28 ส.ค. 2021 เวลา 12:21 • กีฬา
กรณีศึกษาของดาวรุ่งที่ไม่ยอมต่อสัญญากับบาร์ซ่า จนโดนจับดองยาว นี่คือเรื่องของอิลาช โมริบา สตาร์ที่ฟอร์มร้อนแรง แต่ตอนนี้ไม่รู้จะแรงต่อได้แค่ไหน
3
หลังจากเสียลีโอเนล เมสซี่ ให้ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ดราม่าของบาร์เซโลน่ายังมีอย่างไม่หยุดหย่อน ล่าสุดเรื่อง อีลาช โมริบา ก็เป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจอย่างมากของสโมสร
1
แม้แต่โรนัลด์ คูมัน เฮดโค้ชของทีม ก็ยอมรับว่า เรื่องนี้มันช่าง Horrible เป็นอะไรที่แย่ที่สุด และไม่รู้ว่าควรจะหาทางออกไปเหลี่ยมไหน ถึงจะจบเรื่องนี้ได้สวยที่สุด
1
แบ็กกราวน์ของดราม่านี้ คนที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องคือดาวรุ่งบาร์เซโลน่าที่ชื่อ อีลาช โมริบา
โมริบา เกิดที่เมืองโคนากรี้ ในประเทศกีนี เมืองเดียวกับนาบี เกอิต้า แต่อพยพตามคุณพ่อคุณแม่ มาอยู่ที่บาร์เซโลน่าตั้งแต่เล็กๆ ก่อนจะเข้าไปอยู่ศูนย์ฝึกลา มาเซีย ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ
การมีเชื้อสายแอฟริกัน ทำให้เขามีบอดี้แข็งแกร่ง รูปร่างสูงใหญ่ แต่การที่อยู่ในยุโรปตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาเรียนรู้ทักษะฟุตบอลที่ถูกต้องด้วย นั่นทำให้โมริบา เป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมของสองทวีป
3
ตำแหน่งที่โมริบาเล่นคือกองกลาง ซึ่งก็ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่คนจะเปรียบเทียบสไตล์ของเขา ว่าเหมือนพอล ป็อกบา เป็นอย่างมาก ทั้งส่วนสูงที่ไม่ต่างกันมาก (โมริบา 185 ซม. - ป็อกบา 191 ซม.) และเทคนิคที่ไม่ธรรมดา คือเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์เหมือนๆ กัน
บาร์เซโลน่านั้นทราบดี ว่าโมริบาคือเพชรเม็ดงามของสโมสร จึงให้โอกาสเยอะมากๆ ถ้าหากเทียบกับเด็กรุ่นเดียวกัน ตอนอายุ 15 เขากับอันซู ฟาติ ดาวรุ่งอีกคน กระโดดไปเล่นร่วมกับทีม U-19 คือศักยภาพเหนือกว่าเด็กอายุใกล้ๆกัน ไปไกลแล้ว
1
จากนั้นเส้นทางชีวิตของเขาก็สวยงามมาก ถูกเรียกติดทีมชาติสเปนชุด U-17 ไปเล่นรายการชิงแชมป์โลก ร่วมกับเปดรี้ ที่ตอนนั้นอยู่ลาส พัลมาส (ก่อนจะย้ายมาร่วมทัพบาร์ซ่าในภายหลัง)
1
