8 ก.ย. 2021 เวลา 02:48 • ข่าว
ความสัมพันธ์ไทย-เอมิเรตส์: การแพทย์ มวยไทย และสายฝน
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี (United Arab Emirates – UAE) คือ ประเทศ ส่วนดูไบ คือ ๑ ใน ๗ รัฐของยูเออี
ดูไบ… ใคร ๆ ก็รู้จักดูไบ และคิดว่าดูไบคือประเทศ แต่ไม่ใช่... ดูไบคือรัฐหนึ่งในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แล้วทำไมถึงมีแต่คนรู้จักดูไบ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือที่คนท้องถิ่นมักเรียกว่า ‘เอมิเรตส์’ ให้มากขึ้นกว่าเดิม ผ่านการบอกเล่าของท่านทูตวราวุธ ภู่อภิญญา หรือท่านทูตโหน่ง เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในรายการคุยกับทูต ว่าจะมีแง่มุมสนุก ๆ อะไรกันบ้างค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=bDj2qo1DAnM
ท่านทูตเปิดรายการด้วยการสรุปข้อมูลพื้นฐานของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์คร่าว ๆ ให้ฟังว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นประเทศขนาดกลางในแถบภูมิภาคตะวันออกกลาง ถ้าหากเปรียบเป็นคน ก็อยู่ในวัยกลางคน โดยก่อตั้งประเทศครบรอบ ๕๐ ปีในปีนี้ ไทยและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ ๔๕ ปีในปีนี้ แม้เอมิเรตส์จะมีขนาดและวัย “ปานกลาง”แต่ถือว่าเป็นความปานกลางที่คับแน่นด้วยคุณภาพและความพร้อม “เป็นประเทศปานกลางที่ทำตัวเป็นปานหนึ่งในภูมิภาคและในระดับสากล” ตั้งแต่ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี จนถึงบทบาทนำแนวหน้าในเวทีระหว่างประเทศ เช่น การสถาปนาความสัมพันธ์กับอิลราเอล การเสนอเป็นตัวแทนไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่างอิหร่านกับประเทศรอบข้าง เป็นต้น ซึ่งว่ากันว่าเป็นพัฒนาการที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะได้ส่งเสริมให้ภูมิภาคตะวันออกมีความสงบมากยิ่งขึ้น
เอมิเรตส์ประกอบด้วย ๗ รัฐ มีเจ้าผู้ครองรัฐแต่ละรัฐเป็นของตัวเอง เรียกว่า เชค (Sheikh) มีกรุงอาบูดาบีเป็นเมืองหลวงของประเทศ และเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุด มีขนาดร้อยละ ๘๐ ของประเทศ เป็นศูนย์กลางการบริหารงานของประเทศ และศูนย์รวมด้านศิลปวัฒนธรรม มีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจที่สุด โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้เพิ่งค้นพบบ่อน้ำมันที่เอมิเรตส์บอกว่าเป็นแหล่งทรัพยากรใช้ได้ไปอีก ๑๐๐ ปี พูดง่าย ๆ ว่าเป็นรัฐที่รวยที่สุด และถ้าใครเคยได้ยินชื่อสายการบินเอทิฮัด นั่นก็คือสายการบินของกรุงอาบูดาบีเองเลยทีเดียว
ในส่วนของรัฐดูไบ เป็นรัฐที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากที่สุด ด้วยความเป็นเมืองท่า ศูนย์กลางการค้าขาย กิจกรรมการเดินเรือสมุทร ไปจนถึงชุมทางสายการบิน ล้วนรวมอยู่ที่นี่ และรัฐดูไบก็มีสายการบินเป็นของตัวเองเหมือนกัน เป็นสายการบินที่คนไทยเราคุ้นเคยเป็นอย่างดี นั่นคือสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสายการบินที่ดีที่สุดในโลก และครอบคลุมจุดหมายปลายทางมากกว่าหลายสายการบิน
องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ดูไบเป็นรัฐหลายคนรู้จักมักคุ้น มีความคึกคักในแง่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สุด ไทยเองก็มีสำนักงานพาณิชย์ การท่องเที่ยว และสถานกงสุลใหญ่อยู่ที่ดูไบ เพื่อดูแลกิจการภาพรวมของไทยด้วย
