30 ส.ค. 2021 เวลา 19:39 • ความคิดเห็น
เริ่มจากตั้งคำถามจึงเกิดการระดมคิดหาคำตอบ
การตอบคำถาม อาจเริ่มจากที่มีสาระมากน้อยต่างๆ นานา
ยิ่งช่วยกันหาคำตอบก็ยิ่งพบข้อมูลที่สำคัญแล้วยิ่งพาไปสู่คำตอบที่สำคัญต่อๆ ไป
การตั้งคำถามจึงสำคัญกว่า แม้กระนั้น หากไม่มีคำตอบ หรือไม่มีผู้ตอบคำถาม ดังนี้ย่อมไม่อาจพบข้อมูลที่พาไปหาคำตอบที่สำคัญได้ คำตอบจึงสำคัญเช่นกัน
ซึ่งทั้งนี้ ท่าทีในการตั้งคำถามนั้นๆ สำคัญที่สุด ผู้ถามต้องถามด้วยจริงใจและคำถามนั้นไม่พึงประทุษร้ายใคร ไม่ว่าทางกาย วาจา และใจ ตั้งคำถามด้วยท่าทีนุ่มนวลเช่นนี้จึงมีผู้อยากตอบ คำถามที่ดีเช่นนั้นจึงจะได้คำตอบที่ดีได้เช่นกันแล.
ข้อสังเกต
* ความคิดคนเราอาจจะแตกต่างกัน
แต่ความรู้สึกและอารมณ์คนเรานั้นไม่แตกต่างกัน
และคนเราแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ต้องเริ่มจาก ฉันทะ
เราควรปลูกไมตรีก่อนถามคำถาม คำถามนั้นจึงหาคำตอบได้สำเร็จ
ตามหลัก อิทธิบาท 4 : ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
* ทว่า หากผู้ตอบ มีไมตรีจิต เปี่ยมเมตตากรุณา ย่อมมองข้ามท่าทีก้าวร้าวของผู้ถามแล้วมุ่งตอบคำถามนั้นอย่างตรงประเด็นด้วยท่าทีสุภาพและจริงใจ
พระพุทธเจ้าทรงทำตัวอย่างแก่ชาวโลกไว้มากมาย หาอ่านได้จากพระไตรปิฎก
การตอบคำถามของพระพุทธองค์ทรงเต็มที่และเต็มใจที่จะตอบจึงย่อมโน้มน้าวใจให้ผู้ถามคำถามจดจ่อกับคำตอบจากพระโอษฐ์แล้วได้มีความเห็นที่ถูกตรงตามเป็นจริง เลิกเห็นผิดมาเห็นถูก และเข้าใจกระจ่างอย่างหมดข้อสงสัยมานักต่อนักแล้ว นั่นคือพระพุทธองค์ทรงเป็นแบบอย่างและทรงวางกรอบแนวทางหลากหลายในการตอบและถามอันสาธุชนพึงค้นหา เพื่อเรียนรู้อริยทรัพย์และทำตาม (อย่าลืมว่า ไม่ว่าคำถามหรือคำตอบ ฝ่ายไหนก็ตามต้องเริ่มที่ฉันทะก่อนจึงดีงามตามหลักครู คือหลักอิทธิบาท 4 นั่นเอง)
เมื่อมีพระพุทธเจ้าเป็นครู ผลลัพธ์ย่อมดีเสมอ.
โฆษณา