เมื่อเด็กฟอร์มดีซะขนาดนี้ ในปี 2019 บาร์เซโลน่าจับเซ็นสัญญา ระยะยาว 3 ปี เพื่อรั้งให้โมริบาอยู่กับทีมต่อไป โดยจ่ายค่าเหนื่อยปีละ 1 ล้านยูโร (สัปดาห์ละ 19,000 ยูโร) พร้อมทั้งมีค่าฉีกสัญญา 100 ล้านยูโร
ตัวเลข 19,000 ยูโรต่อสัปดาห์ อาจจะไม่เยอะมาก ถ้าเทียบกับนักเตะอาชีพคนอื่น แต่ถ้าคิดว่าเขาคือดาวรุ่งอายุ 16 ปี การได้เงินระดับนี้ ก็เป็นตัวเลขที่น่าประทับใจแล้ว
หลังจากเซ็นสัญญา บาร์เซโลน่าก็ดันโมริบาขึ้นมาไกลเรื่อยๆ จาก U-19 ก็อัพเลเวลมาเล่นกับบาร์เซโลน่า เบ และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อสร้างสถิติ เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ที่ยิงประตูให้บาร์เซโลน่า เบ ด้วยวัย 17 ปี กับอีก 48 วัน เป็นรองแค่ฌอง มารี ดงกู คนเดียวเท่านั้น (ตอนนี้ ดงกู ย้ายไปเล่นในลีกฟินแลนด์แล้ว)
2
สโมสรนั้นหวังกับโมริบาเอาไว้มาก เพราะแม้เขาจะเกิดที่ประเทศกีนีก็เถอะ แต่ก็มาโตที่คาตาลัน จะว่าไปแล้วก็เหมือนเป็นเด็กท้องถิ่นนั่นแหละ และด้วยตำแหน่งของโมริบานั้น ถ้าเซร์คิโอ บุสเกตต์ รีไทร์ในอนาคตข้างหน้า เขาก็สามารถเสียบแทนตำแหน่งได้ทันที คือปั้นมาทดแทนกันได้เลย
2
ในฤดูกาล 2020-21 เมื่อโรนัลด์ คูมันเข้ามาเป็นเฮดโค้ชบาร์เซโลน่า เขาเห็นแววของเด็กคนนี้ทันที และให้โอกาสลงสนาม เริ่มจากโกปา เดล เรย์ ในเดือนมกราคม 2021 ตามด้วย เกมลาลีกานัดแรก เจอกับอลาเบส ในเดือนกุมภาพันธ์ โดย ณ เวลานั้น โมริบา มีอายุ 18 ปี กับอีก 25 วัน
2
เกมแรกที่เจอกับอลาเบส เขาอยู่ในสนามแค่ 29 นาที ก็ทำแอสซิสต์ได้สวยๆ ให้ตรินเกา ซัดเข้าไป ก่อนช่วยทีมชนะขาดลอย 5-1 จากนั้นในเกมกับเซบีญ่า เขาแอสซิสต์ให้ลีโอเนล เมสซี่ ช่วยทีมชนะ 2-0 ก่อนที่ในเกมกับโอซาซูน่า โมริบาจะซัดไกล 20 หลา ช่วยทีมชนะ 2-0
1
เราจะเห็นได้เลยว่า ทรงของโมริบา ดูดีเอามากๆ การอยู่กับลา มาเซีย มานาน ทำให้เขารู้จังหวะเคลื่อนที่เป็นอย่างดี ว่าควรไปตรงไหน ควรทำอะไร นั่นทำให้คูมันชอบใช้งานเขามากกว่ามิราเล็ม ปานิช ที่คว้าตัวมาจากยูเวนตุสเสียอีก
1
14 เกมหลังสุดของลาลีกา ในซีซั่น 2020-21 โมริบาได้ลงสนาม 13 นัด ส่วนปานิช ได้ลงเพียงแค่ 2 นัด ในฐานะตัวสำรองทั้ง 2 เกม
นอกจากนั้นโมริบายังได้ลงเล่นในโกปา เดล เรย์ นัดชิงชนะเลิศอีกด้วย คือเห็นกันชัดๆเลยว่า แม้ชื่อเสียงจะไม่ใช่ซูเปอร์สตาร์ แต่บาร์เซโลน่าดูจะตั้งความหวังที่โมริบาเอาไว้มากจริงๆ
