4 ก.ย. 2021 เวลา 00:39 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
It’s Okay to Not Be Okay (Google) กับความเป็นส่วนตัวที่น่ากังวลของอนาคต Voice Assistant
3
ต้องบอกว่าเทคโนโลยีอย่าง Voice Assistant ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น ผ่านอุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ ที่มีมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าบางอุปกรณ์นั้นอาจจะไม่มีหน้าจอ และสั่งการได้ด้วยเสียงเพียงเท่านั้น
4
It’s Okay to Not Be Okay (Google) กับความเป็นส่วนตัวที่น่ากังวลของอนาคต Voice Assistant
บริษัทยักษ์ใหญ่ล้วนโฟกัสกับเทคโนโลยีนี้ ไม่ว่าจะเป็น Google Assistant , SIRI ของ Apple หรือ Alexa ของ Amazon และต้องบอกว่าเทคโนโลยี Voice Assistant ในปัจจุบันพัฒนาไปมากจนน่าตกใจ
แต่อีกไม่นาน เราอาจจะไม่ต้องเรียกมันเพื่อให้ทำงานอีกต่อไป เช่น ในเคสที่เกิดขึ้นกับ Google ซึ่งปรกติเราต้องเรียกเพื่อใช้งาน หรือ มีการกดปุ่มเพื่อเรียกการใช้งานในฟังก์ชั่นนี้ เช่น “Ok Google”
2
รานงานใหม่จาก สื่อชื่อดังอย่าง 9to5Google ได้ค้นพบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟังก์ชั่นใหม่ที่มีชื่อว่า “Guacamole” ซึ่ง Google อาจเรียกฟังก์ชั่นใหม่นี้ว่า Quick Phrase หรือ Voice Shortcuts
วิธีการที่ 9to5Google เจอฟังก์ชั่นนี้ก็คือ การถอดรหัสโค้ด จากแอปพลิเคชั่นเวอร์ชั่นล่าสุดที่ Google อัปโหลดไปยัง Play Store ซึ่งเป็นไฟล์ APK นั่นเอง
1
ซึ่งทาง 9to5Google นั้นได้เห็นโค้ดหลายบรรทัด ซึ่งสามารถคาดเดาได้ว่าฟังก์ชั่นในอนาคตของ Google Assistant จะเป็นอย่างไร (มีอยู่ใน Code แต่ต้องบอกว่าอาจจะไม่ได้นำมาใช้จริง ๆ ก็ได้)
2
มันมีความสามารถทั้งในการตั้งหรือยกเลิกการปลุก ตั้งการช่วยเตือน ถามเกี่ยวกับสภาพอากาศ ตั้งและควบคุมตัวจับเวลา และอื่น ๆ
1
ซึ่งน่าสนใจว่า เมื่อเราไม่ต้องสั่งมันอีกต่อไป เพราะฉะนั้นมันก็จะฟังเราอยู่ตลอดเวลานั่นเอง และคอยดักวลีต่าง ๆ ที่คิดว่าจะเป็นการสั่งงานจากเรา ซึ่งก็แน่นอนว่า มันจะเริ่มลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของเรามากยิ่งขึ้น
ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ 9to5Google ได้วิเคราะห์ไว้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น Nest/Smart Display ที่คอยดักฟังคำพูดของเราอยู่ตลอดเวลาและคอยจับหาวลีที่เกี่ยวข้องในการสั่งการ
1
แม้จะมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Google ว่า วิธีตรวจจับคำให้ดำเนินการคำสั่งของ Google Assistant นั้น Google ได้กล่าวว่า “ถ้าไม่มีการตรวจพบการเปิดใช้งาน ฟังก์ชั่นเหล่านี้จะไม่ถูกส่งหรือบันทึกไปยัง Google”
แต่ด้วยการทำงานจริงของ Quick Phrase ที่จะเกิดขึ้น มันทำให้เปิดโอกาสในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้มากกว่าเดิม เนื่องจากต้องมีการคอย monitor เราอยู่ตลอดเวลาในการสนทนาปรกติประจำวันของเรา
1
แต่นี่เป็นเพียงแค่ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น อาจจะยังไม่ออกมาใช้จริง ฟังก์ชั่นนี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา และยังไม่ชัดเจนว่าจะเปิดตัวเมื่อไหร่และอุปกรณ์ใดจะรองรับบ้าง
1
แต่ก็ต้องบอกว่า ถือเป็นเรื่องน่าสนใจเลยทีเดียวนะครับ ว่าหากเทคโนโลยีนี้ พัฒนาต่อไปในอนาคต จะเป็นอย่างไร และจะลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของเราเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันหรือไม่
แน่นอนว่า ข้อมูลที่เป็น text ที่อยู่บนเว็บไซต์ หรือ email ต่างๆ Google ได้นำมาวิเคราะห์อยู่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการยิงโฆษณาของพวกเขาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น แต่ในอนาคตมันอาจจะไม่ใช่แค่เพียงข้อมูล text เหล่านี้อีกต่อไป เพราะเสียงของเราอาจจะไปอยู่ในฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เหล่านี้ก็เป็นได้นั่นเองครับผม
3
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
1
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
=========================
ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast
เพื่อให้เรามีกำลังในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่าน
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :
=========================
ฟัง PodCast เรื่องเกี่ยวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ที่ Geek Forever’s Podcast
——————————————–
ฟังผ่าน Podbean :
——————————————–
ฟังผ่าน Apple Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Google Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Spotify :
——————————————–
ฟังผ่าน Youtube :
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา