Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Thairath Online - ไทยรัฐออนไลน์
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
5 ก.ย. 2021 เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
อีสานได้อะไรจาก "ไฮสปีดเทรนจีน-ลาว" เตรียมตัวให้พร้อม ลุยเปิดเมือง!
"รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว" มาแล้ว!!
ถึงเวลาต้องตรวจเช็ก "ชีพจรเศรษฐกิจ" ของ "ดินแดนอีสาน" กันด่วนๆ เพราะถ้าช้า...อาจมีหนาว!
"ชีพจรเศรษฐกิจอีสาน" ฟื้นหรือยัง❓
"อีสาน" หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคที่ก่อนหน้านี้เรียกได้ว่าเป็น "พื้นที่สีเขียว" ก่อนจะค่อยๆ กลายเป็นสีเหลือง... ส้ม... แดง... ไปจนแดงเข้ม!
เหตุผลก็เพราะเมืองหลวงอย่าง "กรุงเทพมหานคร" โดนโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาตีแตก!
คนแห่กลับ "บ้านเกิด" กันแบบชนิดตั้งตัวแทบไม่ทัน ยับยั้งกันไม่อยู่ จนต้องคิดในแง่ดีว่า การกลับภูมิลำเนาในครั้งนี้ คงจะช่วยกระตุ้นการบริโภคในท้องถิ่นไม่มากก็น้อย
แต่ "ความจริง" กลับกลายเป็นว่า...
"ไม่ครับ... เป็นปัญหาเลยครับ ทุกคนหยุดหมดเลย ตัวเลข (ผู้ติดเชื้อ) ขึ้น พอขึ้น ทุกคนก็หยุดออกจากบ้านหมด เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร"
นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดอุดรธานี และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย กล่าวถึง "ความเป็นจริง" ให้ได้ฟังหลังจากนั้น...ได้มีการคอมเมนต์กลับไปว่า ชาวอีสานทุกคนยินดีต้อนรับลูกหลานกลับมา แม้ตอนเข้าเมืองจะไปเพื่อหาเงินใช้ส่วนตัว แต่เมื่อพวกเขามีปัญหาการหาเตียง การดูแลรักษาโรค ก็ต้องรับกลับมาบ้าน ยอมเจ็บสักระยะหนึ่ง...
"ตอนนั้น ทุกคน ทุกจังหวัดในอีสาน ยินดีหมดครับ แล้วรัฐบาลก็ดันไม่มีทุนในการให้ขนคนกลับด้วย แต่ภาคเอกชนทั้งหมดทุกจังหวัดในอีสานก็ยอมควักเงินไปจ่ายค่ารถ ออกเงินเพื่อไปขนเอาลูกหลานกลับมารักษาที่บ้าน ซึ่งก็เป็นน้ำใจของที่นี่ เป็นภาพที่ดีครับ"
แต่ ณ ตอนนั้น นายสวาทก็ยอมรับว่า การบริโภคเงียบสงัดหมดเลย เมืองทั้งเมืองแทบจะเป็นเมืองร้าง...
แล้วตอนนี้ "อีสาน" ฟื้นหรือยัง❓
"ตัวเลขของผู้ป่วย จริงๆ ณ ขณะนี้ ก็ลดน้อยลงแล้วครับ เพราะจริงๆ แล้วโรคระบาด (โควิด-19) ไม่ได้เกิดแค่ในพื้นที่ ส่วนมากเป็นจากการรับลูกหลานกลับมาบ้าน แล้วส่วนหนึ่งก็อาจติดจากการลักลอบเข้ามาครับ"
ซึ่งการที่ตัวเลขลดลงนั้น นายสวาทนับว่าเป็นสัญญาณที่ดี เพราะผู้คนเริ่มทยอยออกมาจับจ่ายใช้สอยกันแล้ว เริ่มจะมีความเชื่อมั่น ในส่วนร้านอาหารต่างๆ ก็เริ่มดีขึ้น และพร้อม "เปิดเมือง!"
โดยตามไทม์ไลน์ "การเปิดเมือง" ในส่วนจังหวัดภาคอีสาน จริงๆ แล้ว จ.อุดรธานี จะเริ่มตั้งแต่ 15 กันยายน และบางจังหวัดก็จะเริ่ม 1 ตุลาคม
"ผมคุยกับทางประธานหอการค้าจังหวัดของภาคอีสานไว้ว่า วันนี้แม้มีโควิด-19 ก็ต้องเดินไป เราควรกลับมาเตรียมพลิกฟื้นเศรษฐกิจ"
แต่ "ข้อเสีย" ของภาคอีสาน คือ...