เส้นทางการเป็น ‘City of Future’
วิสัยทัศน์เมืองแห่งอนาคต (City of Future) ของเอมิเรตส์ เป็นแนวคิดที่มุ่งมั่นทะเยอทะยานที่จะเป็นที่ ๑ ของโลกในด้านต่าง ๆ ท่านทูตเน้นว่าเอมิเรตส์มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี และพร้อมที่จะขับเคลื่อนประเทศทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เพื่อมุ่งสู่ความเป็นเมืองแห่งอนาคตให้สำเร็จ ดูตัวอย่างเช่นการตั้งเป้าหมายว่าจะไปดาวอังคาร ก็ทำได้สำเร็จ และความต้องการให้เป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีด้านเอไอหรือปัญญาประดิษฐ์อันดับ ๑ ของโลก ถึงกับมีการจัดตั้งกระทรวงปัญญาประดิษฐ์ (Ministry of State for Artificial Intelligence) หรือ กระทรวงเอไอ นับเป็นแห่งแรกของโลกที่มีการจัดตั้งกระทรวงดูแลกิจการด้านนี้ รวมถึงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งอนาคต (Museum of Future) เพื่อแสดงให้เห็นถึงแนวความคิดการพัฒนาสู่เมืองอนาคตให้สำเร็จลุล่วงให้ได้
ท่านทูตยกตัวอย่างของความมุ่งมั่นที่จะเป็นเมืองแห่งอนาคตของเอมิเรตส์ จากการเปิดต้อนรับชาวต่างชาติที่มีความรู้ความสามารถ โดยให้วีซ่าถาวร เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคโนโลยีซึ่งกันและกัน รวมถึงการส่งเสริมให้คนเอมิเรตส์เดินทางไปศึกษาในยุโรปและอเมริกา เพื่อนำความรู้เหล่านั้นมาใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป....เอมิเรตส์ยังได้ส่งหนังสือถึงรัฐบาลไทยผ่านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี เพื่อแจ้งว่า พร้อมจะให้การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทย ถึงแม้ความนิยมของกลุ่มนักเรียนไทยที่จะเดินทางไปศึกษาเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีในเอมิเรตส์จะยังไม่สูงนักก็ตาม แต่ก็กล่าวได้ว่า เอมิเรตส์มีศักยภาพด้านนี้ ไม่ต่างจากฝั่งยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และจีนเลยทีเดียว
ความทันสมัยของเอมิเรตส์ยังสะท้อนได้จากการเปิดกว้างของบทบาทผู้หญิงในสังคมประเทศมุสลิม เช่น ปัจจุบันรัฐมนตรีที่ดูแลกิจการอวกาศเป็นผู้หญิง และเพื่อให้สมกับเป้าหมายที่จะเป็นเมืองแห่งอนาคต ก็มีการวางแผนฝึกให้มีนักบินอวกาศหญิงในวันข้างหน้าด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อให้สมกับความมุ่งมั่นที่จะเป็นเมืองแห่งอนาคต ท่านทูตบอกว่า เอมิเรตส์ ประเทศที่มีฝนตกปีละ ๑๐ ครั้ง ได้ประกาศว่าจะเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) เป็นที่ ๑ ของโลกภายในอีก ๑๐ ปีข้างหน้า โดยเอมิเรตส์ขอความร่วมมือจากมิตรประเทศ โดยเฉพาะจากสาธารณรัฐเกาหลีในเรื่องการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นการปลูกข้าวในทะเลทรายด้วยการสกัดน้ำจืดจากน้ำทะเล การสร้างสวนแนวตั้ง (Vertical Garden) ในห้องควบคุมอุณหภูมิ แม้ปัจจุบันผลผลิตยังไม่ครอบคลุมความต้องการของคนในประเทศทั้งหมด แต่เอมิเรตส์ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าศึกษาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นแววว่าเอมิเรตส์มีศักยภาพในการพัฒนาสู่อนาคต เทียบเท่าฝั่งยุโรป หรือ อเมริกาได้เลย
การเป็นนักการทูตในเอมิเรตส์ ที่แยกนโยบาย ๗ รัฐ เหมือนกับต้องทำงาน ๗ ประเทศไหม?