แต่ปัญหาของเรื่องนี้เกิดขึ้น หลังจากจบฤดูกาล 2020-21 เมื่อสัญญาของโมริบากับบาร์เซโลน่าเหลือแค่ 1 ปี ทั้งสองฝ่ายก็จะเข้าสู่วงเจรจากัน เพื่อขยายสัญญาระยะยาวออกไป
ดีลนี้คล้ายๆ กับในอดีต ที่บาร์เซโลน่าเซ็นสัญญากับเมสซี่ คือเซ็นคอนแทร็กต์ฉบับแรกตอนเมสซี่เป็นเยาวชน แล้วพออายุครบ 18 ก็ต่อสัญญาระยะยาวออกไป ด้วยค่าเหนื่อยที่อัพขึ้นจากเดิม
แต่ปัญหาที่บาร์เซโลน่าเผชิญคือวิกฤติการเงิน การบริหารการเงินที่ล้มเหลวในยุคบาร์โตเมว มันส่งผลต่อยุคใหม่ของโจน ลาปอร์ต้าด้วย
3
ที่สเปนนั้น ลาลีกาจะกำหนด Salary Cap ของสโมสร ว่าทุกทีม ห้ามมีค่าเหนื่อยนักเตะสูงเกินกว่า 70% ของรายรับ นั่นคือเหตุผลที่บาร์ซ่าไม่สามารถต่อสัญญาเมสซี่ได้ เพราะถ้าต่อสัญญากับเมสซี่ จะทำให้ค่าเหนื่อยทะลุเพดานไปสูงถึง 110% ของรายรับ
3
การไม่ต่อสัญญากับเมสซี่ ทำให้บาร์ซ่าลดเพดานค่าเหนื่อยเหลือเป็น 95% ของรายรับ ซึ่งก็ยังไม่พออยู่ดี ต้องดั๊มพ์ค่าเหนื่อยลงจากเดิมอีก ทำให้นักเตะซีเนียร์ของทีม อย่างเคราร์ด ปิเก้, จอร์ดี้ อัลบา, เซร์คิโอ บุสเกตต์ และ เซร์จี้ โรแบร์โต้ แสดงสปิริตลดค่าเหนื่อย เพื่อให้สโมสรประคองตัวได้ สามารถแข่งขันลาลีกาในซีซั่น 2021-22 ได้โดยไม่ผิดกฎ
เมื่อการเงินมีความตึงเปรี๊ยะขนาดนี้ นั่นแปลว่า การต่อสัญญาอิลาช โมริบา จึงมีปัญหาเกิดขึ้น กล่าวคือ บาร์เซโลน่าพร้อมต่อสัญญาฉบับใหม่ แต่จ่ายเงินได้สูงสุดแค่ 2 ล้านยูโรต่อปี (สัปดาห์ละ 38,000 ยูโร) แต่โมริบา ขอเรียกร้องปีละ 3 ล้านยูโร (สัปดาห์ละ 57,000 ยูโร)
ตัวเลขช่องว่างแค่ 1 ล้านยูโร อาจจะดูน้อยมาก สำหรับทีมอื่นๆ แต่กับบาร์ซ่า ที่การเงินมันคาบเส้นพอดี และไม่สามารถลดทอนค่าเหนื่อยของนักเตะคนอื่นๆได้อีกแล้ว เท่าที่เป็นอยู่คือแม็กซิมั่มแล้ว การเสนอให้โมริบา 2 ล้านยูโรต่อปี จึงเป็นสิ่งดีที่สุด ที่พวกเขาทำได้ตอนนี้แล้ว
2
ในมุมของสโมสร อยากให้โมริบาช่วยๆกันไปก่อน ถ้าอนาคตโควิด-19 หายไป การเงินสโมสรกลับมาปกติ แล้วเดี๋ยวค่อยมาเจรจาตัวเลขกันใหม่ ตอนนี้ทีมกำลังวิกฤติ ยังไงก็ให้เห็นแก่ว่าสโมสรก็ปลุกปั้นเขามาตั้งแต่ 7 ขวบ
3
แต่มุมของโมริบาไม่ได้คิดแบบนั้น กล่าวคือ เขาเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง และคู่ควรกับค่าเหนื่อยที่มากกว่านี้ เด็กวัย 18-19 คนอื่น ถ้ามีแววขนาดนี้ คุณรับค่าเหนื่อยระดับ 1 แสนยูโรต่อสัปดาห์ได้สบายๆ แต่เขาขอแค่ 57,000 ต่อวีก ยังโดนปฏิเสธอีก แบบนี้มันยุติธรรมหรือ