"ตอนที่เราเป็นสีเขียว ส่งวัคซีนให้เราน้อย ก็เลยเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ทำให้พวกเราเคลื่อนตัวช้า แล้วต่อมาเมื่อมีการล็อกดาวน์ต่างๆ ก็ทำให้ผู้คนไหลกลับมา ขณะเดียวกัน วัคซีนก็ไม่ได้ตามมาด้วย!"
นายสวาทยอมรับได้มีการตำหนิกลับไปเช่นกันว่า ทำไมไม่มีการวางแผน เพราะมันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ภาคอีสาน ทำให้จังหวัดต่างๆ ของภาคอีสานเสียหาย แทนที่จะค่อยๆ ทยอยเลื่อนไหลไป กลับต้องหยุด แม้ตอนนี้จะเริ่มทยอยเงยหน้าขึ้นมาบ้างแล้วก็ตาม
"ปิดชายแดน" ปิดประตูการค้าอีสาน❓
สำหรับการปิดชายแดนนั้น ต้องอธิบายก่อนว่าเป็นการปิดในส่วน "คน" แต่ส่วน "สินค้า" ยังพอไปได้
"แม้ไปได้ แต่ไปได้ไม่ตลอด สมมติปกติไปได้ 100% ตอนนี้ก็ไปได้แค่ 40-50% เพราะปัญหาโควิด-19 ก็ทำให้โอกาสของเราเสียไปครับ"
แน่นอนว่าต่อให้ทางหอการค้าอีสานจะมีการพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งกัมพูชาและ สปป.ลาว รวมถึงเวียดนาม แต่ปัญหา คือ โควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ยังคงอาละวาดทั่วทุกพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งก็ต้องรับสภาพในส่วนที่หายไป เช่น การค้าการขายกัน ขณะที่ในส่วน "คน" ข้ามแดนไม่ได้ การท่องเที่ยวก็คงต้องหายหมดเลย
"เราจะเตรียมตรวจเชิงลึก และภายใน 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ คิดว่าโควิด-19 ในอีสานคงจะจบ แล้วก็จะต้องเตรียมเปิดบ้านเปิดเมืองได้แล้วครับ"
นายสวาท ยืนยันว่า ขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมที่จะเปิดเมืองในจังหวัดภาคอีสาน ด้วยการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการและผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ตอนนี้พยายามเร่งเรื่องนี้ตลอด เพราะวัคซีนจะเป็นตัวสำคัญในการที่จะทำให้การเปิดเมืองเป็นไปได้อย่างปลอดภัย นี่คือ ความสำคัญ!
ว่าแต่... "คุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์" ยังไม่ลืมที่เกริ่นไว้ตอนต้นใช่หรือไม่?
ที่ว่า... "รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว" มาแล้ว!
มาดี หรือมาร้าย?
"รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว" เกิดจากการประสานนโยบายระหว่าง ข้อริเริ่ม "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" กับยุทธศาสตร์ "ปลดล็อกแลนด์ล็อกสู่แลนด์ลิงก์" ที่เริ่มต้น ณ ด่านชายแดนจีน-ลาว เมืองโมฮัน และสิ้นสุดที่เวียงจันทน์ ระยะทางรวม 414 กิโลเมตร กว่า 62.7% ของเส้นทางเป็นสะพานและอุโมงค์ ออกแบบให้ใช้ความเร็วที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาสร้างรวม 6 ปี โดยมีกำหนดเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเดือนธันวาคม 2564 นี้!
หากใครยังไม่ทราบ... โครงการรถไฟจีน-ลาว เป็นโครงการรถไฟในต่างประเทศสายแรกที่จีนเป็นผู้ลงทุนหลัก ภายใต้มูลค่าการลงทุน 4 หมื่นล้านหยวน แล้วใช้รูปแบบบริหารร่วมกัน อีกทั้งยังเชื่อมโยงกับโครงข่ายรถไฟในจีนด้วย
"เป้าหมาย" ของรถไฟจีน-ลาว นี้คืออะไร?