“ไม่เชิงเสียทีเดียว..” ท่านทูตเล่าว่า แม้แต่ละรัฐของเอมิเรตส์จะมีการปกครอง กฎหมาย นโยบายด้านเศรษฐกิจเป็นของตัวเอง ‘เรียกได้ว่า ๗ รัฐ ๗ เจ้า ๗ นโยบายแตกต่างกัน’ แต่ในด้านการต่างประเทศ ทั้ง ๗ รัฐได้มอบอำนาจกิจการด้านต่างประเทศและกลาโหมให้กับรัฐบาลกลาง นั่นคือ รัฐอาบูดาบี แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นหรือผูกขาด หากแต่ละรัฐต้องการขยายความร่วมมือก็สามารถติดต่อได้โดยตรงได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องแจ้งเรื่องกับกระทรวงการต่างประเทศส่วนกลางก่อนเท่านั้น
ความผูกพันระดับประชาชน คนเอมิเรตส์ที่แท้ทรู คือ คนที่เคยเดินทางไปประเทศไทย
ว่ากันว่า หากอยากรู้ว่าประเทศไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับคนเอมิเรตส์มากขนาดไหน ให้ลองตั้งคำถามกับคนเอมิเรตส์ว่าเคยไปประเทศไทยมั้ย ถ้าคำตอบคือ “ไม่เคยไปประเทศไทย แสดงว่า คน ๆ นั้น ไม่ใช่คนเอมิเรตส์แท้ ๆ” พูดง่าย ๆ คือ เป็นคนเอมิเรตส์ตัวปลอม เพราะคนเอมิเรตส์ที่ใช่จริง คือ จะได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศไทยมาแล้วทุกคน
คนเอมิเรตส์ติดใจอะไรเมืองไทย...???
เอมิเรตส์มีพลเมือง ๙ ล้านกว่าคน โดยมีต่างชาติอาศัยจำนวนมากถึง ๘ ล้านกว่าคน ส่วนคนเอมิเรตส์จริง ๆ มีเพียงหลัก ๑ ล้านกว่าเท่านั้น เมื่อท่านทูตบอกว่าในสถานการณ์ปกติ ปี ๒๕๖๒ มีคนเอมิเรตส์ ๑.๓ แสนคนเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไทย หากย้อนกลับไปดูจำนวนประชากรเอมิเรตส์ที่ ๑ ล้านกว่าคนนั้น จึงนับว่าเป็นตัวเลขที่สูง โดยจากการแชร์ข้อมูลกับเหล่านักการทูตพบว่า คนเอมิเรตส์เดินทางมายังไทยมากที่สุดเป็นอันดับ ๑ เลย
สาเหตุหลักที่คนเอมิเรตส์เดินทางมาไทยก็เพื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ ที่แม้เอมิเรตส์เองจะผลักดันให้ตัวเองเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ แต่การบริการของไทยเรานั้น คน
เอมิเรตส์บอกว่าครบวงจรกว่า เบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว และเต็มไปด้วยอัธยาศัยไมตรีอย่างดีจากคนไทย
อีกประการหนึ่งคือ การที่เอมิเรตส์เป็นประเทศมุสลิม การเดินทางระหว่างประเทศมุสลิมกันเองจะมีข้อจำกัด ในขณะที่ไทยมีสภาพความเป็นอยู่ที่ง่ายกว่า การเดินทางไม่ได้ถูกจำกัดมาก มีความคล่องตัวกว่า และอีกประการที่คนไทยเองอาจจะนึกไม่ถึง คือ.. การไปดูฝน ในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม เพื่อดูฝนตก ดมกลิ่นไอดิน เล่ากันว่าคนเอมิเรตส์ชอบฝนตกมาก ถึงกับขนาดว่า เห็นฝนตกแล้วต้องออกมาเล่นน้ำฝนก็ทำมาแล้ว และไหนจะอาหารการกินที่หลากหลาย รสชาติอร่อย ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปถึงระดับมิชลินสตาร์ เรียกได้ว่าการมาเที่ยวประเทศไทยได้ครบจบใน all in one
ในช่วงการระบาดของโควิด-๑๙ มีการปิดประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดนั้น สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี ได้รับคำถามจากชาวเอมิเรตส์มากมายเกี่ยวกับ