3
คุณพ่อของโมริบา ไปให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุโดยบอกว่า ตอนนี้เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ยูเวนตุส พร้อมจะจ่ายค่าเหนื่อยมากกว่าที่บาร์ซ่ามอบให้เป็นเท่าตัว แต่ลูกชายของเขาก็ยังไม่ยอมเจรจากับทีมอื่น และรอ ขอแค่ให้บาร์ซ่าจ่ายค่าเหนื่อยตามตัวเลขที่เรียกร้องไปแค่นั้น ซึ่งเอาจริงๆ มันก็ไม่ใช่เงินที่มากมายอะไรเลย
1
คุณพ่อกล่าวว่า "เราต้องการประสบความสำเร็จกับบาร์เซโลน่านะ แต่ความจริงก็คือ เรื่องเงินมันก็สำคัญเช่นกัน"
สถานการณ์จึงหยุดค้างกันอยู่ที่ตรงนี้ โมริบาไม่ยอมต่อสัญญา ถ้าหากไม่ได้ตัวเลขที่ต้องการ ก็ปล่อยให้สัญญาหมดไปเลย แล้วในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 ก็ค่อยย้ายทีมแบบบอสแมนไปเลยดีกว่า
1
มุมของโมริบามองว่า เขาเองก็เสียสละขอรับค่าเหนื่อยแค่นี้แล้วนะ ทำไมสโมสรไม่ยอมอีก ถ้าเห็นว่าเขาสำคัญจริงกับอนาคต เรื่องแค่นี้ต้องจัดสรรได้สิ
ส่วนบาร์เซโลน่าก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว พวกเขาอยากจะให้เงินนั่นแหละ แต่ถ้าทำแบบนั้นก็ต้องโละนักเตะบางคนออกไป ซึ่งเท่าที่เป็นอยู่ ก็มีตัวให้เล่นแทบจะพอดีคนอยู่แล้ว
โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสรบาร์ซ่า ให้สัมภาษณ์ว่า "อิลาชเหลือสัญญา 1 ปี และตัดสินใจจะไม่ต่อสัญญาออกไป อย่างไรก็ตาม ผมอยากให้เขาคิดถึงสโมสรเอาไว้ เขาไม่ควรจะปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ และผมอยากให้เขาทบทวนเรื่องการต่อสัญญาอีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าเขาเข้าใจหรือเปล่า ว่าสิ่งที่สโมสรทุ่มเทให้เขามาตลอด มันมีคุณค่ามากแค่ไหน"
โมริบาไม่ยอมเปลี่ยนใจ ถ้าไม่ให้ตัวเลข 3 ล้านยูโรต่อปี เขาก็ย้ายทีมแค่นั้น เรื่องคุณงามความดีอะไรที่สั่งสมกันมา มันไม่ใช่เหตุผลที่เขาต้องยอมได้รับค่าเหนื่อยน้อยกว่าความสามารถ
แล้วอาชีพนักเตะ การใช้งานมันก็ไม่นานนัก ถ้าหากมีช่วงเวลาที่สามารถกอบโกยรายได้เยอะๆ ก็ควรจะทำ เพราะไม่มีอะไรการันตี ว่าอีก 2-3 ปี บาร์ซ่าจะยอมอัพค่าเหนื่อยให้เขาตามที่พูดจริง ถ้าได้เงินเยอะทันทีรีบคว้าไว้ไม่ดีกว่าหรือ
2
เมื่อเป็นแบบนั้น บาร์เซโลน่าเลยใช้ปฏิบัติการตอบโต้ ด้วยการไม่เรียกตัวโมริบา มาร่วมทีมชุดใหญ่ในช่วงปรีซีซั่น จากนั้นก็ส่งโมริบาไปเล่นทีมบาร์เซโลน่า เบ
แต่ลาปอร์ต้าไม่พอใจแค่นั้น เขาเล่นบทโหดเพิ่มอีก ด้วยการสั่งห้ามโค้ชใช้งานโมริบา ทั้งทีมชุดใหญ่ ชุดเบ และชุด U-19 ห้ามนั่งเป็นตัวสำรอง ห้ามเดินทางไปกับเพื่อนร่วมทีม สตาฟฟ์ทุกคนในสโมสรให้ปล่อยเบลอ และทำเหมือนโมริบา เป็นคนไร้ตัวตนไปเลย
นี่เป็นวิธีการตอบโต้ที่รุนแรงมาก กล่าวคือ นักฟุตบอลถ้าคุณไม่ได้เล่นเกมทางการ 1 ปี คาดหวังหรือ ว่าฝีเท้าจะดีเหมือนเดิม กว่าจะผ่าน 1 ปีไป สโมสรใหญ่ๆที่เคยต้องการโมริบา อาจจะไม่อยากได้แล้วก็ได้
ถามว่าบาร์ซ่าโหดไหม ก็โหดจริง แต่มันก็เป็นสิทธิ์ที่พวกเขาจะทำได้ ในเมื่อนักเตะมีสัญญาเหลืออยู่ 1 ปี สโมสรจะไม่ส่งลงเล่นเลยสักเกม ก็ทำได้อยู่แล้ว
แต่โมริบา เห็นบาร์ซ่าแรงมาก็แรงตอบ ไม่ให้เล่นก็ไม่เล่น ซ้อมเฉยๆ ทั้งปี แล้วค่อยย้ายแบบบอสแมนก็ได้
การต่อสู้ของสโมสรกับนักเตะเต็มไปด้วยความดุเดือด ขณะที่บรรยากาศ ของแฟนบอลบาร์ซ่าก็แบ่งเป็นสองฝ่าย
ฝ่ายแรกคือเห็นใจโมริบา ว่านักเตะเองก็ไม่ได้เรียกร้องค่าเหนื่อยที่เยอะอะไรขนาดนั้น สโมสรไปลดค่าเหนื่อยใครสักคน แล้วเอามาเพิ่มให้โมริบาก็ได้นี่นา อีกอย่างนี่เป็นดาวรุ่งพรสวรรค์ ถ้ารักษาไว้ไม่ได้ อนาคตเมื่อบุสเกตต์รีไทร์ ก็ต้องไปควานหานักเตะคนใหม่มาอีก สู้รั้งตัวเอาไว้ดีกว่า
แต่ความเห็นอีกฝ่ายมองว่า สโมสรเองก็พยายามมากๆแล้ว แถมนักเตะซีเนียร์หลายคนก็ยอมลดค่าเหนื่อยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ทีมอยู่ในกฎที่ลาลีกากำหนดไว้
1
ดังนั้นโมริบาเอง ซึ่งเป็นเด็กปั้นของสโมสรก็น่าจะเข้าใจสถานการณ์ดี น่าจะช่วยกันไปก่อน ทำไมถึงเห็นแก่เงินขนาดนั้น ผู้เล่นดาวรุ่งคนอื่นๆ อย่างเปดรี้ หรือ ฟาติ ที่โดดเด่นกว่า ยังไม่มีใครเรียกร้องเงินมากขนาดนี้เลย
โรนัลด์ คูมัน กล่าวอย่างชัดเจนว่า "คำแนะนำของผมถึงอิลาช คือเงิน ไม่ควรเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเด็กอายุ 18 เขาควรคิดถึงการลงเล่นต่างหาก แต่อิลาชและเอเยนต์ของเขาคิดคนละแบบกับผม ซึ่งบอกตรงๆ ว่าผมผิดหวังนะ"
3
สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ ก็เลยค้างเติ่งอยู่อย่างนี้ และมีบางสโมสรพยายามฉกฉวยโอกาส เช่นไลป์ซิก เห็นว่าไหนๆ บาร์ซ่าก็ไม่ใช้แล้ว เลยยื่นข้อเสนอ 5 ล้านยูโร ขอเอามาใช้ แต่ล่าสุดบาร์ซ่าปฏิเสธไปแล้ว