แน่นอนว่า หวังส่งเสริมให้เศรษฐกิจและสังคมของ สปป.ลาว พัฒนามากขึ้น ยกระดับประสิทธิภาพในการขนส่งของลาว และเป็นการขยายความร่วมมือกับจีน ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมถึงเป็นตัวเชื่อมเศรษฐกิจจีนกับอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
แต่คำถาม คือ "อีสาน" จะได้อะไรจากสิ่งนี้❓
จากการประเมินของนายสวาท มองว่าการเปิดอย่างเป็นทางการน่าจะตามกำหนดการเดิม คือ 2 ธันวาคม 2564 ซึ่งตรงกับวันชาติ สปป.ลาว แต่คงจะยังไม่เปิดใช้บริการชัดเจน เพราะติดปัญหาโควิด-19 อยู่ คาดว่าสักพักถึงจะปรับเป็นการขนส่งสินค้า ส่วนการคาดหวังนักท่องเที่ยวจีน ประมาณการไว้น่าจะปีหน้า (2565) ช่วงไตรมาส 2 หรือไตรมาส 3 ด้วยจีนเองยังคงไม่พร้อมที่จะให้คนออกมา เพราะห่วงการเข้าๆ ออกๆ อีกทั้งการบริโภคภายในประเทศจีนยังดี รายได้ยังไปได้ดีอยู่ ดังนั้น รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว คงยังไม่มีการท่องเที่ยวหรือนักท่องเที่ยวจีน แต่คงจะมาแค่การขนส่ง
เดิมนั้น การขนส่งสินค้าบางอย่างจะเป็นในรูปแบบทางอากาศกับทางเรือ แต่หลังจากมีรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาวนี้แล้ว นายสวาทชี้ว่าจะทำให้การขนส่งสินค้าของไทยเป็นไปได้มากขึ้นกว่าเดิม ต่อไปสินค้าที่จะส่งไปจีนจะมากองกันอยู่ที่นี่ (อีสาน) โดย จ.อุดรธานี จะเป็นการเชื่อมทางบกได้ จึงมีการพูดคุยกันว่า อนาคตต่อจากนี้ แม้แต่ทุเรียนก็จะมากองกันที่นี่ (อีสาน) แล้วใส่ตู้ไปขึ้นที่เวียงจันทน์
ตอนนี้ "อีสาน" พร้อมแค่ไหน?
"เรามีการลงทุนทำนิคมอุตสาหกรรม และการทำศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ไว้รอเยอะแยะเลยครับ"
พร้อมจะเป็น "ฮับสินค้า" ทุกอย่าง?
"ใช่ครับ! ทุกอย่างเลย เพราะเราเป็นเมืองโกดัง เป็นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะฉะนั้น ความพร้อมในการลงทุนในพื้นที่ เราพร้อมตลอด ประจวบกับตอนนี้ นักลงทุนในกรุงเทพฯ ก็เริ่มจะกลับเข้ามาในพื้นที่เตรียมการรองรับเรื่องนี้แล้วครับ"
เตรียมเจอแน่ "อีสาน" จะกลับมาผงาดไตรมาส 2 ปีหน้า (2565)
นายสวาทเชื่อมั่นว่า ความชัดเจนการกลับมาของเศรษฐกิจภาคอีสาน คือ ไตรมาส 2 ปีหน้า (2565) แต่หากเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกไว้ว่า ปลายปีนี้ (2564) จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ได้ 100% การกลับมาของภาคอีสานก็อาจจะได้ในไตรมาสแรกเลย การฟื้นตัวจะเห็นได้ชัดเจนขึ้น
"เหมือนว่า ทุกคนอัดอั้นมานานแล้ว พอมันเปิดมา แล้วก็จะเทกันมาหมดครับ"
ถามอีกครั้ง... พี่น้องชาวอีสานพร้อมหรือยัง!?
ผู้เขียน: เหมือนพระอาทิตย์
กราฟิก: Theerapong C.
thairath.co.th
อีสานได้อะไรจาก ”ไฮสปีดเทรนจีน-ลาว” เตรียมตัวให้พร้อม ลุยเปิดเมือง!
″รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว” จะมาแล้ว! ”อีสาน” เตรียมตัวให้พร้อม... ลุยเปิดเมือง แม้โควิด-19 ทำพิษ
6
11
8
6 บันทึก
11
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย