30 ส.ค. 2021 เวลา 10:07 • ข่าวรอบโลก
‘ซาเยด ซาดาต’ จากอดีตรัฐมนตรีอัฟกานิสถาน สู่ผู้ลี้ภัยสองสัญชาติกับอาชีพ ‘ไรเดอร์’ ในเยอรมัน
เพราะชีวิตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน คนเราที่ครั้งหนึ่งเคยมีอำนาจบารมีเป็นใหญ่เป็นโตในประเทศ แต่วันที่สิ้นอำนาจก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องทำมาหาเลี้ยงชีพเพื่อความอยู่รอดเพียงเท่านั้น
สถานการณ์ในอัฟกานิสถานที่เวลานี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของกลุ่มตาลิบันที่เข้ายึดครองประเทศจากรัฐบาลเดิมเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนนับแสนคนรวมทั้งอดีตบุคคลสำคัญในรัฐบาลของนายอัชราฟ กานี ประธานาธิบดีแห่งอัฟกานิสถาน ก็ต้องหนีภัยคุกคามนี้ออกนอกประเทศกันทั้งนั้นรวมทั้งตัวนายกานีที่ลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อกลายเป็นผู้ลี้ภัยในต่างแดน ไร้ซึ่งอำนาจใดๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับการเป็นพลเมืองชั้นรองในสังคมของประเทศที่ไม่คุ้นเคย และต้องทำงานอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นงานการเมืองเพื่อหารายได้ต่อไป
1
‘ซาเยด ซาดาต’ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศในรัฐบาลของนายกานี ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้ขอลี้ภัยไปย้ายประเทศไปอยู่ที่เยอรมนีเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วด้วยความหวังว่าจะมีอนาคตที่ดีกว่า
2
ซาดาตที่ปัจจุบันอายุ 49 ปี และถือสัญชาติทั้งอังกฤษและอัฟกัน เลือกที่จะประกอบอาชีพเป็น ‘ไรเดอร์’ ปั่นจักรยานส่งของในเมืองไลป์ซิก ทางตะวันออกของเยอรมัน
2
แม้ว่าจะมีผู้คนมากมายก็วิพากษ์วิจารณ์เขาในการมาทำงานเป็นไรเดอร์ แต่สำหรับซาดาตแล้วเขามองว่า "งานก็คืองาน" พร้อมระบุว่า "ผมไม่ต้องรู้สึกผิดกับอะไรทั้งนั้น"
7
เหตุผลที่เขาตัดสินใจลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลของอัฟกานิสถานก็เพราะว่า แนวคิดในการทำงานไม่ตรงกัน และมีหลายประเด็นที่เขาก็ไม่เห็นด้วยกับสมาชิกในรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีกานี ซึ่งการลาออกของซาดาตทำให้เขาต้องย้ายตัวเองมาอยู่ที่เยอรมันและเริ่มอาชีพการเป็นไรเดอร์ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
1
เรื่องราวของเขาได้รับความสนใจมากขึ้น หลังจากเกิดความโกลาหลขึ้นจากการที่กลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองประเทศ ครอบครัวและเพื่อนๆ ของซาดาตก็ต้องการอพยพลี้ภัยออกจากอัฟกานิสถานเช่นกัน โดยหวังว่าจะได้ร่วมเดินทางกับคนอื่นๆ อีกหลายพันคนในเที่ยวบินอื่นๆ หรือพยายามค้นหาเส้นทางหลบหนีอื่นๆ เพื่อออกจากประเทศ
จากข้อมูลจากสำนักงานเพื่อการอพยพและผู้ลี้ภัยแห่งสหพันธรัฐเยอรมันเปิดเผยว่า เมื่อการถอนทหารสหรัฐฯ เริ่มต้นภารกิจ จำนวนผู้ขอลี้ภัยชาวอัฟกันในเยอรมนีได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีมากกว่า 130%
2
แม้ว่าการถือสองสัญชาติของเขาซึ่งหมายความว่าเขาสามารถเลือกที่จะย้ายไปสหราชอาณาจักรก็ได้ ซึ่งเขาเคยใช้ของช่วงชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่นั่น ตั้งแต่ที่เขาเคยเป็นนักศึกษาดีกรีถึงมหาบัณฑิตปริญญาโทสาขาการสื่อสารและวิศวกรรมไฟฟ้าจาก 'ออกซ์ฟอร์ด' แต่การออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ ทำให้หนทางการเดินทางไปอังกฤษผ่านทางประเทศในกลุ่มยูโรโซนนั้นถูกปิดลง เขาจึงย้ายไปอยู่ที่เยอรมันเมื่อปลายปี 2020 แทน
3
เขาเลือกเยอรมนีเพราะเขาคาดหวังว่าจะมีอนาคตที่ดีขึ้นและมีบทบาทสำคัญในภาคโทรคมนาคมและไอทีในระยะยาว เนื่องจากซาดาตก็เคยมีประสบการณ์การทำงานในหลายสิบบริษัทจากหลายประเทศทั่วโลกก่อนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี
แต่ถึงแม้จะมีภูมิหลังของเขา Sadaat ก็ยังพยายามหางานทำในเยอรมนีที่ตรงกับประสบการณ์ของเขา
3
แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคอย่างมากก็คือ การที่เขายังไม่สามารถพูดหรือใช้ภาษาเยอรมันได้ ทำให้โอกาสของเขานั้นตีบตัน
“ภาษาเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด”
1
ทุกวันเขาเรียนภาษาเยอรมัน 4 ชั่วโมงที่โรงเรียนสอนภาษาแห่งหนึ่ง ก่อนเริ่มทำงาน 6 ชั่วโมงต่อกะในตอนเย็นเพื่อส่งอาหารให้กับบริษัทลีเฟรันโด ซึ่งเขาเริ่มงานเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมานี้
3
“ช่วงสองสามวันแรกนั้นน่าตื่นเต้นแต่ก็ยาก มันท้าทายอย่างมากในการเรียนรู้การปั่นจักรยานในเมือง แต่ยิ่งคุณออกไปและเห็นผู้คนมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งเรียนรู้มากขึ้นเท่านั้น”
1
อดีตรัฐมนตรียังทิ้งท้ายอีกว่า เขาหวังว่านักการเมืองคนอื่นๆ ที่กำลังลี้ภัยในประเทศอื่นๆ ก็จะทำแบบนี้เหมือนกัน นั่นคือการทำงานที่เปิดเผยต่อสาธารณะ แทนที่จะหลบซ่อนตัวเอง
2
แหล่งอ้างอิง
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
โฆษณา