ถ้าก่อนช่วงตลาดปิด ไม่มีข้อเสนอดีๆ ราว 25-30 ล้านยูโรเข้ามา คงยากที่บาร์ซ่าจะยอมขาย แต่เอาจริงๆ ไม่น่าจะมีทีมไหนยอมจ่ายราคานั้นหรอก ในเมื่ออีก 1 ปี ก็เซ็นสัญญาโมริบาได้ฟรีๆ ตามกฎบอสแมนอยู่แล้ว จะเสียเงินฟรีๆ ทำไมตั้งเยอะตอนนี้
1
สำหรับบาร์ซ่าเอง ก็ไม่มีท่าทีจะอ่อนข้อ พวกเขาอยากใช้เรื่องนี้ เป็นกรณีตัวอย่างให้นักเตะคนอื่นได้เห็นเช่นกันว่า ถ้าหากคุณไม่ให้ใจกับสโมสรในยามที่ทีมลำบาก ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่สโมสรจะต้องทำดีด้วย
ในมุมของโมริบา ก็ไม่ได้แคร์อะไรเช่นกัน ในรอบ 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา เขาอัพอินสตาแกรมแค่ 1 ครั้ง เพื่อสดุดีเมสซี่แค่นั้น แต่ที่เหลือ ก็ไม่ได้อัพเดทข่าวคราวอะไรอีก ส่วนในโพรไฟล์ นักเตะหลายคนจะเขียนระบุว่า เป็นผู้เล่นของทีมไหน อย่างเปดรี้ ก็จะเขียนว่า Jugador @fcbarcelona แต่โมริบา ไม่มีสเตตัสใดๆ บ่งบอกว่าเขาเป็นนักเตะของบาร์ซ่าเลย
1
สุดท้าย หลายคนจึงเชื่อว่า เส้นทางของสโมสรกับเด็กปั้นคนนี้ คงยากที่จะสานต่อกันได้แล้ว บาร์ซ่าก็คงปล่อยให้สัญญาหมดไปเลย แล้วจากนั้นจะไปไหนก็ไป
ส่วนโมริบา ก็พยายามรักษาเนื้อรักษาตัวเอาไว้ เพื่อที่พอหมดสัญญาจะได้มีทีมใหม่รับไป โดยได้ค่าเหนื่อยในระดับ 60K-100K อย่างที่เขามองว่าตัวเองคู่ควร
ถ้าไม่มีใครยอมสักคน เรื่องราวก็คงต้องจบกันแบบนี้ ซึ่งว่ากันตรงๆ มันไม่ใช่ทางออกที่สวยสักเท่าไหร่ ของสโมสรที่ภูมิใจในการปลุกปั้นเยาวชนอย่างบาร์เซโลน่า แต่มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว
บาร์ซ่าก็มีศักดิ์ศรีของตัวเอง พวกเขาปล่อยให้เด็กคนเดียวมาปั่นหัวทีมไม่ได้ แต่โมริบาก็มีอนาคตและเงินทองของตัวเองเป็นเดิมพันเหมือนกัน ทำไมในฐานะนักกีฬาอาชีพเขาไม่มีสิทธิ์เรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองต้องการล่ะ
สำหรับในประเด็นนี้ ในยุโรปก็มีการถกเถียงกันว่า ทางออกที่ดีที่สุดควรเป็นอย่างไรกันแน่
บางคนก็บอกว่า บาร์ซ่าควรจะยอม แต่บางคนก็บอกว่าโมริบาต่างหากล่ะที่ควรจะยอม
แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ "ไม่มีใครยอม"
และในทุกๆ ความสัมพันธ์บนโลกก็เป็นแบบนี้ เมื่อคุณไม่สามารถหาครึ่งทางระหว่างกันได้ บทสรุปก็เหลือทางเดียวคือ ต้องจบด้วยการแตกหักแค่นั้นเอง
#MEETHALFWAY
1
โฆษณา