การเปิดประเทศให้กับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง และเมื่อการเดินทางถูกระงับชั่วคราว คนเอมิเรตส์แห่กันเข้าร้านอาหารไทยแทน ทำให้ร้านอาหารไทยในเอมิเรตส์ในช่วงที่ผ่านมาขายดิบขายดี สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะความคิดถึงเมืองไทยสุด ๆ นั่นเอง ใครจะนึกออกว่าเมนูข้างทางของคนไทยอย่าง ลาบเลือด ยำปลาดุกฟู ยำมะม่วงปลากรอบปลาร้า คนเอมิเรตส์เคยขอให้ร้านอาหารไทยทำให้ทานมาแล้วก็มี
คนเอมิเรตส์มาไทยด้วยหลากหลายเหตุผล แล้วคนไทยล่ะ ไปทำอะไรที่นั่นบ้าง ท่านทูตเล่าว่า เมื่อปี ๒๕๖๒ ก่อนสถานการณ์โควิด-๑๙ มีคนไทยเดินทางไปเอมิเรตส์ ตัวเลขทางการ ๖,๗๗๐ คน จากสาขาอาชีพต่าง ๆ เช่น วิศวกรขุดเจาะน้ำมัน เจ้าของกิจการร้านอาหาร สปา หรือ ธุรกิจนำเข้าส่งออก
อย่างไรก็ตาม มีคนไทยนอกระบบตรวจสอบจำนวนหนึ่งที่เข้ามาในลักษณะผู้ติดตาม และตัดสินใจตั้งรกราก โดยท่านทูตให้ความเห็นว่า การตัดสินใจดังกล่าว ตั้งอยู่บนพื้นฐานการที่เอมิเรตส์เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูง ติดหนึ่งในสิบอันดับของโลก ส่วนหนึ่งเพราะการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดจริงจัง คนเอมิเรตส์จึงเกรงกลัวกฎหมาย เกิดความยับยั้งชั่งใจที่จะกระทำผิด ทั้งนี้ คนไทยที่อยู่เอมิเรตส์ หากไม่ใช่งานประเภทผู้เชี่ยวชาญสาขาอาชีพ ค่าแรงรับจ้างเมื่อคิดเป็นเงินไทยไม่มากแต่มีสวัสดิการทุกอย่างให้ครบ ทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าเดินทาง ดังนั้นเงินค่าแรงที่ได้ จึงเป็นเงินเก็บ ๑๐๐%
ความคืบหน้างาน Word Expo 2020
งาน World Expo เป็นงานที่เอมิเรตส์หมายมั่นปั้นมือว่าจะจัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ถือเป็นงานใหญ่ของโลก เพราะเป็นงานที่ ๕ ปี มีครั้งหนึ่ง โดยเอมิเรตส์คาดหวังว่าจะมีผู้เข้าชมงาน ๒๕ ล้านคน จาก ๑๙๓ ประเทศ ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของ
โควิด-๑๙ จึงได้เลื่อนการจัดงานในปี ๒๕๖๓ ออกไป มาเป็นวันที่ ๑ ตุลาคม – ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ โดยใช้ theme หลักว่า “เชื่อมโยงจิตใจ ร่วมสร้างอนาคต - Connecting Minds, Creating the Future”
ไทยจะเข้าร่วมงานภายใต้การนำของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งไทยได้รับการจัดสรรพื้นที่จัดแสดง (Pavilion) ในส่วนกลางของงาน ขนาดใหญ่ถึง ๓,๖๐๐ ตารางเมตร ใกล้เคียงประเทศเจ้าภาพ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะประชาสัมพันธ์ประเทศไทย โดยไทยวางแผนที่จะแบ่งพื้นที่จัดแสดงเป็น ๔ ส่วน ได้แก่ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลของไทย (Mobility for the Future) ด้านศิลปวัฒนธรรม
ด้านการท่องเที่ยว และนำเสนอด้านวิถีชีวิตไทย
วิธีการจัดการกับโควิด-๑๙ ในแบบฉบับเอมิเรตส์
