไม้สักในภูมิภาคเอเชีย
สำนักงานใหญ่บริษัทอีสท์เอเชียติกในกรุงโคเปนเฮเกนเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๑ และอาคาร Asia House ในปัจจุบันที่เป็นที่ตั้งของสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ในกรุงโคเปนเฮเกนจนกระทั่งปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๓
ต่อมาเมื่อกระแสโลกาภิวัตน์นำมาซึ่งการพัฒนาระบบการติดต่อสื่อสารและการคมนาคมที่ง่ายขึ้นทำให้อิทธิพลของบริษัทอีสท์เอเชียติกลดลง และในที่สุดบริษัทฯ ได้ปิดกิจการลงในปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ปัจจุบันอาคารบริษัทอีสท์เอเชียติกตั้งอยู่ที่ซอยเจริญกรุง ๔๐ เขตบางรัก ริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งไม่ไกลจากโรงแรม แมนดารินโอเรียนเต็ล ซึ่งถือเป็นอนุสรณ์แห่งช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดช่วงหนึ่งของไทยในด้านธุรกิจระหว่างประเทศและสายสัมพันธ์การค้าไทย-เดนมาร์กที่เข้มแข็ง นอกจากนี้ อาคารบริษัทอีสท์เอเชียติกยังเคยได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่นในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนอาคารหลังนี้ให้เป็นโบราณสถาน โดยถูกใช้เป็นหนึ่งในสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะในงานบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ๒๐๑๘ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๑
อีกหนึ่งอนุสรณ์สถานแห่งความร่วมมือระหว่างบริษัทอีสท์เอเชียติกกับประเทศไทยคือพิพิธภัณฑ์ไม้สักที่ตั้งอยู่ในจังหวัดแพร่ โดยในอดีตอาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นที่ทำการของบริษัทฯ และที่พักของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ในช่วงที่บริษัทฯ ได้รับสัมปทานไม้สัก นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ยังจัดแสดงภาพถ่ายประวัติการผลิตไม้สัก อุปกรณ์ และการส่งออกในอดีต
พิพิธภัณฑ์ไม้สักในจังหวัดแพร่
ในขณะที่ เอเชียเฮ้าส์เป็นมรดกชิ้นสำคัญของบริษัทอีสท์เอเชียติกในเดนมาร์ก โดยอาคารเอเชียเฮ้าส์ถูกใช้เป็นสำนักงานใหญ่แห่งแรกของบริษัทอีสท์เอเชียติกในกรุงโคเปนเฮเกน ระหว่างปี ๑๘๙๘ - ๑๙๐๗ ปัจจุบันเอเชียเฮ้าส์มีมูลนิธิบริษัทอีสท์เอเชียติกเป็นเจ้าของและทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเก็บรักษาความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของบริษัทอีสท์เอเชียติกและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเดนมาร์กและภูมิภาคเอเชีย
นอกจากบริษัทอีสท์เอเชียติกจะมีบทบาทสำคัญในด้านการค้าของประเทศไทยแล้ว ยังมีส่วนในการช่วยกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับเดนมาร์ก โดยหลักฐานของความสัมพันธ์ดังกล่าวคือการก่อตั้งสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยในกรุงโคเปนเฮเกนเมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๑ ซึ่งนายฮันส์ นีลส์ แอนเดอร์เซน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์คนแรกและดำรงตำแหน่งจนถึง พ.ศ. ๒๔๗๕ ซึ่งต่อมา ประเทศไทยได้แต่งตั้งอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทอีสท์เอเชียติกให้ดำรงตำแหน่งนี้ต่อเนื่องเรื่อยมาแม้ว่าจะมีการตั้งสถานเอกอัครราชทูตไทยในเดนมาร์กเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๑ แล้วก็ตาม
สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ในกรุงโคเปนเฮเกนได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ หลังการเสียชีวิตของนายคาร์สเทน เด็งเค่อ นีลเซ่น กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์คนสุดท้ายของประเทศไทยในกรุงโคเปนเฮเกนเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งตลอดเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยในกรุงโคเปนเฮเกนมีบทบาทสำคัญในการช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
งานวันปิยมหาราชที่จัดขึ้นที่ Asia House เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยมีทีมประเทศไทย ชุมชนไทยในเดนมาร์ก และผู้บริหารเอเชียเฮ้าส์เข้าร่วม
งาน “An Afternoon of Authentic Thai Cuisine with Chef McDang” ที่จัดขึ้นที่ Asia House เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยหม่อมหลวงศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์ หรือเชฟหมึกแดงสาธิตการปรุงอาหารไทยแบบดั้งเดิมให้แก่ คณะทูตานุทูต Friends of Thailand และบุคคลจากแวดวงด้านอาหารและวัฒนธรรมของเดนมาร์ก
บทความโดย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน
โฆษณา