ท่านทูตชื่นชมการจัดการบริหารจัดการโควิด-๑๙ ในเอมิเรตส์ว่าดีเยี่ยม เมื่อเกิดการระบาดรอบแรก ชาวเอมิเรตส์ไม่ตื่นตระหนก เนื่องจากมีการประเมินอย่างสม่ำเสมอ มีการวางแผน และเตรียมรับมือล่วงหน้า ประกอบกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่นำมาประยุกต์ใช้ รวมถึงความเคร่งครัดในการปฏิบัติตัวระหว่างการเกิดโรคระบาด มีการติดตั้งแอพพลิเคชันติดตามตัว ที่ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องติดตั้ง หากต้องการเข้ารับบริการติดต่อสถานที่ราชการ หรือ ห้างสรรพสินค้า และยังไม่นับถึงการจัดสรรวัคซีนอย่างรวดเร็ว โดยในเอมิเรตส์มีการกระจายฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือนกันยายน ๒๕๖๓ โดยภายในเดือนมกราคม ๒๔๖๔ ผู้ที่อาศัยในเอมิเรตส์ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว
มวยไทย
กีฬามวยไทยได้รับความนิยมอย่างมากในเอมิเรตส์ ถือว่าเป็นการออกกำลังกายและทักษะการป้องกันตัวแบบหนึ่ง ค่ายมวยไทยในเอมิเรตส์มีเยอะมาก บางค่ายก็จ้างครูมวยจากเมืองไทยมาฝึกสอน
ความคลั่งไคล้มวยไทยมีถึงขนาดขึ้นสังเวียนระหว่างคนเอมิเรตส์ด้วยกันเอง หรือ คนต่างชาติที่อาศัยในเอมิเรตส์ โดยทุกคนคุ้นชื่อมวยไทย “Muay Thai” ทับศัพท์ตรงตัวภาษาไทย แทนคำว่า Thai Kick Boxing ซึ่งท่านทูตบอกว่า นับเป็นความน่าภาคภูมิใจ เพราะนอกจากจะใช้ชื่อเรียกกีฬาไทยเป็นภาษาไทยแล้ว ยังใช้ภาษาไทยในการนับ และการออกคำสั่งต่าง ๆ ของกรรมการตัดสินบนเวทีด้วย ไปจนถึงการไหว้ขอชัยชนะที่มุมชก การไหว้ครู และ (ในสถานการณ์ปกติ) การเล่นดนตรีปี่มวย เสมือนยกเวทีไทยไปชกที่เอมิเรตส์เลย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นไปตามข้อกำหนดสมาคมมวยไทยโลกด้วยนั่นเอง
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี เล็งเห็นกระแสความนิยมนี้ ดังนั้น ในช่วงสถานการณ์ปกติจึงมีการจัดกิจกรรมสอนมวยไทยทุกวันศุกร์ โดยนำครูมวยชาวไทยมาฝึกสอนให้แก่ผู้ที่สนใจ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากนี้ยังจัดห้องเรียนภาษาไทย สอนแกะสลักผักผลไม้ และสอนทำกับข้าว ซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลยทีเดียว
“ขอ ๓ คำ” ก่อนปิดท้ายรายการ ท่านทูตโหน่งได้สอนภาษาอาหรับ ๓ คำ ตามคำขอของผู้ดำเนินรายการ
- Shukran (ชุก-กรัน): ขอบคุณ
- Inshallah (อิน-ชา-อะ-ล่าห์): แล้วแต่พระเจ้าจะประทาน ซึ่งท่านทูตบอกว่าเป็นคำที่ได้ยินบ่อย แต่ไม่ค่อยสู้อยากจะได้ยิน เพราะหมายถึงในทุกเหตุการณ์หรือกรณีในชีวิต อาจจะได้ หรือไม่ได้ ไม่แนใจ เพราะขึ้นอยู่กับพระเจ้าจะทรงประทานให้เป็นไป
- Yalla (ยัลลา) : ไปกันเถอะ หรือ ในภาษาอังกฤษที่เราชอบพูดกันบ่อย ๆ ว่า Let’s go
...และทิ้งท้ายว่า แม้เอมิเรตส์จะใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร แต่การใช้ภาษาอาหรับในการพูดคุยทักทาย สามารถสร้างความประทับใจและความอบอุ่นใจให้แก่ผู้ฟังไม่น้อย เพราะปัจจุบันโลกซึ่งไร้พรมแดนนั้น ความเข้าใจที่ดีระหว่างประชาชนต่อประชาชนถือว่าสำคัญที่สุด เพราะจะเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับระหว่างประเทศต่อไปเลยทีเดียวค่ะ
นางสาวพิมพ์นารา กมลสินมหัต
เจ้าหน้าที่ประมวลและวิเคราะห์ข่าว
กรมสารนิเทศ
โฆษณา